ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5837 เส้นทางที่คดเคี้ยวนำไปสู่ความสวยงาม(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5837
คำพูดของหลินหว่านเอ๋อร์ ทำให้เย่เฉินเริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกว่า“เมิ่งฉางเชิงยังมีชีวิตอยู่จริงๆหรือไม่” ทันทีที่ได้ยิน เหมือนกับว่าเป็นคำถามที่เหลวไหลไปนิด
ในตำราเก้าเสวียนเทียน ไม่ได้มีบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คนๆหนึ่งสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่าหนึ่งพันปีใดๆ ดังนั้นสิ่งนี้จึงได้แตะจุดบอดความรู้ของเขามาตั้งนานแล้ว
ในความเป็นจริง แม้กระทั่งตำราเก้าเสวียนเทียนก็ไม่มีบันทึกที่เกี่ยวข้องกับยายั้งอายุใดๆ
แม้กระทั่งหลินหว่านเอ๋อร์ก็เป็นจุดบอดทางความรู้ของเย่เฉิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมิ่งฉางเชิง
ในปัญหาข้อนี้ ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานโดยตรงมาพิสูจน์ความเป็นกับความตายของเมิ่งฉางเชิงในตอนนี้ แต่เย่เฉินก็ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย ความรอบคอบที่ควรมีก็ไม่สามารถตัดทิ้งได้เลยแม้แต่น้อย จะประมาทเลินเล่อไม่ได้
ดังนั้น เขาจึงกล่าวกับหลินหว่านเอ๋อร์: “ความคิดเห็นที่คุณหลินเอ่ยถึงเมื่อครู่นี้ ผมค่อนข้างที่จะเห็นด้วย เพียงแต่พวกเราได้มาถึงที่นี่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะหัวหดอยู่ในกระดองอีกแล้ว ไม่สู้ทำตามที่คุณหลินกล่าว พวกเราไปค้นหาคำตอบด้วยกัน”
หลินหว่านเอ๋อร์รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เย่เฉินจะยอมแพ้ง่ายๆ ยินยอมพาตนเองไปด้วย ได้เป็นการยอมอ่อนข้อให้มากที่สุดแล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้ากล่าวอย่างไม่ลังเล: “ค่ะ! ข้าน้อยไปด้วยกันกับคุณชาย!”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นถอนหายใจเบาๆ กล่าว: “ถ้าหากพวกเราสองคนไปด้วยกัน ลงไปจากตรงนี้ก็จะไม่ค่อยสอดคล้องกับความเป็นจริงเท่าไหร่ พวกเราวนกลับไป เข้าไปทางภูเขาที่เมืองเล็กๆนั้นที่อู๋เฟยเยี่ยนปรากฏตัวเถอะ”
“ค่ะ”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าอย่างว่าง่าย กล่าว: “ขอเพียงคุณชายยินยอมที่จะพาข้าน้อยไปด้วย ข้าน้อยยอมฟังคำสั่งของคุณชายทุกอย่าง”
ทั้งสองคนตกลงกันอย่างเป็นเอกฉันท์แล้ว เย่เฉินก็ไม่ได้โอ้เอ้อีกต่อไป เขาลงจากทางด่วนในช่องทางออกถัดไปแล้ววกกลับมา เมื่อพ้นจากตำแหน่งที่อู๋เฟยเยี่ยนกระโดดลงไป ขับรถมุ่งไปข้างหน้าต่อไปอีกหลายสิบกิโลเมตร ถึงลงจากทางด่วนที่เมืองเล็กๆนั้นที่อู๋เฟยเยี่ยนจากออกมา
แผนที่แสดงให้เห็นว่า เมืองเล็กๆเมืองนี้นอกจากทางด่วนแล้ว มีเพียงถนนขรุขระเพียงสายเดียวที่ทอดออกไปสู่โลกภายนอก จุดสิ้นสุดของถนนภูเขาห่างจากจุดเริ่มต้นของเชิงเขาของภูเขาลูกหนึ่งที่มีชื่อว่าภูเขาเฉียนเต้าไม่ไกลนัก ลงเขาข้ามผ่านเมืองเล็กๆ เชื่อมต่อกับถนนสายหลักของเมือง จากนั้นยื่นขยายออกไปยังทางเข้าออกของทางด่วน
ถ้าหากไม่ขึ้นทางด่วนตรงนี้ ขับรถมุ่งหน้าต่อไป สามารถทะลุไปถึงถนนหลวงเส้นหนึ่งของเตียนกุ้ย
ตำแหน่งที่อู๋เฟยเยี่ยนปรากฏตัว ก็คือเริ่มต้นจากภูเขาเฉียนเต้า จนกระทั่งถึงตรงกลางของเมืองเล็กๆ
ดังนั้น เย่เฉินจึงขับรถไปยังจุดที่อู๋เฟยเยี่ยนปรากฏตัว ตัดสินใจว่าจะเดินเท้าเข้าภูเขาจากที่ตรงนี้ โดยหลักๆแล้วมุ่งหน้าเดินไปยังทิศทางที่อู๋เฟยเยี่ยนทิ้งรถเอาไว้ ลองดูว่าจะสามารถเจอเบาะแสที่อู๋เฟยเยี่ยนทิ้งเอาไว้หรือไม่
อย่างไรก็ตามตอนที่อู๋เฟยเยี่ยนออกไปค่อนข้างรีบร้อนและจนตรอก เย่เฉินคาดเดาว่า เธอน่าจะไม่มีเวลาจัดการเบาะแสที่ตนเองทิ้งเอาไว้ได้
หลังจากที่ทั้งสองคนลงจากรถ เย่เฉินจึงนำอุปกรณ์สำหรับเดินเขาไปด้วย มุ่งหน้าเดินเข้าไปในภูเขาพร้อมกับหลินหว่านเอ๋อร์
หลังจากออกจากถนนชนบทแล้ว ก็ไม่ใช่ทางขรุขระของป่าดึกดำบรรพ์ในทันที สองข้างทาง เกือบทั้งหมดล้วนเป็นนาขั้นบันไดที่ชาวนาท้องถิ่นบุกเบิกเอาไว้ ดังนั้นย่อมต้องมีถนนเล็กๆเพื่อให้ผู้คนกับปศุสัตว์ และมอเตอร์ไซค์สามารถสัญจรได้
บังเอิญว่าทิศทางของถนนเล็กๆนี้ ประจวบเหมาะกับทิศทางที่เย่เฉินวางแผนจะไปค้นหา ดังนั้นทั้งสองคนจึงเดินมุ่งหน้าไปสู่ถนนเส้นเล็กนี้ต่อไป เดินมุ่งหน้าต่อไปในภูเขา
ทั้งสองคนปีนข้ามภูเขาเตี้ยๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยนาขั้นบันไดลูกหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าไปสู่บริเวณลึกต่อไป แต่เวลานี้สองข้างทางมีร่องรอยที่มนุษย์สร้างขึ้นยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่านานๆจะยังมีนาขั้นบันไดสักสองสามผืน แต่เนื่องจากค่อนข้างห่างไกลจากเมืองเล็ก ที่นี่ไม่ได้มีคนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อข้ามภูเขาลูกที่สอง ตอนที่เริ่มมุ่งหน้าเดินลงภูเขา เย่เฉินมองเห็นถนนเล็กที่ขรุขระสายนี้ในหุบเขาที่อยู่ข้างหน้า จากทางยาวสีดินแดง กลายเป็นรูปตัวYที่แคบยาว นอกจากนี้แล้ว ยังมีแม่น้ำสายคดเคี้ยวสายเล็กที่กว้างประมาณหนึ่งเมตรกว่า ทอดยาวไปตามหุบเขาไหลไปถึงเบื้องล่าง
แม่น้ำไหลผ่านจุดตัดของเส้นตรงรูปตัวYพอดี ที่ตรงนี้มีคนใช้ก้อนหินกองเป็นเสาหินห้ากอง แม่น้ำไหลผ่านช่องว่างทั้งสี่ของเสาหินห้ากองนี้อย่างช้าๆ เนื่องจากเสาหินห้ากองนี้ขวางความเร็วของน้ำไหล เพื่อให้น้ำไหลไปที่ด้านซ้ายของตัวอักษรูปตัวY กลายเป็นเขตแนวกันชนขนาดประมาณสี่ถึงห้าเมตร ลำธารเล็กที่เดิมทีมีความกว้างประมาณหนึ่งเมตร อยู่ที่ตรงนี้เพียงไม่นานก็กว้างขึ้นเกือบสามเสตรแล้ว