ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) - ตอนที่ 4.1
隣のクーデレラを甘やかしたら、ウチの合鍵を渡すことになった
[ตอนที่ 4.1 : มือถือเครื่องแรก]
ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมาถึงวันเสาร์แล้ว
ในขณะที่นัตสึโอมิกำลังยุ่งอยู่กับการอ่านมังงะจากอีบุ๊คเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
“นัตจัง พรุ่งนี้ว่างมั้ยยังไงก็คงว่างอยู่แล้วแหละเพราะงั้นไปช็อปปิ้งกับฉันทีไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเพื่อนหรอกนะแต่ไปกับนัตจังฉันจะรู้สึกสบายใจกว่าและอีกอย่างนายก็รู้ดีหนิว่าฉันเป็นผู้หญิงแถมยังอยู่ในวัยแบบนั้นด้วยเพราะแบบนั้นฉันเลยมักจะถูกจีบอยู่บ่อยๆขอล่ะมากับฉันทีฉันไม่อยากไปคนเดียว”
“คุณผู้หญิงดูเหมือนว่าคุณจะโทรมาผิดเบอร์นะครับ…งั้นก็บ๊ายบาย”
“ระ ระ รอเดี๋ยวสิ!! ฉันมั่นใจว่าไม่ได้โทรผิดแน่ก็ชื่อของนายอยู่ในรายชื่อเพื่อนของฉันแล้วเพราะงั้นได้โปรดอย่าวางสายเลยนะนัตจังงงฉันขอโทษษ!!”
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ในวันรุ่งขึ้น(วันอาทิตย์)ตอนบ่ายสอง
ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดที่แสนจะล้ำค่าของผมแต่ก็ต้องมาลงเอยด้วยการไปช็อปปิ้งกับคาสึมิและในตอนนี้ผมก็ยืนอยู่หน้าประตูตรวจตั๋วของสถานีโยโกฮาม่าจากนั้นผมก็ขึ้นรถไฟและใช้เวลาประมาณสิบนาที
ในการไปถึงที่นัดหมายแต่พอไปถึงจู่ๆก็มีสายจากคาสึมิโทรเข้ามา
“นัตจังขอโทษนะ กราบงามๆเลยค้าาฉันผิดไปแล้ววเพราะงั้นยกโทษให้ฉันทีก็ฉันไม่รู้นี่นาว่าวันนี้ฉันจะต้องส่งรายงาน”
“อะไรฟระ เธอเป็นคนบังคับฉันเองแท้ๆแต่ทำไมจู่ๆถึงมายกเล-”
นัตสึโอมิยังไม่ทันที่จะบ่นจบ คาสึมิก็ได้ตัดสายของเขาทิ้งไปซะแล้ว
แน่นอนว่านัตสึโอมิไม่ยอมแน่ๆเขาได้โทรกลับไปหาคาสึมิแต่เธอก็ไม่รับพร้อมส่งสติกเกอร์ซามูไรที่มีข้อความว่า”ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ายิ่งนัก”กลับมา
อะไรฟระจู่ๆก็ทำกันงี้เลยเหรอวะเวรเอ้ยยย
นัตสึโอมิได้สูญเสียเวลาในวันหยุดที่แสนจะมีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์
(ไหนๆก็มาถึงแล้ว ลองเดินดูหน่อยดีกว่า..)
