ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4925 ในที่สุดก็รอจนได้พบ3
ดังนั้น แม้จะมีคนธรรมดาทั่วไปที่ต้องการจะแอบเข้าไปภายในสนามบิน ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะทำมันได้สำเร็จ
แน่นอนว่า นี่คือเหตุการณ์ก่อนที่จะได้เจอกับเย่เฉิน
สำหรับเย่เฉินแล้ว รั้วเหล็กที่สูงสามเมตรแบบนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย แค่เขากระโดดเบาๆ ในขณะที่สามารถกระโดดข้ามรั้วเหล็กนี้ไปได้ ก็ยังสามารถหลบซ่อนตัวจากกล้องวงจรปิดทั้งสองข้างได้ด้วย
ดังนั้น ยี่สิบนาทีก่อนที่เครื่องจะร่อนลง เย่เฉินได้แอบเข้าไปภายในสนามบินอย่างง่ายดาย ด้านข้างของรันเวย์ที่มืดมิด รอเครื่องบินโบอิ้ง777ลงจอดอย่างเงียบๆ
เนื่องจากในตอนนี้เป็นเวลาตีสอง ทั่วทั้งสนามบินก็จึงอยู่ในความเงียบสงัด
เย่เฉินในตอนนี้ใส่ชุดหูฟังไร้สาย ในสายก็กำลังพูดคุยสื่อสารกับว่านพั่วจวิน และหลี่ญ่าหลินแบบเรียลไทม์
ในตอนนี้ ว่านพั่วจวินบอกกับเย่เฉิน“คุณเย่ ตามข้อมูลขาเข้าและขาออกของสนามบิน คืนนี้เที่ยวบินผู้โดยสารที่เข้าและออกนั้นได้สิ้นสุดแล้ว ที่เหลือเป็นของเครื่องบินขนส่งสินค้า และภายในช่วงสามชั่วโมงนี้เครื่องบินขนส่งขาเข้ามีเพียงเจ็ดลำ ระยะห่างของช่วงเวลายาวนานมาก เครื่องบินที่กำลังจะลงจอด ก็คือโบอิ้ง777ของฟาร์ไทยอินเตอร์เนชั่นแนลเอ็กซ์เพรส”
เย่เฉินตอบกลับเสียงเบา“ก่อนที่เครื่องจะลงจอด เรามาตรวจสอบข้อมูลกันอีกครั้ง”
“ได้ครับคุณเย่”
ห้านาทีต่อมา ทางทิศใต้บนท้องฟ้า เย่เฉินก็เห็นแสงไฟที่กะพริบแล้วเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ
เขาได้ตรวจสอบเทียบเคียงกับว่านพั่วจวิน ด้วยวิถีทางของเครื่องบิน เป็นเครื่องบินลำนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
จากนั้น แสงไฟดวงนั้นก็ขยับเข้ามา ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่า ก่อนที่จะลงจอดเครื่องบินลำนั้นได้เปลี่ยนทิศทาง จากทิศใต้ของสนามบินไปยังฝั่งทิศเหนือ สิบห้านาทีผ่านไป ร่อนทวนลมลงทางด้านทิศเหนือของรันเวย์
สายตาของเย่เฉินจับจ้องอยู่ที่เครื่องบินลำนี้อยู่ตลอด เมื่อเห็นมันลงจอดแล้วเปิดระบบเบรก ลดความเร็วของเครื่องบินที่แตะลงพื้น จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางภายใต้การควบคุม ออกนอกเส้นทาง ไปยังลานขนส่งสินค้าทางทิศใต้ของสนามบิน
ขณะเดียวกัน เย่เฉินก็ตามติดเครื่องบินลำนี้ไปตลอดทาง ท่ามกลางความมืดอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่นาทีต่อมา เครื่องบินลำนี้ก็จอดนิ่งสนิทที่ตรงด้านนอกลานขนส่งสินค้า
พนักงานขนถ่ายสินค้าหลายคนได้ประจำที่เตรียมทั้งรถยกและรถบรรทุกขนย้ายไว้พร้อม รออยู่ก่อนล่วงหน้าแล้ว
รอจนประตูเครื่องบินขนส่งสินค้าเปิดออก พนักงานขนถ่ายสินค้าได้ขับรถยกขนาบไปยังด้านข้างของห้องสินค้า หลังจากที่ประตูห้องสินค้าของเครื่องบินเปิดออก ก็เริ่มขนถ่ายสินค้าที่วางกันอยู่บนพาเลท นำออกมาจากห้องสินค้าทีละชิ้น
เนื่องจากการขนส่งเครื่องบินใช้วิธีการขนส่งแบบโมดูลาร์ สินค้าทุกชิ้นถูกบรรจุแยกชิ้นเป็นหีบห่อ โดยทั่วไป เป็นแผ่นอะลูมิเนียมพิเศษที่มีขนาด310*240ซม แผ่นอะลูมิเนียมถูกวางในตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้ สินค้าทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ และถูกลำเลียงไปวางในห้องโดยสารของเครื่องบินแบบทั้งชิ้น เวลาที่ยกสินค้าลงก็ใช้วิธีการยกแบบทั้งชิ้นเพื่อประสิทธิภาพในการขนถ่ายที่ดีที่สุด
เครื่องบินลำนี้ขนถ่ายพาเลททั้งสี่ชิ้นได้อย่างรวดเร็ว และแต่ละพาเลทก็ราวกับมีของบรรจุมาจนเต็ม มองไม่เห็นถึงความผิดปกติใดๆ
เย่เฉินพูดเสียงเบา“ในตอนนี้ สินค้าที่ขนลงจากเครื่องบิน ล้วนเป็นสินค้าที่ดูปรกติ ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ”
ว่านพั่วจวินอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา“คุณเย่ อีกฝ่ายซ่อนทหารหน่วยกล้าตายไว้ในสินค้านั้นหรือเปล่า?”
เย่เฉินได้ปล่อยปราณทิพย์ไปตรวจสอบสินค้าเหล่านั้น พูดอย่างมั่นใจ“ในสินค้าเหล่านี้ไม่มีคน อย่างน้อยก็แค่ในส่วนที่ขนย้ายลงมานี้แล้วเท่านั้น”
พูดจบ จู่ๆคิ้วของเย่เฉินก็ขมวดขึ้นในทันที อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา“น่าแปลก”
ที่ทำให้เย่เฉินต้องแปลกใจก็คือ เพื่อจะขนถ่ายพาเลทเหล่านี้ลงมา พนักงานขนถ่ายที่อยู่ด้านล่างต้องคอยสลับหมุนเวียนกัน ทุกครั้งที่พาเลทถูกขนย้ายลงมา พวกเขาก็ต้องเปลี่ยนอีกคนขึ้นไปทำหน้าที่แทน