ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น - ตอนที่ 21
บทที่ 21 – โรสกับคุณโรคจิตฆ่าหั่นศพ
“เห็นไหมคะ ในป่ามันเต็มไปด้วยอันตรายนะคะ”
“อืม..”
“งั้นเดี๋ยวดิชั้นจะช่วยเองค่ะ..”
“เอ่อ… ยังไงอ่ะ”
ชั้นเริ่มรู้สึกถึงกลิ่นตุๆ เป้าหมายที่เธอยกเรื่องนี้มาพูดพอชั้นถามออกไปแบบนั้นเธอก็ยิ้มหน้าบานและย่อตัวลงมาหาชั้น
“เดี๋ยวดิชั้นจะอุ้มเองค่ะ!”
นั่นไง.. ว่าแล้ว มาอีหรอบนี้จริงด้วยยัยนี่ก็เป็นโลลิค่อนนี่หว่า .. ไม่ๆ ไม่สิหากพูดตามตรรกะเหตุผลแล้วจะให้คนเหมือนเด็กแบบชั้นเดินป่ามันก็อันตรายนี่น่า
คนในโลกนี้ใจดีกันอาจจะเป็นเพราะว่ามันอันตรายเลยไม่อยากให้ชั้นเดินป่าด้วยเท้าเปล่าสินะ อ่า.. ต้องใช่แน่ๆ
ไหนๆ ก็ได้เจอคนปกติเหมือนคุณชายโรเบิร์ตนั่นสักที เธอไม่มีทางหักหลังความเชื่อใจจากชั้นหรอกเนอะ เนอะ เนอะ… ชั้นกดข่มความคิดไว้
เธอต้องปกติเธอแค่ปกป้องชั้นเพราะเป็นสามัญสำนึก สามัญสำนึก.. แต่ว่านะชั้นไม่ชอบอยู่ดี ถึงจะร่างเด็กก็เถอะแต่ข้างในเป็นของโบราณนะ
ถึงจะไม่เหมือนเอล์ฟกระดานสองพันปีที่ไปปราบก็อปลิน แต่ชั้นก็เป็นโลลิแวมไพร์สองพันปีที่กินเนื้อมังกรจนได้ร่างกายามังกรมาใช้เชียวนะ อีกอย่างชั้นสามารถขยายร่างได้นะ
ถึงจะเพิ่มเป็นส่วนๆ แบบเพิ่มให้หน้าอกใหญ่แบบผิดรูปร่างไม่ได้แต่ถ้าชั้นควบคุมให้ร่างกายใหญ่ขึ้นก็พอมีหน้าอกอยู่บ้างถึงจะนิดหน่อยก็เถอะนะ.. เอ่อ… อย่าพูดถึงมันเลยนะ.
ก็นั่นแหละเอาเป็นว่า ชั้นไม่ใช่เด็กที่จะมาขี่หลังนะ.. จะว่าไปโลลิอายุเยอะแบบอาจารย์ของคุณคามิโจ หรืออาจารย์ของคุณสายเลือดแท้ก็มีนี่น่า
คงไม่เป็นไรหรอกมั้งแค่ขึ้นหลังเอง ชั้นใคร่ครวญอยู่นานสองนานก็แค่ขึ้นหลังหรือไม่ขึ้นหลัง หากพูดถึงความสบายละก็นั่นก็ต้องเป็นขึ้นหลังอยู่แล้ว
แต่หากพูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นผู้ใหญ่ที่พบได้ตามนวนิยายคงไม่เหมาะสม.. แต่ว่าชั้นมีเหรอ.. ไม่น่าจะมีนะ ถึงจะแค่ไม่ชอบที่โดนหาว่าเด็กแต่การที่หวงศักดิ์ศรีนี่ก็ไม่ขนาดนั้นนะ
เทียบกับหนังสือหรือความสบายไม่ได้เลย
“เข้าใจแล้ว.. เอางั้นก็ได้”
ชั้นตอบไป ยังไงก็ไม่มีเจตนาใดแอบแฝงอยู่แล้ว พอได้ยินคำตอบชั้นเธอเลยยิ้มแต่ไม่หันหลังให้… เฮ้ย.. นี่จะไม่ให้ขึ้นหลังเหรอ
พอชั้นกำลังคิดเธอก็อุ้มชั้นขึ้นในท่าเจ้าหญิง แต่ชั้นตัวเล็กเลยดูไม่เหมือนเจ้าหญิงสูงส่งแต่เหมือนเจ้าหญิงเด็กมากกว่า.. ไหงกลายเป็นท่านี้ไปได้เนี่ย
“เดี๋ยวสิ.. เชลแบบนี้มัน..”