ถึงแม้ว่าการมาที่นี่จะใช้เวลาไม่นานก็เถอะแต่ผมก็คิดว่ามาถึงที่นี่ทั้งทีก็ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า
ถ้าไม่ทำงี้ละก็ผมได้เสียเวลาครึ่งวันไปอย่างเปล่าประโยชน์เพราะยัยพี่เวรนั่นแน่ๆดังนั้นผมจึงตัดสินใจใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างไม่เต็มใจ
พอผ่านไปสักพักนัตสึโอมิก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อดีและได้ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
เรื่องซื้อเสื้อผ้าตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะได้ส่วนเรื่องร้านเกมก็ไม่อยากไปและถ้าพูดถึงคาเฟ่ผมก็ไม่ใช่ประเภทที่จะไปนั่งอยู่คนเดียวในนั้นด้วยสิ
(….หรือจะกลับบ้านดี)
ขณะที่นัตสึโอมิกำลังจะยอมแพ้กับเรื่องตัวเลือกในการเที่ยวเขาก็ได้สะดุดตากับหนุ่มหล่อสองคนที่กำลังพยายามชวนผู้หญิงคนนึงอยู่
“ไปเที่ยวกับพวกผมเถอะ หรือจะแค่ไปดื่มด้วยกันก็ได้”
“ใช่ๆ มาเถอะพวกผมจะเลี้ยงคุณเอง”
ชายทั้งสองคนนั้นได้พูดชวนอย่างไม่เกรงใจโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างเลย
(…พวก”ขี้หลี”สินะไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีจริงๆ)
ถึงแม้ว่าผมจะเคยได้ยินเรื่องมาบ้างแล้วก็เถอะแต่ก็ไม่เคยเห็นกับตาจริงๆเพราะงั้นผมเลยอดไม่ได้ที่จะหันไปดูพวกเขา
พวกผู้ชายที่ดูท่าทางเพลย์บอยนั่นดูเหมือนว่าจะเป็นนักศึกษาส่วนผู้หญิงคนนั้นก็มีผมยาวดำเป็นประกายและเธอก็ใส่ชุดสีขาว กระโปรงสีน้ำเงินเข้มยาวถึงเข่าพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างที่ดูเรียบง่ายแต่ถึงแบบนั้นเธอก็ดูสวยสุดๆ
จากนั้นผมที่ปกปิดใบหน้าของเธอก็ได้เปิดออกเลยทำให้นัตสึโอมิสังเกตเห็นใบหน้าที่งดงามและดวงตาสีฟ้าครามคู่นั้น
“เอ๊ะ?….วิลเลียสซังงั้นเหรอ?”
จู่ๆชื่อของคนที่รู้จักก็หลุดออกมาจากปากนัตสึโอมิ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ถ้างั้นให้พวกผมพาไปที่ร้านที่คุณอยากไปมั้ยครับ คุณคงจะไม่รู้ทางสินะ”
“ใช่ๆเดี๋ยวพวกเราพาไปเอง โอเคมั้ยครับ?”
“เออ….ม-ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้นผมขอเบอร์ของคุณได้มั้ยครับ?”
“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน คุณต้องการอะไรก็บอกมาได้เลยนะค้าบบ”
วิลเลียสในตอนนี้ดูหนักใจและสับสนเป็นอย่างมากกับการที่เธอถูกผู้ชายสองคนรุมถามและถูกต้อนไปทางมุมที่ไม่มีทางให้หนี
(…น่าเป็นหวงจริงๆเลย)
ก็เธอเป็นคนที่น่ารักและมีเสน่ห์มากเลยนี่นาก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะตกเป็นเป้าหมายของพวกผู้ชายแบบนี้
แต่อย่างน้อยพวกเอ็งก็นึกถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างสิฟระถ้าจะเข้าไปจีบอ่ะ
ถึงผมจะเป็นพวกที่ไม่ชอบใช้ความรุนแรงและเกลียดในเรื่องนี้มากๆเลยก็เถอะแต่สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดก็คือการที่เมินเฉยต่อคนรู้จักที่กำลังมีปัญหา
(…..คงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ)
นัตสึโอมิได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่และจากนั้นเขาก็เรียกพวกผู้ชายตรงนั้นเพื่อที่จะเข้าไปช่วย “เจ้าหญิง” ที่กำลังถูกรบกวนอยู่
“ขอโทษนะครับผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของผมเองพวกคุณกำลังมีปัญหาอะไรอยู่รึเปล่า?”
ผู้ชายทั้ง2คนหันมามองที่นัตสึโอมิรวมถึงวิลเลียสด้วย
นัตสึโอมิเอียงศีรษะพร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติเดินเข้าไปหาทั้ง3คนที่กำลังทำท่าทางประหลาดใจ
“ค-คาตากิริซัง?…”
“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ”
วิลเลียสเบิกตากว้างมองไปที่นัตสึโอมิที่กำลังยกมือทักทายแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาทั้งสองนั้นนัดเจอกันพอพวกผู้ชายได้เห็นแบบนั้นพวกเขาก็รีบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ ขอโทษด้วย”
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ บาย”
หลังจากที่ก้มหัวขอโทษด้วยเสียงที่แผ่วเบาพวกเขาทั้งสองก็ได้เดินจากไปภายในพริบตา
ถึงพวกเขาจะตามตื้อแต่ก็ยอมแพ้เร็วผิดคาดเลยแฮะราวกับว่าพวกเขาชินกับเรื่องแบบนี้และหนีออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
ผมว่าพวกเขาคงจะไปหาเป้าหมายอื่นต่อแน่ๆพวกเขาคงจะคิดว่าแทนที่จะมาเสียเวลากับผู้หญิงที่ปฏิเสธซะขนาดนั้นไปหาผู้หญิงคนอื่นคงจะดีกว่าอะไรประมาณนี้ละมั้ง
ทันทีที่ผู้ชายทั้งสองคนเดินลับสายตาไปนัตสึโอมิก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับหันไปมองที่วิลเลียส
“คุณโอเคมั้ยครับ? ขอโทษนะถ้าเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
“คะ–คาตากิริ….ซัง..”
