เจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งราชอาณาจักรอเมเลีย โรสแมรี่ โลโต อเมเลีย สะดุ้งตื่นเพราะเสียงความวุ่นวายด้านนอกเต้น เธอคว้าดาบยาวที่อยู่ใกล้ๆและตั้งท่าเตรียม ทันใดนั้น ผู้ที่กระโจนเข้ามาในเต้นก็คือ แอนนา อัศวินคุ้มกันของเธอเอง
“องค์หญิง! ศัตรูบุกเพคะ โปรดระวังพระวรกาย!!”
“ศ-ศัตรูบุก!?”
ฉันส่งเสียงประหม่าออกมา ทำให้ใบหน้าของแอนนาย้อมไปด้วยความขมขื่น
“จักรวรรดิเพคะ! มีหนอนบ่อนไส้เพคะ!”
เธอปล่อยคำพูดที่ราวกับกำลังสิ้นหวังออกมา
“ใคร!?”
“ลอร์ดแฟรคตันเพคะ อัศวินหลายนายแปรพักตร์ทำให้ตอนนนี้ตกอยู่ในสภาวะสงครามเพคะ!!”
ลอร์ดแฟรคตันเป็นขุนนางระดับสูงซึ่งเป็นหัวหอกของฝ่ายสนับสนุนกิลเบิร์ต เดิมทีพวกเราก็ขัดแย้งกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมเหล่าอัศวินมากประสบการณ์ที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ทั้งหมดอยู่ฝ่ายกิลเบิร์ต แย่แล้ว! คราวนี้เกินกว่าคำว่าแย่ไปไกลเลย! แอนนาทำท่าทีเหมือนจะร้องไห้ ฉันเลยลูบหัวเธอเบาๆเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์
“ไม่เป็นไร เราจะออกจากที่นี่ แล้วอาร์โนลด์ล่ะ!?”
นี่คือคำถามที่สำคัญที่สุดที่จะกำหนดเส้นทางชีวิตของพวกเรา
“ด-ได้รับรายงานว่าหมู่บ้านในระแวกนี้ถูกอสูรโจมตี……”
เป็นอย่างนั้นเหรอ พวกยามที่มากับฉันในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นอัศวินฝึกหัดที่ยังไม่มีประสบการณ์สู้จริง ไม่มีทางจะสู้กับพวกอสูรได้แน่นอนคนมีประสบการณ์ก็พอมี แต่ทุกคนเป็นอัศวินของฝ่ายกิลเบิร์ต ถึงแม้ว่าฉันจะออกคำสั่งให้ปกป้องเหล่าประชาชนแต่พวกเขาต้องปฏิเสธแน่ เพราะแบบนั้น ถ้าอาร์โนลด์รู้ว่าเหล่าประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถูกโจมตีล่ะก็เขาต้องรีบรุดไปทางนั้นแน่ ไม่สามารถตำหนิอาร์โนลด์ได้เพราะเรื่องในครั้งนี้ไม่มีทางที่เขาจะคาดคิดได้ว่าจะมีการก่อกบฏเกิดขึ้น
(กิล เธอจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ!?)
ตอนนี้ราชอาณาจักรอเมเลียที่เป็นบ้านเกิดอยู่ในช่วงของศึกชิงบัลลังก์ โดยมีเหล่าเชื้อพระวงศ์อยู่เบื้องหลัง และผู้ที่เข้าใกล้บัลลังก์มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ตัวฉัน องค์หญิงลำดับหนึ่งโรสแมรี่ โลโต อเมเลียกับกิลเบิร์ต โลโต อเมเลีย ถึงจะอย่างนั้น นี่ก็เป็นเพียงข้อพิพาททางการเมืองระหว่างคนในราชวงศ์เท่านั้น ไม่นึกเลยว่าฝั่ง กิลเบิร์ตจะแอบติดต่อกับจักรวรรดิซึ่งเป็นประเทศศัตรู
“เตรียมตัวให้พร้อมพวกเราจะออกจากที่นี่และไปสมทบกับอาร์โนลด์ ไปพาไคมาด้วย!”
ฉันออกจากเต้นโดยมีกรีชผูกเอวและดาบยาวในมือ แต่พอออกไปข้างนอกก็พบกับ อัศวินหลายนายนอนจมกองเลือดที่พื้น
“ไม่ได้นะครับ จะหนีไม่ได้นะครับ”
อัศวินผมทองเหยียบร่างของอัศวินที่นอนคว่ำอยู่ตรงพื้นพร้อมกับชี้ปลายดาบมาทางนี้
“ลอร์ดแฟรคตัน พวกคุณทรยศบ้านเกิดตัวเองงั้นเหรอ!!”
แอนนาขึ้นเสียงราวกับคำรามและจ้องไปยังเหล่าอัศวินที่เคยร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน ทำให้แฟรคตันที่ยืนอยู่ข้างๆแสยะยิ้มอย่างมีชัย
(แย่แล้วสิ……)
รอบๆถูกพวกคนชุดดำล้อมไว้หมดแล้ว ถ้ามีแค่พวกเขาล่ะก็แอนนาคงลงความเห็นว่าเป็นทหารรับจ้างที่พวกแฟรคตันจ้างมา แต่เหตุผลที่แอนนาลงความคิดเห็นว่าเป็นทหารของจักรวรรดิก็เพราะสองคนนั้น ข้อพิสูจน์ก็คือ ชายหัวเทาไร้ผมสวมผ้าคลุมสีแดงกับชายหนุ่มผมดำมีรอยแผลที่แก้ม ชุดของทั้งสองมีสัญลักษณ์นกศักดิ์สิทธิ์สองหัวสลักอยู่นั่นคือตราสัญลักษณ์ประจำชาติของจักรวรรดิกริโทเนียไม่ผิดแน่ สรุป พวกเขาคือทหารของจักรวรรดิ
เต้นทั้งหมดถูกทำลาย ฉันมองไปรอบๆแต่กลับไม่เจอไค บางทีอาจจะหนีเข้าป่าไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีไป เพราะถ้าอยู่ตรงนี้จะเป็นอันตรายมากกว่า
“กบฏเหรอเป็นคำที่ไม่ลื่นหูเลยนะ ที่ทรยศน่ะ องค์หญิงโรสคือฝั่งท่านเสียมากกว่า”
“ฉันทรยศ?หลักฐานรับรองเรื่องนั้นล่ะ?”
ฉันพอเข้าใจตรรกะของคนพวกนี้ ขายชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสิทธิพิเศษของพวกตน นั่นแหละคือคนเหล่านี้ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องถามหาความหมายเลยด้วยซ้ำ
“ท่านกำลังทำให้ประเพณีขุนนางราชอาณาจักรของพวกเรา——“
“อ๊ะ—ถ้าเป็นเรื่องนั้นล่ะก็พอแล้วล่ะ นั่นก็แค่ความเชื่อของฉันกับพวกคุณนั้นต่างกัน เป็นหลักฐานรับรองว่าฉันทรยศไม่ได้หรอกค่ะ สมคบคิดกับจักรวรรดิเพื่อขับไล่ฉัน ช่วยบอกหน่อยสิคะว่าอันไหนเป็นหลักฐานรับรองกันแน่”
ฉันขัดจังหวะประโยคของแฟรคตันโดยที่เจ้าตัวไม่คาดคิดและย้อนถามเขาด้วยคำถามเดิม ทำให้เขาจ้องมาที่ฉันอยู่พักหนึ่ง
“ถ้าท่านอภิเษกสมรสกับเจ้าชายลำดับสามของจักรวรรดิ ความขัดแย้งอันไร้ประโยชน์ระหว่างราชอาณาจักรกับจักรวรรดิก็จะยุติลง ยิ่งไปกว่านั้น องค์ชายกิลเบิร์ตก็จะขึ้นครองราชบัลลังก์ ประเพณีและระเบียบของบ้านเกิดเราก็จะได้รับการปกป้องพะยะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็แค่ยืนกรานอย่างสง่าผ่าเผยในที่นั่งประชุมก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?หรือว่าไม่ใช่?”
“นั่นก็เพราะว่า ท่านไม่ยอบรับ——“
“เพราะว่าฉันไม่ยอมรับเรื่องที่สมคบคิดกับประเทศศัตรูน่ะเหรอ? นั่นก็แค่ความคิดของคนทรยศเท่านั้นแหละค่ะ”
“……”
แฟรคตันกัดฟันโดยไม่พูดอะไร
“ทันทีที่คุณทำร้ายคนในราชอาณาจักรอเมเลีย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ก็เป็นได้เพียงแค่คนทรยศโสโครกเท่านั้นแหละค่ะ ควรละอายใจบ้างนะคะ!!”
ฉันพูดกระแทกออกไป ขณะนั้นเอง…
มีมวลสีขาวบินออกมาจากป่าเข้าปะทะกับลูกน้องของแฟรคตันที่กำลังเหยียบอัศวินฝึกหัดที่นอนจมกองเลือดที่พื้นอยู่ ทำให้ลูกน้องของแฟรคตันปลิวไปชนกับต้นไม้ด้านหลัง ทำให้ล้มลงและหยุดเคลื่อนไหวทันที
“อาร์โนลด์!”
เมื่อเห็นชายผมสีฟ้าล่ำสันถือดาบใหญ่เข้ามาในวิสัยทัศน์ ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา ของมันแน่อยู่แล้ว นั่นคือฮีโร่ของฉันสมัยยังเด็กที่อยากให้มาในตอนนี้มากที่สุด
“อ-อาร์โนลด์ ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่!?”
“หมู่บ้านข้างหน้ามันอยู่ไกลเกินไปน่ะ แล้วก็ ถ้าเป็นแค่นายพลานมันก็ลบกลิ่นอายเก่งเกินไปหน่อย เพราะอย่างนั้น ฉันเลยหักลำกลางคันกลับมาแต่ ดูเหมือนจะคิดถูกสินะ ”
หลังจากตอบคำถาม เขาก็ถือดาบใหญ่มาอยู่ตรงหน้าฉัน การปรากฏตัวของอาร์โนลด์แค่คนเดียว ทำให้พวกชุดคลุมสีดำที่ท่าทีผ่อนคลายจนถึงเมื่อกี้ ต่างพากันตื่นตัวและเตรียมอาวุธ
“หมายความว่ายังไง? ที่นี่น่าจะโดนพวกเสือดำกับโอเกอร์ล้อมไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ชายหนุ่มผมดำท่าทางราวกับสัตว์ป่าหันไปถามชายหัวเทาไร้ผมที่อยู่ข้างๆ
“ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน ถูกกำจัดไปแล้ว—ก็ไม่น่าจะใช่ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ถูกซุ่มโจมตี?”
ชายหัวเทาไร้ผมหันมามองทางนี้ด้วยสายตาเฉียบแหลม
“ม-ไม่ ไอ้คนแบบนั้น ไม่มีแน่ๆ!”
แฟรคตันตื่นตระหนกพร้อมกับส่ายหัว
“ชิ!เป็นความผิดพลาดของหน่วยอัญเชิญลูกเสือพวกนั้นเองไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ปฏิเสธ ตรวจสอบก่อน หลังกลับจักรวรรดิแล้ว ฉันจะกวดล้างพวกมันให้หมด ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้——“
ชายหัวเทาไร้ผมเหลือบมองชายผู้มีรอยแผลที่แก้มเหมือนจะสื่ออะไรซักอย่าง
“รู้แล้ว ทางนี้ก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
เขาพยักหน้าและก้าวออกมาพร้อมกับดึงดาบยาวที่เอวออกมา
“เกินคาดกับหน้าที่น่าเบื่อนั่นไปไกล ไม่นึกเลยว่าจะได้สู้กับอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักร ฉันซิกนิล กัสโทเรีย มาฆ่ากันให้สนุกจนกว่าวิญญาณจะสั่นสะท้านกันเถอะ!”
“จักรพรรดิดาบเหรอ…ไม่รับข้อเสนอ…คงไม่ได้สินะ”
อาร์โนลด์ยกดาบใหญ่ขึ้นพร้อมกับลดจุดศูนย์ถ่วง
“เริ่มประลอง” “เริ่มประลอง”
คำพูดเหล่านั้นเป็นสัญญาณให้นักดาบทั้งสองเข้าปะทะกัน
MANGA DISCUSSION