“อะไรเหรอคะ?!”
เธอยิ้มในใบหน้าที่ประมาณว่ามีอะไรผิดแปลกเหรอคะ.. ทำนองนี้ ท่านี้มันเป็นท่าอุ้มองค์หญิงในตำนานน่ะเว้ยเฮ้ย
ทำไมชั้นถึงไม่พอใจจะขอเล่าให้ฟัง ตามความเชื่อของโลกใบนี้การอุ้มแบบนี้ถือเป็นการแสดงความนักแบบหนึ่งมาตั้งแต่นานมาแล้วและชั้นเชื่อว่าในโลกนี้ก็ยังเชื่อแบบนี้กันอยู่นะ
คนอุ้มเปรียบเสมือนเจ้าชาย คนโดนอุ้มเปรียบเสมือนองค์หญิง การอุ้มแบบนี้จะทำก็ต่อเมื่อรักใครคนนั้นจริงๆ และการอุ้มแบบนี้เป็นการสัตย์สาบานอย่างหนึ่ง
ว่าจะรัก ตราบชั่วนิรันดร์ หรือก็คือชีวิตๆ หนึ่งของคนบนโลกนี้จะสามารถอุ้มท่านี้ได้ก็ต่อเมื่อสาบานว่าจะรักคนคนนั้นตราบชั่วนิรันดร์มีตำนานกล่าวขานว่า
หากผิดคำสัตย์สาบาน สวรรค์จะลงทัณฑ์เกิดอุบัติเหตุบางประการเช่น หินทับแขนจนแหลกสองข้างมีแต่ต้องตัดทิ้ง ถูกพิษต้องตัดแขนสองข้างทิ้ง
หรือเป็นคำสัตย์สาบานที่มีคำสาปหากผิดไปจะต้องเสียแขนไปข้างหนึ่ง และด้วยความจริงที่ว่าหนังสือที่ชั้นอ่านเป็นหนังสือที่เทพธิดาเตรียมไว้ให้
ประกอบไปด้วยมันบอกท้ายหนังงสือว่า ‘เป็นเรื่องราวจริงๆ บัญญัติโดยเทพธิดาชารอน’ นังเทพธิดานั่นที่ไม่ส่งชั้นกลับโลกเดิมแต่ให้ของขวัญสุดพิเศษมาเชียวนะ
จะโกหกหรือยังไงกัน! ตั้งแต่นั้นชั้นสาบานว่านอกจากหนังสือชั้นจะไม่มีทางนอกใจหนังสืออีกเด็ดขาด เดี๋ยวแขนขาดเอา.. ก็ไม่รู้หรอกนะว่าการรักษาของชั้นมันจะฟื้นฟูได้หรือเปล่า
เอาเป็นว่าตามนี้ล่ะ …. แต่พอมานึกดูบางทีคนอาจจะลืมเลือนกันไปแล้ว คงไม่ใช่เพราะเธออยากจะแสดงความรักกับชั้นหรือพยายามบอกรักชั้นแบบอ้อมๆ หรอกเนอะ
ไม่หรอกน่าๆ ชั้นคิดมากไปเองเธอคนธรรมดานะ ไม่ใช่โลลิค่อนสักหน่อย ใช่ๆ .. แต่อุ้มท่านี้ชั้นก็ไม่ชอบซะด้วย
“เอ่อ … ช่วยปล่อยชั้นลงทีสิ…”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้ามีงูพฤกษาจ้องจะกัดขาอยู่จะทำยังไงละคะ?!”
“เอ่อ.. งั้นเปลี่ยนท่าอุ้มให้ทีจะได้ไหม”
“แบบนั้นก็ไม่ได้ค่ะ..”
“ทำไมละ…”
“นั่นเป็นเพราะว่า….”
เธอจะพูดบางอย่างเหมือนพูดยาก ดูเหมือนจะมีเหตุผลส่วนตัวสินะ.. แต่เดี๋ยวสิมันจะเป็นแบบนั้นได้ไง ชั้นแค่ขอให้เธอเปลี่ยนท่าอุ้มเฉยๆ นะ
“เพราะว่า?”
“เอ่อ … ไม่ได้คิดไว้ค่ะ …”
“….”
ยัยนี่.. คิ้วชั้นกระตุกตึบๆ เหมือนอยากจะสับเธอเป็นชิ้นๆ ใจเย็นก่อนตัวชั้น.. เธออาจจะแค่บอกว่าไม่ได้คิดวิธีเปลี่ยนท่าอุ้มไว้เลยไม่รู้
ไม่ใช่ว่า ไม่ได้คิดวิธีหาคำแก้ตัวอ้างเพราะอยากจะอุ้มชั้นหรอกน่า.. ก็เธอคนปกตินี่น่า.. ชั้นชักรู้สึกว่าตัวเองจะวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ซะแล้วสิ
ชั้นมองหน้าเธอที่ยิ้มแหย่ๆ ชั้นถอนหายใจออกมาเลิกสนใจ อีกไม่นานเธอคงเหนื่อยเองล่ะ.. ชั้นคิดแบบนั้นด้วยกำลังของเธอไม่น่าจะมีมากเพราะเธอบอกว่าถนัดมีด
ชั้นรู้ทันทีเลยว่าเธอเป็นพวกมีพลังกายน้อยแต่ถนัดการรอบโจมตี โดยเฉพาะขาที่ดูมีกล้ามเนื้อ แต่ไม่เสียทรงเห็นว่ากำลังขาเยอะมากแต่ก็รักษาขางามไว้
ส่วนแขนเรียวบางเห็นได้ชัดว่าออกกำลังมาแค่ที่จะใช้มีดตัดของได้ เป็นพวกความเร็วโจมตีรายบุคคล หรือพวกนินจานั่นแหละ จากการคำนวณของชั้นนะ
ชั้นยังไม่ได้ตรวจสอบเธอเลยนะอยากจะบอก.. เพราะได้คำตอบแล้วจะตรวจสอบทำไม.. ชั้นคิดว่าอักไม่นานเธอคงเหนื่อย.. แต่ใครจะรู้ว่าเธอคนนี้มันสัตว์ประหลาด!
หลังจากเดินอยู่หลายนาทีเธอยังฟิตอยู่เลยชั้นเลยแปลกใจ อาการเหนื่อยไม่มีเลยสักนิด ด้วยความสงสัยชั้นเลยตรวจสอบเธอซะเลย.. ซึ่งนั่นมันทำให้ชั้นผงะ.. คุณพระคุณเจ้าช่วย!
ทำไมชั้นถึงตกใจเหรอ ก็ดูสิ ระดับเธอสิมันโคตรสูงเลยนะ!
………..
ชื่อ : เชลก้า วิลเนสต้า
เผ่าพันธุ์ : สุดยอดมนุษย์ (Super Human)
เพศ : หญิง
อายุ : 25 ปี
ระดับ (Level) : 89
MP 5,650/5650
พลังกาย : 500
พลังโจมตี : 2,078
ความเร็ว : 2,570
พลังเวทย์ : 104
พลังป้องกัน : 9
ต้านทานเวทย์ : 54
โชค : 17
เสน่ห์ : 100
ความฉลาด : 69
[ทักษะ]
ปกปิดตัวตน [เปิดใช้งาน] , อำพรางตัวตน, เร้นประกายเงา, แยกส่วนร่างกาย
……..
ประมาณนี้ขอวิจารณ์อย่างแรกเลยนะ คือสุดยอดมนุษย์นี่คืออะไรกัน! ต่างจากลิลิซที่มีแค่มนุษย์โดยสิ้นเชิงนี่น่าหรือว่าเป็นเผ่าพิเศษทำนองนั้น
ต่อมาคือระดับ จะบอกไว้ก่อนตามที่ลิลิซเคยบอกมามนุษย์มีขีดจำกัดความแข็งแกร่งคือแค่ระดับ 80 เท่านั้นนะ หมายความว่าไม่มีทางที่ระดับจะเกินไปกว่านั้น
ถ้าไม่ใช่บัค แล้วพวกที่ชั้นเคยฆ่าไปก็เป็นแนวหน้ากันทั้งนั้น แต่อ่อนกว่าเธอคนนี้ซะอีก! แถมระดับเธอเกินขีดจำกัดมนุษย์ไปแล้ว
และแต่ละระดับไม่ใช่ว่าจะก้าวขึ้นกันได้ง่ายๆ นะ การเพิ่มระดับคือการสังหารมอนสเตอร์ จะทำให้พลังงานที่ไม่สมดุลสลายกลับคืนสู่ความสมดุล
และพลังปฐพีที่ก่อให้เกิดมอนสเตอร์ก็สลายหายไปก่อเกิดเป็นพลังงานที่เข้าในร่างของมนุษย์เพื่อเพิ่มระดับยกความแข็งแกร่งขึ้น ระบบการเพิ่มระดับของโลกก็ประมาณนี้
เอาจริงๆ ถ้าชั้นใช้หัวนิดหน่อยก็มีวิธีปั๊มระดับแล้วนะ.. แต่ไม่โกงชั้นคือคนดี.. แล้วก็ไม่อยากเก่งกว่านี้แล้ว!