วิลเลียสกอดตัวเองแน่นและฟุบลงไปนั่งยองๆ
“ค..คือว่า..ฉัน..กลัวมากจริงๆ”
เสียงของเธอสั่นคลอนพร้อมกับร่างกายเล็กๆที่กำลังสั่นไปด้วยความกลัว
เธอได้เอาหลังพิงกำแพงเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองทรุดตัวลงพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างกอดตัวเองแน่น
ยังไงก็เถอะนี่ก็เป็นประเทศที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเธอการที่จู่ๆมีผู้ชายแปลกหน้ามารุมจีบก็คงไม่แปลกที่เธอจะกลัว
แม้แต่คาสึมิที่เป็นคนญี่ปุ่นยังกลัวเรื่องแบบนี้เลยและผมที่เป็นผู้ชายก็เหมือนกัน
พอมองไปที่วิลเลียสซังซึ่งยังคงนั่งตัวสั่นอยู่แบบนั้นผมก็รู้สึกผิดที่เอาแต่ยืนดูในตอนแรก
“ขอโทษนะครับผมน่าจะเข้าไปช่วยให้เร็วกว่านี้”
“ม..ไม่เป็นไรค่ะ…ขอบคุณที่เข้ามาช่วยนะคะ”
เธอได้ลุกขึ้นมาจากนั้นเธอก็โค้งตัวขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่ดูเหนื่อยล้า
(….แบบนี้คงปล่อยเธอเอาไว้คนเดียวไม่ได้แล้วล่ะ)
นี่คือสิ่งที่นัตสึโอมิคิดในขณะที่มองไปยังใบหน้าที่ดูซีดของเธอและเธอเองก็ยังไม่ปล่อยมือจากการกอดตัวเองเอาไว้
“วิลเลียสซังทำไมคุณถึงมาที่โยโกฮาม่ากันละครับ?”
“ค..คือว่า..ฉันมาซื้อ..มือถือค่ะ”
“มือถือ?…เอ๊ะ นี่คุณยังไม่มีเลยงั้นเหรอครับ?”
“ค่ะ…”
ก็จริงแฮะผมไม่ยักจะเห็นเธอจับมือถือเลย
นัตสึโอมิที่ไม่เคยคิดที่จะขอช่องทางในการติดต่อของวิลเลียสเลยไม่ได้สังเกตในเรื่องนี้
“ฉันคิดว่าไม่มีมันก็คงไม่เป็นอะไร แต่ครอบครัวของฉันได้บอกผู้อำนวยการว่าให้ฉันซื้อติดตัวไว้สักเครื่องเพื่อที่พวกเขาจะสามารถติดต่อฉันได้”
“อ่อ เพราะงั้นคุณเลยมาที่นี่สินะแต่ในตอนที่มาถึงคุณก็เจอกับเหตุการณ์แบบนั้นเลยเหรอ?”
“ค่ะ”
วิลเลียสได้ขมวดคิ้วและพยักหน้าให้กับนัตสึโอมิ
ในมุมมองของพวกที่เข้าไปจีบพวกเขาคงจะคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติแต่ถ้ามองในมุมมองของคนโดนเรื่องแบบนี้มันคงจะน่ากลัวมากแน่ๆ
แม้แต่ผมที่ได้เตรียมใจเอาไว้แล้วก่อนที่จะเข้าไปช่วยเธอยังรู้สึกกลัวสุดๆไปเลยแล้ววิลเลียสซังที่เป็นผู้เสียหายจะรู้สึกกลัวขนาดไหนกัน
จากนั้นนัตสึโอมิก็รู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาพยายาปฏิเสธคาสึมิเมื่อคืนนี้
พอคิดได้แบบนั้นนัตสึโอมิก็หันไปหาวิลเลียสพร้อมกับพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
“วิลเลียสซังที่ผมจะพูดต่อจากนี้ไม่ได้จะโทษอะไรคุณเลยนะแต่ว่าคุณควรจะระวังให้มากกว่านี้นะครับเพราะคุณมีหน้าตาที่ดูดีทำให้มักจะดึงดูดคนประเภทนี้มาบ่อยๆเพราะงั้นถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกให้รีบปฏิเสธแล้วหนีเลยนะครับ”
“ค่ะ ขอโทษนะคะ”
นัตสึโอมีพยายามทำตัวให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ว่าวิลเลียสกลับทำท่าทางเหมือนกับเด็กที่กำลังถูกดุอยู่เลย
มันเป็นความจริงที่ว่าเธอนั้นมีรูปร่างที่ดูดีมากและเป็นที่สะดุดตาสุดๆเพราะงั้นผมเลยตักเตือนเธอด้วยความหวังดีแน่นอนว่าผมตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแต่ผมจำเป็นที่จะต้องพูดมันออกมา
“เอาล่ะๆงั้นไปหาที่ที่สามารถทำให้หัวเย็นลงก่อนเถอะถ้าคุณจะไปซื้อมือถือก็ไว้หลังจากที่ใจเย็นลงก่อนแล้วกันเดี๋ยวผมจะไปเป็นเพื่อนเอง”
“เอ๊ะ?…คุณจะไปกับฉันเหรอคะ?”
