ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 339
บทที่ 339
เว่ยเลียงถูกเตะลงกับพื้น เขาปวดท้องอย่างแรง และใบหน้าแดงก่ำ
แต่ตัวเขาเองก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา ได้แต่ลุกขึ้นอย่างเงียบๆ ได้แต่ลุกขึ้นยืนอยู่ด้านหลังของเว่ยฉางหมิง ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เย่เฉินเหลือบมองเว่ยเลี่ยงมากขึ้น
จากร่างของเขา มันทำให้เย่เฉินเหมือนเห็นตัวเองสมัยก่อน
ถูกคนอื่นดูหมิ่นและเหยียดหยาม แม้จะทำให้อับอายเพียงใด ก็ได้แต่ก้มหน้าทนไว้และรอขณะที่ไม่มีใครสังเกต เขาจะค่อยๆลุกฮือขึ้นอย่างเงียบๆ
ในตอนนั้นเอง เซียวเวยเวยพูดกับเว่ยฉางหมิงว่า “ที่รักคะ มันไม่คุ้มค่าหรอกนะที่ต้องมาโกรธไอ้คนไร้ประโยชน์กับลูกนอกสมรสนี่ เรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”
เว่ยฉางหมิงพยักหน้า
เย่เฉินคนไร้ประโยชน์กับเว่ยเลี่ยงลูกนอกสมรส ในสายตาของเขา ดูเป็นขยะทั้งนั้น แม้เขาจะต้องสูญเสียภายใต้เงื้อมมือของเย่เฉิน แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าเย่เฉินจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก่อน
ในทางตรงกันข้าม เขากับรอโอกาสเพื่อที่จะได้ตอบโต้ระบายความเกลียดชังกับเย่เฉิน
เย่เฉินเองก็ขี้เกียจที่จะโต้เถียงกับคนกลุ่มนี้ เหตุผลที่มางานนิทรรศการนี้ก็เพื่อโสมม่วงชั้นเลิศที่อายุสามร้อยปี
สำหรับเซียวอี้เฉียนและเว่ยฉางหมิง หากพวกเขายังเสแสร้งแกล้งทำแบบนี้ต่อไป นั่นก็จะทำให้เขามีโอกาสจัดการพวกนั้นอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นเซียวอี้เฉียน เว่ยฉางหมิงและคนอื่นๆไปแล้ว
ซือเทียนฉีได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจออกมา “เซียวอี้เฉียนคนนี้นี่มันทำร้ายตัวเองอยู่นะ ไม่น่ามีชีวิตอยู่เสียจริง!”
ฉินกางเอ่ยปากว่า “ท่านอาจารย์เย่ หมอเทพซือ พวกเราเข้าด้านในกันเถอะ อย่าให้คนพวกนั้นมามีผลกระทบอะไรกับเราเลย”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าผมไม่สนใจตัวตลกพวกนี้หรอก”
สองสามคนเดินเข้าไปในห้องโถงนิทรรศการ มีวัสดุทำยามากมายวางอยู่บนเคาน์เตอร์ แต่ละคนก็ต่างแสดงวัสดุยาของตัวเอง
ฉินกางเชิญเย่เฉินเข้ามาตรวจบูธของเขาก่อน ตระกูลฉินเป็นตระกูลที่ทำกการค้าตัวยายาวนานเป็นทศวรรษ มีตัวยาโชว์หลายสิบโหล แต่ละตัวที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ต่างเป็นตัวที่หายากทั้งนั้น
ฉินกางกล่าวกับเย่เฉินว่า “ท่านอาจารย์เย่ หากในนี้มีตัวยาที่ท่านต้องการ ขอแค่ท่านบอกมา ผมจะหยิบให้ท่านทันที”
เย่เฉินพยักหน้า “รอให้ผมได้โสมม่วงชั้นเลิศที่อายุสามร้อยปีมาก่อนเถอะ ตอนนั้นผมคงจะทำการปรุงยาใหม่ แล้วจะบอกนะว่าต้องการอะไร”
ฉินกางพูดกับเย่เฉินทันทีว่า “หากท่านอาจารย์เย่ต้องการสิ่งใด แม้เป็นคำสั่ง ฉินกางก็จะพยายามอย่างเต็มที่!”
เย่เฉินมองไปรอบๆงานแสดงสินค้า ก็ไม่พบวัสดุยาที่เขาสนใจเลย ซึ่งนั่นทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าวัสดุทำยาส่วนใหญ่ก็ดูเป็นของธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก
เมื่อเดินได้สักพัก ก็ถึงเวลาประมูลสินค้า เย่เฉิน ฉินกางและซือเทียนฉีทั้งสามคนได้เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่ทำการประมูลราคา
ห้องประมูลทั้งหมดนั้นมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับคนได้หลายล้านที่นั่ง
ด้านหน้าของห้องประมูล มีกล่องกระจกโปร่งใสวางอยู่ ตรงกลางมีโสมม่วงชั้นเลิศที่อายุสามร้อยปี
หลังจากที่เย่เฉินเห็นโสมม่วงนั้น เขาก็ยินดีเป็นอย่างมาก
เขารู้ว่าโสมม่วงนั้นมีพลังทางยาที่ถือว่าแข็งแกร่งมาก หากมองจากสายตาของเขา นี่คือโสมม่วงชั้นเลิศที่อายุสามร้อยปี แต่ในความจริงแล้วมันมีอายุมากกว่าสี่ร้อยปี แถมคุณภาพดีมากอีกด้วย