ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5303 คุณธรรม 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5303 คุณธรรม 1
“บททดสอบ?” ซูจือเฟยมองแม่ด้วยความสงสัยแล้วถามว่า“แม่หมายความว่าอย่างไร”
ตู้ไห่ชิงพูดอย่างจริงจัง: “จุดประสงค์หลักที่ เย่เฉิน มาที่นี่ในวันนี้คือเพื่อถามคำถามนั้นกับลูก เพื่อดูว่าลูกจะใช้โอกาสนี้เพื่อถอนตัวจากการแสวงบุญหรือไม่”
ซูจือเฟย ถามแม่: “แล้วคุณเย่คิดจะทดสอบอะไรผม? ทดสอบว่าผมจริงใจหรือไม่?”
“ประมาณนั้น!” ตู้ไห่ชิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วอธิบาย: “ลักษณะนิสัยของเย่เฉินคล้ายกับพ่อของเขามาก แม้ว่าแม่จะไม่รู้จักเย่เฉินดี แต่แม่รู้จักเย่ฉางอิงเย่ ซึ่งเขาแตกต่างจากผู้นำส่วนใหญ่ เงื่อนไขการเลือกคนของเขาไม่ได้ดูที่ความสามารถหรือภูมิหลังแต่ดูที่คุณธรรม”
หลังจากเงียบไปสักพักตู้ไห่ชิงกล่าวต่อ: “ในสายตาของเขา ไม่ว่าคนๆหนึ่งจะมีความสามารถมากเพียงใด แต่หากคนๆ นั้นไม่มีคุณธรรม เขาจะไม่เข้าใกล้และยิ่งไม่มีทางเอาเข้าไปในกิจการของเขา”
“แต่ตอนนี้หลายคนไม่สนใจเรื่องนี้ จุดเริ่มต้นของเจ้านายหลายคนไม่ได้มีเจตนาดี พวกเขาเพียงต้องการบีบเอาความสามารถและคุณค่าของอีกฝ่ายหนึ่งออกมาแล้วทิ้งมันไปตามต้องการ ดังนั้นเมื่อพวกเขาเลือกใช้คนจึงมองที่ความสามารถเป็นอันดับแรกไม่ใช่ดูเรื่องคุณธรรม แต่คนเหล่านี้ก็เหมือนดาบสองคมแม้จะสร้างมูลค่าได้ในช่วงเวลาสั้นๆ คนสองคนที่มีเจตนาร้ายและต้องการเอาชนะ จะสร้างชัยชนะร่วมกันได้อย่างไร? ดังนั้นในระยะยาวสถานการณ์แบบนี้จะต้องสร้างผลเสียมากกว่าผลดี และด้วยเหตุนี้เงื่อนไขแรกของเย่ฉางอิงในการเลือกคนจึงต้องผ่านด่านทดสอบคุณธรรม ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ตู้ไห่ชิงพูดต่อ: “เย่เฉิน ต้องมีเจตนาบางอย่างที่ให้เหออิงซิ่วสั่งกักบริเวณพ่อพวกแก แค่ซูโสว่เต้าคิดได้และบรรลุตามมาตรฐานบททดสอบของเย่เฉิน เย่เฉินก็จะให้อิสระแก่เขา ไม่เชื่อพวกแกก็รอดู หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งในวันที่8เขาจะได้อิสรภาพกลับคืนมา”
ซูจือเฟยถามด้วยความประหลาดใจ: “แม่หมายความว่ายังไง คุณเย่มีความประสงค์จะเลือกผม”
ตู้ไห่ชิงพูดอย่างจริงจัง: “อาจจะไม่ใช่ลูก แต่อาจจะใช้น้องสาวของลูก”
ซูจือหยูพยักหน้าและพูดว่า “งั้นรอให้พี่ชายกลับมาจากแสวงบุญ ก็สามารถกลับเข้าไปทำงานในซูซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!”
“ถูกต้อง” ตู้ไห่ชิงถอนหายใจ: “เย่เฉิน ทดสอบพี่ชายก็เพื่อลูก เขามีความคิดเช่นเดียวกับพ่อของเขา”
ละเอียดมาก
ซูจือเฟยเงียบไปครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็พูดเสียงดัง: “แม่ ผมเข้าใจความหมายของคุณเย่แล้ว… เขาต้องการให้ผมแบ่งเบาภาระให้จือหยูอย่างสบายใจและปราศจากสิ่งรบกวน แต่ก่อนอื่นคือเขาต้องรู้สึกว่าได้ว่าประพฤติกรรมของผมดีขึ้นกว่าก่อนแล้ว ถ้าผมยังคงเป็นคนเดิมที่สามารถแปรพักตร์ได้อยู่ตลอดเพื่อผลประโยชน์ เขาจะไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของตระกูลซูอย่างแน่นอน”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ถูกต้อง ตามนั้น ฉะนั้นลูกห้ามมีความคิดอื่นใดหากลูกทำให้เขาผิดหวังอีกครั้ง เขาอาจไม่ให้โอกาสลูกอีก”
ซูจือเฟยพูดโดยไม่ลังเล: “แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกไม่ใช่คนเดิมที่ต้องการสืบทอดตระกูลซูแล้ว แสวงบุญในช่วงเวลานี้ทำให้ผมเข้าใจว่าชีวิตนี้ไม่ควรทำให้ญาติพี่น้องผิดหวัง ในอนาคตหากมีส่วนไหนที่จือหยูต้องการผมจะทำให้ดีที่สุด ถ้าเธอไม่ต้องการผมผมก็จะไม่ต่อสู้เพื่อแย่งทรัพย์สินของตระกูลซู แค่เงินในบัญชีของผมก็มากพอที่ผมจะใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลไปตลอดชีวิต”