ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) - ตอนที่ 4.2
隣のクーデレラを甘やかしたら、ウチの合鍵を渡すことになった
[ตอนที่ 4.2 : มือถือเครื่องแรก]
“ขอบคุณที่อุดหนุนนะค้า~~”
หลังจากที่พนักงานส่งเสียงขอบคุณอย่างร่าเริงนัตสึโอมิกับวิลเลียสก็ได้เดินออกมาทางประตูเลื่อนอัตโนมัติของร้านขายมือถือ
จากนั้นนัตสึโอมิก็หยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาในตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินและท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม
ส่วนวิลเลียสที่ยืนข้างๆนัตสึโอมิในขณะนี้ก็ได้ยิ้มมาทางเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขพร้อมกับมือถือเครื่องใหม่ที่อยู่ในมือ
“ขอบคุณมากนะคะคาตากิริซัง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณวันนี้ฉันคงมาซื้อไม่ได้แน่ๆ”
วิลเลียสได้ขอบคุณนัตสึโอมิด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อย
ในตอนนั้นวิลเลียสซังซะงักกับคำถามของพนักงานที่ถามว่า “อยากได้รุ่นอะไรคะ”
และจากนั้นเธอก็หันมาทางผมด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วเธอก็กระซิบถามผมว่า “คาตากิริซัง…”เพราะงั้นผมเลยแนะนำเครื่องรุ่นเดียวกับผมถ้าเกิดว่าเธออยากจะถามอะไรผมก็จะสามารถตอบได้เพราะผมเคยใช้มาก่อน
ตอนแรกผมก็แปลกใจที่เธอเลือกสีชมพู แต่พอได้เห็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มในขณะที่ถือมือถือเอาไว้แบบนั้นผมก็คิดว่านี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน
“วิลเลียสซังรู้สึกยังไงบ้างครับกับการซื้อมือถือครั้งแรก?”
เมื่อนัตสึโอมิถามไปแบบนั้น วิลเลียสก็ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่นึงแล้วยิ้มออกมาอย่างซุกซน
“น่าจะประมาณว่า “ยื่นแก้วให้วานร” มั้งคะ”
(ผู้แปล : ยื่นแก้วให้วานร-การให้ของมีค่ากับคนที่ไม่รู้คุณค่าของมัน)
“เอ๊ะ?…หมายความว่าไงกันครับ?”
พอได้เห็นความสับสนของนัตสึโอมิ วิลเลียสก็ได้หรี่ตาลงพร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุขราวกับว่าเธอเป็นเด็กซุกซนที่กำลังกลั่นแกล้งเขาได้สำเร็จ
นัตสึโอมิก็เผลอยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นความขี้เล่นที่หาได้ยากของเธอมันอาจจะเป็นเพราะว่าเธอเพิ่งจะซื้อมือถือมาได้เลยทำให้เธอมีความสุข
“แล้วมีแอพอะไรบ้างครับที่คุณอยากจะใช้”
“แอพ?”
“มันเป็นคำพูดย่อๆที่มาจากคำว่าแอปพลิเคชันที่ใช้เรียกพวกเบราว์เซอร์,เกม,หรือพวกที่เอาไว้ดูคลิปวิดีโออะไรประมาณนี้ครับ”
“ขอโทษนะคะ คือฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่..”
“อ๊ะ ใช่สินี่เป็นครั้งแรกของคุณนี่นา ขอโทษนะครับ”
พอนัตสึโอมิคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ไตร่ตรองก่อนพูดเขาจึงขอโทษเธอออกไป
“เอาล่ะงั้น เรามาเริ่มที่การเพิ่มรายชื่อเพื่อนของเบอร์โทรดีมั้ยครับ แล้วตอนนี้คุณมีเบอร์ติดต่อของครอบครัวรึยัง?”