วิลเลียสได้เงยหน้าขึ้นแล้วตอบกลับนัตสึโอมิไป
“อืมก็นะอย่างน้อยคุณคงจะไม่ถูกจีบถ้ามีผมอยู่ใกล้ๆแต่ถ้าคุณไม่ชอบละก็จะปฏิเสธก็ได้นะครับ”
“ม-ไม่..ค่ะ ถ้าเป็นคาตากิริซังแล้วละก็ไม่เป็นไรค่ะ ต-แต่ว่า”
“แต่?”
“ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดของคุณทั้งทีแต่มันเป็นเพราะฉันคุณเลยต้องมาทำอะไรแบบนี้…”
วิลเลียสได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขอโทษไปด้วย
ยังไงก็ตามวิลเลียสซังก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของผมด้วยและดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้เลยคงจะเป็นเพราะว่าเธอยังคงคิดมากเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แน่
แต่ถึงจะเป็นแบบไหนผมก็จะเข้าไปช่วยเธออยู่ดี
“ผมเคยบอกคุณไปแล้วหนิ ว่าผมไม่สามารถเมินเฉยต่อคนรู้จักที่กำลังลำบากได้จำได้มั้ยครับ?เพราะงั้นถ้าคุณไม่รังเกียจก็คิดว่าสิ่งที่ผมทำเป็นความเห็นแก่ตัวของผมก็ได้ครับ”
“คาตากิริซัง…”
“แล้วก็ผมเพิ่งจะถูกเบี้ยวนัดไปด้วยและในตอนนี้ผมก็ว่างสุดๆไม่รู้จะทำอะไรต่อดีเพราะงั้นนอกจากจะให้ผมเป็นคนไล่แมลงที่มาเกาะแกะคุณก็ให้ผมได้ทำประโยชน์อย่างอื่นเช่นการแนะนำร้านให้ดีมั้ยครับ?”
เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศได้ผ่อนคลายลงนัตสึโอมิได้ยักไหล่พร้อมกับพูดติดตลกจากนั้นวิลเลียสก็ได้หัวเราะออกมาราวกับว่าความตึงเครียดที่ผ่านมาได้หายไปทั้งหมดภายในพริบตา
“คาตากิริซังใจดีเหมือนเคยเลยนะคะ”
“เปล่าสักหน่อย ก็แค่บังเอิญว่างพอดีน่ะ”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบที่แก้เขินของนัตสึโอมิ วิลเลียสก็ได้หัวเราะออกมาอีกครั้ง
เป็นความจริงที่ว่าผมว่างจากการโดนเบี้ยวนัดและการที่จะเข้าไปช่วยคนรู้จักที่กำลังตกที่นั่งลำบากก็เป็นเรื่องธรรมดาด้วย
ในขณะที่นัตสึโอมิกำลังคิดว่า “ตัวเองใจดีกับเธอยังไง” วิลเลียสก็หันมามองราวกับว่าเพิ่งนึกอะไรออก
“ถ้าคาตากิริซังว่างแล้วละก็ช่วยพาฉันไปซื้อมือถือด้วยอีกที่ได้มั้ยคะ”
“ได้ครับ ผมจะนำทางไปให้เองถ้าคุณต้องการ”
ใบหน้าของนัตสึโอมิได้ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นวิลเลียสตั้งสติได้แล้วเป็นคนออกหน้าชวนเขาเองจากนั้นพวกเราทั้งสองก็ได้หัวเราะออกมา
———–
ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya