ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5088 ตรรกะการสร้างรหัสลับ2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5088 ตรรกะการสร้างรหัสลับ2
ว่าแล้วผู้อาวุโสก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง : “คนแบบนี้ ใช้สถานะของตัวเอง ไม่เพียงแค่ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคนอื่นสืบหาได้ อีกทั้งการใช้ชีวิตก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆด้วย”
“เนื่องจากว่านอกจากที่ผมบอกไปเมื่อครู่นี้ จำเป็นจะต้องอาศัยชื่อกับหมายเลขบัตรประชาชนถึงจะสามารถค้นหาข้อมูลเขาได้ เอกสารข้อมูลทั้งหมดของเขา ความจริงแล้วล้วนแต่เป็นช่องทางในการสืบค้นเพียงทางเดียว ;”
“อย่างเช่น ตำรวจค้นหาบัตรประจำตัวประชาชนของเขา เพียงแค่ตำรวจใช้อุปกรณ์ในการอ่านบัตรประชาชนของเขา ก็จะสามารถหาข้อมูลของเขาในระบบได้ แบบนี้ ตำรวจก็จะไม่พบความผิดปกติใดๆ ;”
“ถ้าหากเขาอยากจะนั่งเครื่องบิน เพียงแค่ตอนที่เขาซื้อตั๋วใช้เพียงแค่ชื่อและบัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกต้อง ถือเพียงบัตรประชาชนก็สามารถเช็คอินขึ้นเครื่องได้อย่างราบรื่นแล้ว;”
“ถ้าหากเขาอยากจะออกนอกประเทศ นั่นก็ใช้ชื่อและพาสปอร์ตของเขาในการจองตั๋ว ถึงตอนนั้นใช้เพียงแค่พาสปอร์ตของเขาก็สามารถออกจากด่านไปได้อย่างราบรื่น ;”
“แต่ถ้าหากใครอยากจะเอาข้อมูลที่เขาเช็คอินเครื่องบินไปสืบข้อมูลในทางกลับกันนั้นก็จะไม่สามารถหาเจอ ถ้าหากคุณอยากจะค้นหาว่ามีคนชื่อเย่เฉินขึ้นเครื่องบินในประเทศหรือเปล่า แต่คุณรู้เพียงแค่ชื่อของเขา ข้อมูลของเขาก็จะไม่ปรากฏออกมาเช่นกัน”
คิ้วทั้งสองข้างที่เหมือนกับใบหลิวของหลินหว่านเออร์ขมวดเข้าหากันอยู่ตรงกลาง แสดงอาการที่ดูจริงจังและเป็นกังวลออกมา
ลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เธอก็เอ่ยถามผู้อาวุโสขึ้น : “ไม่ว่าคนที่ฉันต้องการจะหาเป็นแบบหนึ่งหรือแบบที่สอง จากตำแหน่งของคุณและกำลังคนของคุณแล้ว สามารถสืบหาข้อมูลเหล่านี้ที่ถูกซ่อนเอาไว้ได้หรือเปล่าคะ?”
ได้ยินหลินหว่านเออร์เอ่ยถาม ผู้อาวุโสเม้มปาก เอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจ : “คุณหนู ความจริงเบื้องหลังเรื่องนี้ ยังมีตรรกะพื้นฐานที่ยุ่งยากมากอีกอย่างหนึ่ง”
หลินหว่านเออร์ : “คุณว่ามาสิ”
ผู้อาวุโสเอ่ยขึ้น : “ไม่ว่าจะเป็นแบบแรกหรือแบบที่สอง จำนวนคนที่ถูกซ่อนเอาไว้นั้นความจริงแล้วไม่นับว่าน้อยเลย บุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง เจ้าหน้าที่สืบราชการลับ สถานะล้วนแต่ถูกสร้างรหัสลับเอาไว้ทั้งนั้น ทั้งประเทศรวมๆกันแล้วก็มีกว่าหมื่นคน”
พูดถึงตรงนี้แล้ว ผู้อาวุโสก็เปลี่ยนประเด็นมาอีกครั้ง : “แต่ที่ยุ่งยากก็คือตรงที่ คนที่ถูกซ่อนเอาไว้ทั้งสองแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคลังข้อมูล แต่คนที่จะได้มาสัมผัสกับฐานข้อมูลนี้ส่วนมาก ล้วนแต่ไม่มีสิทธิสูงสุดของฐานข้อมูลนี้”
“นั่นก็คือ ถ้าหากในตอนนี้ผมใช้สองวิธีนี้เพื่อซ่อนข้อมูลของคนสองคน ต่อให้ผมมีสิทธิในฐานข้อมูลนี้ ผมเองก็สามารถดูข้อมูลได้แค่สองคนนี้เท่านั้น ข้อมูลของคนอื่นๆ ผมก็ไม่มีสิทธิเข้าอ่าน ไม่เพียงแค่ไม่มีสิทธิอ่าน แม้แต่ในนั้นมีคนอยู่กี่คนผมก็ไม่รู้เลยอีกด้วย ;”
“พูดอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้ว่าคุณเองก็มีสิทธิที่เกี่ยวข้องของฐานข้อมูลนี้ คุณเองก็ไม่สามารถที่จะหาข้อมูลของคนที่อยู่ในฐานข้อมูลที่ผมซ่อนเอาไว้ได้เหมือนกัน พวกเราสองคนตัดขาดกันไป;”
“อีกทั้ง ในนี้ยังมีสาขา ระดับของแต่ละคน สิทธิที่มีก็ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น หน่วยงานสืบราชการลับ ผู้รับผิดชอบสูงสุด มีสิทธิในการอ่านข้อมูลทั้งหมดที่ซ่อนเอาไว้ของหน่วยงานสืบราชการลับ แต่ไม่มีสิทธิในการเข้าไปอ่านสถานการณ์ของหน่วยงานอื่นๆ”
หลินหว่านเออร์คิดแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น : “จะต้องมีคนที่มีสิทธิในการอ่านฐานข้อมูลทั้งหมดนี่ใช่ไหมคะ?”
ผู้อาวุโสหัวเราะออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก : “คุณหนู คนที่มีสิทธินั้นมีน้อยมากๆ มือเดียวก็สามารถนับได้แล้ว อีกทั้งบุคคลเหล่านี้ ไม่มีทางที่จะยอมปล่อยข้อมูลให้กับคนที่ไม่มีสิทธิเป็นอันขาดอยู่แล้ว ดังนั้นทางนี้ผมไม่สามารถเดินไปได้”
“ฉันเข้าใจแล้ว” หลินหว่านเออร์พยักหน้าลง รู้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ข้อมูลจากมือของคนที่มีสิทธิในการอ่านฐานข้อมูล
ดังนั้นเธอจึงครุ่นคิดอยู่นาน แล้วจู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น : “ใช่สิ ถ้าหากคนๆนึงไม่ได้ถูกซ่อนสถานะเอาไว้มาตั้งแต่เกิด ถ้าอย่างนั้นข้อมูลก่อนที่เขาจะถูกซ่อนยังจะสามารถหาได้ไหมคะ?”