“ค่ะ เบอร์ของพี่สาวของฉันคือ—”
วิลเลียสเปิดกระเป๋าสะพายเพื่อหาอะไรบางอย่างจากนั้นเธอก็หลังค่อมด้วยความผิดหวัง
“ขอโทษค่ะ ดูเหมือนว่าฉันจะลืมไว้ที่บ้าน”
“ไม่เป็นไรครับ คุณไม่ต้องเศร้าขนาดนั้นก็ได้”
นัตสึโอมิได้ปลอบวิลเลียสที่กำลังรู้สึกหดหู่
(….หรือว่าจะเอาเบอร์ของฉันไปสอนเธอดี)
แต่ประเด็นก็คือผมไม่ใช่แม้กระทั้งเพื่อนของเธอด้วยถ้าจะให้ผมเป็นคนแรกของรายชื่อช่องทางติดต่อก็คงไม่ได้ด้วย
ถ้าเป็นผมก็คงไม่ได้คิดอะไรมากแต่ถ้ามองในมุมมองของวิลเลียสแล้วละก็…
จากนั้นนัตสึโอมิก็รู้สึกแปลกๆอย่างบอกถูกทำให้เขาได้ขมวดคิ้ว
“งั้นเอาไว้กลับถึงบ้านผมค่อยสอนคุณก็ได้ครับ”
วิลเลียสได้เอียงศีรษะของเธอเมื่อได้ยินนัตสึโอมิพูดออกมาแบบนั้น
“ถ้าเป็นเบอร์ของคาตากิริซังไม่ได้เหรอคะ?”
“เอ๊ะ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ครับ ตะแต่ว่า”
“แต่?”
“….คุณโอเคงั้นเหรอครับที่จะให้ผมเป็นคนแรกในรายชื่อติดต่อ?”
“ทำไมล่ะ? เรื่องแค่นั้นเอง”
“เปล่าครับ มันก็แค่…”
นัตสึโอมิไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงดีส่วนวิลเลียสก็จ้องมาด้วยความสงสัย
แน่นอนว่ามันไม่มีผลกระทบอะไรหรอกแต่ก็แค่ผมรู้สึกอายสุดๆเลยไงล่ะแต่ถ้าวิลเลียสซังไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้วละก็ทำก็ได้วะ
วิลเลียสยังคงจ้องมองไปที่นัตสึโอมิและในที่สุดนัตสึโอมิก็ยอมแพ้
“…..ถ้าวิลเลียสซังบอกว่าไม่เป็นไรแล้วละก็ ถ้างั้น…”
“ค่ะ ฝากด้วยนะคะ”
วิลเลียสโค้งขอบคุณนัตสึโอมิที่ยอมทำให้อย่างเป็นเต็มใจ
พอคิดว่ามีแค่ตัวเองที่คิดมากไปคนเดียวนัตสึโอมิก็พยายามที่จะสงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้วค่อยๆอธิบายให้วิลเลียสฟัง
“งั้นวิลเลียสซังลองกดไปที่ไอคอนรูปโทรศัพท์ก่อนสิครับ”
“อันนี้งั้นเหรอ? กดแล้วค่ะ?”
หลังจากเปิดขึ้นมาวิลเลียสก็ป้อนหมายเลขโทรศัพท์ตามที่นัตสึโอมิบอกทีละตัว
จากนั้นเธอก็พิมตรงหัวข้อชื่อว่า “คาตากิริ นัตสึโอมิ”
“จากนั้นก็กดตรงปุ่มบันทึกแค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ”
“อ่อ วิธีบันทึกเป็นแบบนี้นี่เอง”
จากนั้นนัตสึโอมิก็มองดูไปที่ คาตากิริ นัตสึโอมิ เพื่อยืนยัน
ส่วนด้านวิลเลียสหลังจากที่บันทึกเสร็จเธอก็มองดูพร้อมกับยิ้มออกมา
“เสร็จแล้วค้า คาตากิริซังเป็นครั้งแรกของฉัน”
“เฮ้ยๆ นั่นมันเป็นคำพูดที่ดูอันตรายมากเลยนะนั่น ถ้าเธออยากจะบอกคนอื่นให้พูดว่า”เขาเป็นคนแรกที่อยู่ในรายชื่อติดต่อของฉัน”แบบนี้จะดีกว่านะเข้าใจมั้ย”
“อันตราย? ยังไงเหรอคะ”
“เธอไม่ได้พูดผิดอะไรหรอกแต่ก็แค่มันดูสองแง่สองง่ามอ่ะ”
“คาตากิริซังหมายความว่ายังไง ทำไมมันถึงอันตรายกันคะ? บอกฉันที”
“ไม่ครับ ไม่มีอะไรอันตรายทั้งนั้น ช่วยใจเย็นก่อนสิครับ”
นัตสึโอมิได้พยายามโน้มน้าววิลเลียสที่มีความอยากรู้อยากเห็นที่สูงปรี๊ดพร้อมกับบอกให้เธอใช้คำพูดแบบที่เขาบอกแทนที่จะไปใช้ไอ้คำสั้นๆนั่น
ผมรู้ว่าวิลเลียสซังน่ะไม่มีเจตนาพูดในเชิงแบบนั้นซักกาาานิดดดแน่นอนแต่ถ้าเธอไปบอกคนอื่นๆในรูปแบบนั้นแล้วละก็มันจะกลายเป็นการเข้าใจผิดแบบสุดขั้วเลยล่ะเพราะงั้นการที่ได้บอกเธอไว้ก่อนมันก็ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ
จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าประตูตรวจตั๋วพอดีนัตสึโอมิก็ได้อุทานออกไปว่า “อ๊ะ ผมลืมเติมบัตร IC ไปเลย” เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่อง
(ผู้แปล: IC Card – บัตรที่ใช้ในการชำระค่าโดยสารต่างๆ)
พอนัตสึโอมิสามารถผ่านประตูตรวจตั๋วได้สำเร็จและรอรถไฟของสถานีชานชาลาที่เต็มไปด้วยฝูงชนที่กำลังรอจะกลับบ้านจากนั้นวิลเลียสที่ยืนอยู่ข้างนัตสึโอมิก็ได้พึมพำอะไรบางอย่างออกมาพร้อมกับแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว
“ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้างถ้าไม่ได้พบกับคาตากิริซัง..”
