ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4423 รู้จักสำนึกบุญคุณมากที่สุด
จงหยุนชิวรู้ ครั้งนี้ตนจะต้องเลือดออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแน่นอน
แต่ว่า ตอนนี้ลูกชายหายไป ตนยังหวังให้ฮงหยวนซานช่วย ดังนั้น ได้แต่พูดอย่างเคารพว่า:”พ่อ คุณพูดมาเถอะ ต้องการให้ผมช่วยเหลืออะไรบ้าง ถ้าผมช่วยได้ ผมจะทำอย่างทุ่มสุดตัวไปเลย”
ฮงหยวนซานพยักหน้าอย่างพอใจ และพูดถอดใจว่า:”ยังต้องเป็นนายกยุนชิวที่รู้จักสำนึกบุญคุณมากที่สุด!”
พูดไป เขาก็ถอนหายใจ และพูดอีกครั้งว่า:”เฮ้! ช่วงนี้ ธุรกิจลักลอบนำเข้าเนื้อแช่แข็งของฉัน ดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ธุรกิจนี้ตอนทำมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย โดยเฉพาะตอนที่เนื้อแช่แข็งเพิ่งมาถึง สูญเสียไปมากเกิน ฝ่ายต่อต้านการลักลอบจับตาดูจุดนี้อยู่ เราเลยสูญเสียสินค้าจำนวนมาก ดังนั้น ฉันอยากให้นายช่วยฉันจดทะเบียนบริษัทขนส่ง ด้วยชื่อเสียงของนายบนเกาะฮ่องกง บริษัทขนส่งของนายต้อง มีที่ว่างสำหรับการดำเนินงานมาก ตอนนั้นนายสามารถช่วยฉันนำสินค้าเข้ามาได้ ”
จงหยุนชิวตกตะลึง และโพล่งออกมา:”พ่อ ผม ผมใช้เวลามาตั้งหลายปี กว่าจะล้างบาปได้ ตอนนี้พ่อจะให้ผมหันกลับไปจดทะเบียนบริษัทลักลอบนำเข้าอีก ถ้าเหตุการณ์นี้หลุดออกไป ผมต้องจบแน่นอน!”
ฮงหยวนซานโบกมือ และพูดปลอบว่า:”หยุนชิว นายอย่าตื่นเต้นขนาดนั้นสิ ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะให้นายทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หลังจากที่นานลงทะเบียนบริษัทขนส่งแล้ว นายดำเนินธุรกิจที่ถูกกฎหมายได้ตามปกติ และฉันจะจัดการส่งคนแอบยัดเนื้อแช่แข็งในการขนส่งปกติของพวกนาย ในสถานการณ์ปกติจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเด็ดขาด หากเกิดเรื่องขึ้น นายแค่ต้องหาคนจากลูกน้องของนาย มาเป็นแพะรับบาปให้นาย และเอาสิ่งเหล่านี้โดยในชื่อเขาก็ได้แล้ว บอกว่าเขาโลภมากจนขาดสติ ใช้ทรัพยากรของบริษัทในการลักลอบขนสินค้า แบบนี้นายก็จะไม่เป็นไรแล้วไง?”
จงหยุนชิวฟังจนเหงื่อตก แล้วพูดว่า:”พ่อ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วย แต่เรื่องแบบนี้มันเสี่ยงเกินไปสำหรับผมริงๆ และพ่อก็รู้ สื่อในเกาะฮ่องกง พวกเขาชอบขุดให้ลึกและเปิดโปงงานใหญ่……”
พูดไป จงหยุนชิวกัดฟัน และพูดอย่างปวดใจว่า:”พ่อ งั้นเอางี้ ตอนนี้ทางการเงินของสำนักฮงเหมินลำบาก ในเมื่อพ่อขอผม ผมก็จะไม่ยืนดูเฉยๆ อย่างแน่นอน ในอีกสามปีข้างหน้า ผมจะหาวิธีดึงเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้สำนักฮงเหมิน ส่วนเงินนี้จะใช้ยังไง ก็แล้วแต่ความชอบของพ่อ!”
ฮงหยวนซานหน้าบึ้ง ขยับแหวนนิ้วโป้ง แล้วพูดถอดใจว่า:”หยุนชิว นายกตัญญูจริงๆ ! แค่บอกว่าจะให้30 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับไอ้แก่อย่างฉัน ทั้งเกาะฮ่องกงก็หาลูกบุญธรรมที่กตัญญูเหมือนนายไม่ได้แล้ว”
เมื่อพูดถึงนี้ ฮงหยวนซานเปลี่ยนเรื่อง และพูดอย่างจริงจังว่า:”ถ้าฉันเป็นแค่ไอ้แก่คนหนึ่ง เงินแค่นี้คงจะพอฉันใช้จนตาย แต่นายอย่าลืมว่า ในมือฉันยังมีปากอีกหลายพันปาก รอกินข้าวอยู่ เงินแค่นี้ไม่พอสำหรับฉันหรอก”
“นอกจากนี้ เมื่อก่อนฉันทำแค่การนำเข้าและขายสินค้า ไม่ยุ่งการจัดส่ง คนที่ทำช่วงนี้เอากำไรไปมากแล้ว ดังนั้นฉันจึงอยากทำสัก20-30รายการใหญ่ๆ และส่งของเอง สร้างผลกำไรสูงสุดให้สำนักฮงเหมิน ซื้อเรือ แรงงาน ยังไงก็ต้องเตรียมเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ฮ่องกง”
จงหยุนชิวตกตะลึง ในใจด่าแทบตายแล้วว่า:”ไอ้เวรฮงหยวนซาน! สามปีให้แก30 ล้านดอลลาร์ยังไม่พอใจอีก! โลภขนาดนี้ไม่กลัวจุกรึไง!”
แต่ตอนนี้ จงหยุนชิวก็ไม่กล้ามีปัญหากับฮงหยวนซาน รีบกัดฟัน และพูดตัดสินใจอย่างลำบากว่า:”พ่อ เอางี้ สามปี 50 ล้านดอลลาร์ นี่เป็นขีดจำกัดของผมแล้วจริงๆ พ่อก็รู้ ตอนนี้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ กระแสเงินสดของทุกสาขาอาชีพนั้นแย่มาก สินทรัพย์ส่วนใหญ่ถูกลดจำนวนลงเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และไม่มีโอกาสเปลี่ยนเป็นเงินสดเลย และชีวิตของผมก็ลำบากมากเช่นกัน !”
ฮงหยวนซานเลิกคิ้วและพูดว่า:”หยุนชิว เราคนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจ นายสามปีให้ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับสำนักฮงเหมิน ซึ่งเท่ากับ 20 ล้านในต่อปี สำหรับการตอบแทน ฉันสัญญาไม่ว่านายจะเอาอะไร ขอแค่นายพูด ทั้งสำนักฮงเหมินจะเป็นของนาย!”
หัวใจของจงหยุนชิวสั่นไปหมด
“สามปี60 ล้านดอลลาร์ มันเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเลยนะ!”
“500ล้าน!”