ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5568 เตือนภัยล่วงหน้า(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5568 เตือนภัยล่วงหน้า(1)
เมื่อเห็นผลของผังปากว้าชี้ไปที่เย่เฉิน หัวใจของหลินหว่านเอ๋อร์ ก็เกิดความตื่นกลัวขึ้นมา
เธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉิน คนส่วนใหญ่ ไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของเขาได้
ส่วนคนที่สามารถจะทำให้เขาต้องตกอยู่ในอันตรายได้นั้น จะต้องมีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า
เธออดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเอง“หรือว่าท่านเอิร์ลคนอื่นจะเดินทางมาที่เมืองจินหลิง?!ต้องเป็นอย่างนี้แน่!ไม่อย่างนั้น เย่เฉินคงไม่เตือนให้ฉันต้องระวังตัว!”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างไม่รู้ตัว อยากจะโทรไปหาเย่เฉิน
แต่ว่า เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดยังไง
เพราะว่า ตัวเองแกล้งโง่ต่อหน้าเย่เฉินมาโดยตลอด กว่าจะให้เขาลดเกราะป้องกันตัวเองได้ หากในเวลานี้ตัวเองเป็นฝ่ายไปพูดเตือน เกรงว่าเขาจะต้องเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้งเป็นแน่
ทว่า หลังจากที่หลินหว่านเอ๋อร์คิดทบทวนแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองน่าจะต้องพูดเตือนเย่เฉินสักหน่อย เพราะว่า เย่เฉินเป็นผู้มีพระคุณของตัวเอง เขามีอันตราย ตัวเองอาจช่วยเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเตือนให้เขารู้ล่วงหน้าได้
ดังนั้น หลังจากที่พินิจพิเคราะห์แล้ว ก็มาที่ระเบียง แล้วกดโทรไปหาเย่เฉิน
เย่เฉินในตอนนี้ กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ
ในตอนที่หยุดจอดรอสัญลักษณ์ไฟ มือถือก็มีเบอร์ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา
หลังจากที่กดรับ ก็ได้ยินเสียงของหลินหว่านเอ๋อร์ดังขึ้นจากปลายสาย “พี่เย่เฉิน ฉันหลินเสี่ยวหว่านนะ……”
เย่เฉินถามเธอด้วยความสงสัย“เสี่ยวหว่าน ว่ายังไง?มีอะไรเหรอ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วถามเขา“พี่เย่เฉิน พอสะดวกจะบอกวันเดือนปีเกิดของพี่ให้ฉันไหม ว่าคือวันไหน?”
ภายในใจของเย่เฉินสงสัย ไม่รู้ทำไมจู่ๆหลินหว่านเอ๋อร์ถึงมาถามวันเกิดของตัวเอง ดังนั้นก็จึงถามเธออย่างนึกสงสัยว่า“ทำไมเหรอ?จู่ๆมาถามถึงวันเกิดฉันทำไม?”
หลินหว่านเอ๋อร์ใช้คำพูดที่ได้ตระเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว เอ่ยตอบกลับไปว่า“เมื่อกี้พี่กำชับเราว่าช่วงนี้อย่าออกจากมหาลัยไปไหน ฉันเดาว่าพี่น่าจะกลัวว่าเราอาจจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นก็จึงทำนายดวงชะตาให้ตัวเองไป……”
“ทำนายดวงชะตา?”เย่เฉินจำได้ว่าตอนที่ตัวเองเจอกับหลินหว่านเอ๋อร์ที่ยุโรปเหนือนั้น ที่โต๊ะของเธอ มีเหรียญกษาปณ์ทองแดงเก้าเหรียญวางอยู่ ในตอนนั้นตัวเองคิดว่ามันน่าจะมีไว้สำหรับทำนายดวงชะตา แต่ก็ยังไม่เคยได้พิสูจน์
เย่เฉินเองก็ยังได้โทรถามกับล่ายชิงหวา ล่ายชิงหวาเคยบอกกับเขา ว่าหากเหรียญกษาปณ์ทองแดงเก้าเหรียญมีไว้เพื่อทำนายดวงชะตาแล้ว นั้นก็อาจจะเป็นเซียนทำนายกั้วในตำนานที่หายสาบสูญไปแล้ว และผังปากว้าแบบนี้ อาจจะสูงมากจนท่านล่ายเองยังไม่กล้าที่จะเทียบเคียง
ในตอนนั้นเย่เฉินยังคิดว่า เหรียญกษาปณ์ทองแดงเก้าเหรียญของหลินหว่านเอ๋อร์นั้นอาจแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่เมื่อมาดูในวันนี้ ไม่แน่ว่าหลินหว่านเอ๋อร์อาจรู้เรื่องอี้จิงปากั้วจริงๆ
ทว่า เขายังคงแสร้งถามเธออย่างสงสัย“เสี่ยวหว่าน เราทำนายดวงชะตาเป็นด้วยเหรอ?”
“ก็ได้นิดหน่อย……”หลินหว่านเอ๋อร์ตอบ“แค่ว่าเมื่อก่อนฉันไม่ค่อยได้ทำนายดวงชะตาให้ตัวเองเท่าไร เพราะทำนายมากไป จะถูกพระเจ้าลงโทษ”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า“ คงไม่ได้ลึกลับขนาดนั้นหรอกมั้ง?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยกยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า“จะลึกลับจริงหรือเปล่า ฉันเองก็ไม่รู้”
พูดจบ เธอก็วกเข้าเรื่องวันเดือนปีเกิดของเย่เฉิน แล้วพูดต่อว่า“พี่เย่เฉิน พี่บอกวันเกิดของพี่ให้ฉันได้ไหม ฉันจะได้ช่วยพี่ทำนายดูหน่อย?”
เย่เฉินในตอนนี้ ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ
จังหวะขั้นตอนการพูดของหลินหว่านเอ๋อร์ เป็นไปอย่างดีเยี่ยม
เห็นชัดว่าเธอรู้ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเย่เฉิน แต่ก็ยังจะโทรมาถามวันเดือนปีเกิดของเย่เฉิน เพื่อที่จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ไปสืบเสาะอะไรที่เกี่ยวกับเย่เฉินเลย เพื่อให้เย่เฉินเชื่อ ว่าตัวเองแค่อยากจะทำนายดวงชะตาให้เขาเท่านั้น ดังนั้นก็ถึงได้โทรมาถามวันเดือนปีเกิดของเขา