นัตสึโอมิได้หันหน้าไปมองวิลเลียสที่กำลังมองท้องฟ้าพร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า
“ฉันมาที่ญี่ปุ่นก็เพราะอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ถ้าฉันไม่ได้พบกับคาตากิริซังแล้วละก็ฉันคงจะทำมันไม่ได้แน่ๆ”
พอเธอพึมพำกับตัวเองเสร็จเธอก็ก้มหน้าลงมามองเบอร์โทรศัพท์ที่มีแค่ของนัตสึโอมิคนเดียว
“ไม่จริงหรอกครับ คุณก็พูดโอเวอร์ไป”
“ไม่ค่ะที่ฉันพูดมันเป็นความจริง”
นัตสึโอมิได้เอานิ้วมาถูที่จมูกแต่ไม่ได้คันที่ทำไปก็เพื่อจะซ่อนความอายของตัวเองจากคำพูดของวิลเลียสพร้อมกับรอยยิ้มของเธอ
ตอนที่ผมกับเธอพบกันครั้งแรกเธอนั้นมีใบหน้าที่เย็นชาและไร้อารมณ์แต่ตอนนี้เธอมีรอยยิ้มที่น่ารักแบบสุดๆไปเลยสำหรับผมนะผมว่ารอยยิ้มแบบนี้เข้ากับเธอมากจริงๆ
ความน่ารักแบบนั้นได้ดึงดูดใจของนัตสึโอมิจนไม่สามารถหยุดดูได้
“…ผมดีใจนะครับที่สามารถช่วยคุณได้”
หลังจากที่นัตสึโอมิตอบกลับไปไม่กี่คำเสียงรถไฟจากระยะไกลก็ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะจอดและหลังจากผู้โดยสารคนอื่นๆลงจากรถเสร็จนัตสึโอมิก็ได้เดินขึ้นไปและวิลเลียสก็เดินตามนัตสึโอมิโดยที่พวกเขาทั้งสองจับราวที่อยู่ใกล้ประตู
“อ๊ะ พอกลับถึงบ้านก็ถึงเวลาที่ข้าวกล่องลดราคาจะวางขายแล้วนี่นา”
“ใช่ วันนี้ผมก็ไม่อยากทำอาหารด้วยผมว่าผมคงจะต้องไปซื้อแล้วล่ะ”
“งั้นพวกเราไปด้วยกันมั้ยคะ?”
“ในเมื่อวิลเลียสซังพูดมาแบบนั้นผมก็ไม่ขอปฏิเสธละกัน”
นัตสึโอมิหัวเราะพร้อมกับยอมรับขอเสนอของวิลเลียส
บนรถไฟในระหว่างที่กำลังกลับบ้านนัตสึโอมิก็ได้ติดตั้งแอพส่งข้อความไว้บนโทรศัพท์ของวิลเลียสพร้อมกับแลกไอดีกันจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ลองส่งข้อความหากัน
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ ถ้าคุณเกิดมีปัญหาอะไรบอกผมได้ทุกเมื่อเลยนะ”
หลังจากส่งข้อความเสร็จพวกเขาทั้งคู่ก็ยิ้มให้กันและลงจากรถไฟ
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
แลกเบอร์กันแล้วเว้ยเฮ้ย
ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya