ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5361 เลือกเสี่ยงอันตราย 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5361 เลือกเสี่ยงอันตราย 2
เหล่าจางทอดถอนใจ กล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณหนู อย่าหาว่าผมพูดมากเลยนะครับถ้าคุณหนูซ่อนตัวจากโลกภายนอกอยู่ในโฮมสเตย์จื่อจินแห่งนี้ ต้องเป็นทางเลือกที่ดีอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณหนูเรียนมหาลัย แบบนั้นจะต้องพบปะกับผู้คนมากมาย ถึงแม้จะเป็นพวกนักศึกษาก็เถอะ แต่ตราบใดที่มีการปรากฏตัวมากขึ้น ก็ย่อมมีอันตรายนะครับ!”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า: “เรื่องนี้ฉันเข้าใจ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีวิธีอื่นแล้ว ด้วยทรัพยากรและกำลังที่ฉันรวบรวมได้ คิดจะต่อต้านองค์กรพั่วชิงมันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น อีกอย่างฉันก็ไม่อยากหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปตลอดชีวิต โอกาสเดียวที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในตอนนี้ได้ ก็คือร่วมมือกับเย่เฉิน ถ้าฉันไม่ไปเรียนในมหาลัยแห่งนั้น เกรงว่าโอกาสที่จะร่วมมือกับเย่เฉินสำเร็จคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นถึงการตัดสินใจแบบนี้มันจะอันตราย แต่ฉันก็ยินดีที่จะลองดู!”
เหล่าจางกล่าวด้วยความกังวล: “เป็นผมที่ใบไม้บังตา ไม่รู้ว่าคุณหนูคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบเอาไว้แล้ว ผมยังคิดมีหน้าเสนอความคิดเห็นกับคุณหนูอีก คมควรตายจริง ๆ ……”
หลินหว่านเอ๋อร์โบกมือ: “เหล่าจาง ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยงทั้งนั้น ที่ฉันต้องทำ คือเลือกเสี่ยงอันตรายที่มากขึ้น เพื่ออนาคตที่ดียิ่งกว่า หากต้องตายเพราะมัน ฉันก็เต็มใจ ขอแค่เย่เฉินสามารถปกป้องแหวนวงนั้นของพ่อฉันเอาไว้ได้ ไม่ให้มันตกอยู่ในมือขององค์กรพั่วชิง ฉันก็พอใจมากแล้ว”
เหล่าจางพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดแสดงความยินดี: “คุณหนู ผมเข้าใจแล้วครับ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็จะไม่รบกวนคุณหนูแล้ว!”
……
ในเวลาเดียวกันนั่นเอง
เย่เฉินได้รับสายโทรเข้าจากเฉินเสี่ยวจาว ทันทีที่รับสาย เฉินเสี่ยวจาวก็กระซิบเสียงเบา: “อาจารย์เย่ อาจารย์หงคนนั้นได้มารายงานตัวกับคุณตาของฉันแล้วค่ะ!”
“งั้นเหรอ?” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “ดูท่าตาเฒ่านั่นคงจะทะลวงขั้นแล้วสินะ เขามาท่าทียังไง?”
“ท่าทีของเขาก็ดีนะคะ……” เฉินเสี่ยวจาวกล่าวอย่างประหม่าเล็กน้อย: “แต่เขารั้นจะมาทำงานให้กับคุณตาที่จี้ซื่อถังให้ได้ แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรที่ต้องให้พวกเขาช่วยทำ ตอนนี้ก็เอาแต่นั่งอยู่ในร้านเท่านั้น……”
เย่เฉินยิ้มกล่าว: “ไม่เป็นไร ให้เขานั่งอยู่ที่นั่นแหละก่อน ค่ำ ๆ เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่น”
“ค่ะ!” เฉินเสี่ยวจาวกล่าวด้วยความขอบคุณ: “อาจารย์เย่ ครั้งนี้ขอบคุณคุณมากจริง ๆ ถ้าไม่ได้คุณ ชื่อเสียงที่คุณปู่สร้างมาทั้งชีวิต เกรงว่าคงถูกทำลายด้วยน้ำมือของคนแซ่หงนั่นแน่”
เย่เฉินกล่าวอย่างเรียบ ๆ : “เรื่องง่าย ๆ เอง ไม่ต้องเกรงใจ ครั้งหน้าหากเจอเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้อีก ก็ให้บอกฉันได้ทันที”
เมื่อคุยโทรศัพท์กับเฉินเสี่ยวจาวเสร็จ เย่เฉินก็เตรียมตัวแล้วขับรถออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังจี้ซื่อถังของซือเทียนฉี
ภายในจี้ซื่อถังในตอนนี้ ซือเทียนฉีกำลังพาเฉินเสี่ยวจาวตรวจอาการให้กับคนไข้ พนักงานในร้านกำลังจัดยาให้กับผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจและได้รับใบสั่งยาแล้ว หงฉางชิงที่ผอมแห้งและไว้หนวดสีขาว ตอนนี้กำลังคุยกับพนักงานคนนั้นอยู่: “ไอ้หนุ่ม วางตาชั่งนั่นลง ให้ฉันช่วยนายจัดยานะ!”
พนักงานคนนั้นบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ: “ผมไม่ให้คุณช่วยจัดยาหรอก คุณช่วยผมจัดยาแล้วจะให้ผมไปทำอะไรล่ะ”
หงฉางชิงกล่าวอย่างหงุดหงิด: “ไอ้หมอนี่ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กบ้างเลย? ในเมื่ออาจารย์เย่ให้ฉันมารายงานตัวกับหมอเทพซือ ฉันก็จะนั่งเฉย ๆ ไม่ได้! อย่างน้อยก็หาเรื่องให้ฉันทำบ้างสิ ฉันช่วยนายจัดยา นายไปนั่งพักผ่อนที่ข้าง ๆ มันไม่ดีกับทั้งสองฝ่ายเหรอ?”
“เชอะ” พนักงานกล่าวอย่างเย้ยหยัน: “คนฝันไปเถอะ! ผมไม่ให้คุณหรอก! เก่งจริงคุณก็ตีผมสิ ดูซิว่าถึงตอนนั้นอาจารย์เย่จะจัดการคุณหรือไม่!”
“นี่นาย!” หงฉางชิงกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว แต่เผชิญหน้ากับเจ้าหนุ่มคนนี้ เขาก็ไม่กล้าจะลงมือจริง ๆ หรอก จึงได้แต่กล่าวอย่างคับแค้นใจ: “ไอ้หนุ่ม เอาแบบนี้ดีไหม พวกเราให้ความสะดวกแก่กันและกัน ฉันรับนายเป็นศิษย์ลงชื่อ ต้องให้นายสุขกายสบายใจไร้ที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน!”
พนักงานเบ้ปาก: “ใครจะเป็นศิษย์ลงชื่อของท่านกัน! จะให้เรียนวิชาโกงหน้าด้าน ๆ กับคุณอย่างนั้นเหรอ?”
บนใบหน้าของหงฉางชิงเต็มไปด้วยความโมโห ชี้หน้าพนักงานคนนั้น โกรธจนพูดไม่ออก
ในตอนนี้เองเย่เฉินได้เดินเข้ามา พร้อมกล่าวหยอกล้อ: “โย่ว สีหน้าของอาจารย์หง ดูไม่ค่อยดีเลยนะ!”