ต่อมาคือสเตตัสที่สูงโคตรของเธอขนาดกำลังที่ไม่ถนัดของเธอยังมากกว่าสเตตัสถนัดสุดของลิลิซตอนปกติซะอีก. แต่ก็คงไม่แปลกระดับห่างกันขนาดนั้น
แต่ที่แปลกคือ สเตตัสหลักสองพันของเธอ! ชั้นคิดว่าเธอเก่งกว่ายัยอัศวินที่ท้าชั้นดวลนั่นซะอีกนะ… ถึงจะไม่รู้ว่าเธอเก่งขนาดไหนก็เถอะ
(คัดดดด! ขอคัดหน่อยครับ.. คนธรรมดาสเตตัสไม่เกิน 10.. คนที่มีระดับหลังจากฆ่ามอนสเตอร์จนถึงระดับ 79 ก็ตาม แต่สเตตัสไม่เกิน 2,000 นะ.. แต่ถ้าเลเวลเพิ่มขึ้นต่อได้ก็มีโอกาสเพิ่มสเตตัสเช่นกัน.. แต่มนุษย์มีขีดจำกัดไง … และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีขีดจำกัดเช่นกันแต่มนุษย์,ปีศาจ,เอล์ฟ ถือว่าสูง แต่อมนุษย์ต่ำ แต่เชลนี่.. เพราะอะไรกันนะ? – ผู้เขียน)
ชั้นจึงถอนหายใจเลิกสนใจ แต่ทันใดนั้นเองพุ่มไม้ด้านข้างก็สั่นไหวหลังจากเข้ามาในป่าสักพักแล้ว จังหวะที่มันสั่นไหวนั้นก็มีไม้แหลมพุ่งมาใส่หัวชั้นอย่างรวดเร็ว
ชั้นวิเคราะห์มันทันที เป็นไม้แหลมที่ยิงออกจากหน้าไม้ที่พบกันได้บ่อยๆ แต่การพุ่งตรงมานั้นนับว่ายอดเยี่ยมแสดงให้เห็นว่าถูกสร้างถูกปรับมายาวนานสืบทอดกันมายาวนาน
การเตรียมคัวจู่โจมนับว่าเหมาะพอดีเรียกความสนใจด้วยการสั่นพุ่มไม้และยิงในพริบตาต่อมาให้ศัตรูไม่อาจตอบสนองทัน นับว่าเป็นการโจมตีที่เหนือคาดหมายที่ก็อปลินจะทำได้จริงๆ ..
ใช่ ฝีมือก็อปลิน.. ก็ชั้นมองเห็นมันน่ะ ถึงมันจะรวดเร็วแต่มันช้ามากในสายตาชั้น ชั้นคงวิ่งรอบโลกได้รอบหนึ่งลูกศรหน้าไม้ค่อยมาถึงที่ที่ชั้นอยู่
ว่าแต่ก็อปลินมันหัวดีขนาดนี้เลยรึ.. หรือจะเป็นเพราะพันธุกรรมพัฒนาจนหัวดีขึ้นกัน.. แต่หัวดีขนาดนี้และลอบโจมตีแบบนี้ ชั้นก็ไม่อยากเป็นนักล่าก็อปลินหรอกนะ?
แต่ชั้นไม่เคลื่อนไหวเพราะว่าตอนนี้ชั้นมาอยู่ด้านหลังก็อปลินแล้ว.. ไม่สิ.. จะบอกว่าเชลพาชั้นมาอยู่มากกว่า พริบตาต่อมามีดสั้นถูกชักออกจากเอว
ใช่.. เป็นมีดสั้นที่ไม่ยาวมากเธอแทงมันใส่หัวก็อปลินอย่างเหี้ยมโหด ก่อนที่จะลากมีดมันลงไปที่สั้นหลังอย่างรวดเร็ว
โหดไปแหะ.. แต่ไม่แค่นั้นเธอขยับแขนราวกับงูสะบัดไปมาแยกร่างของก็อปลินเป็นเศษเนื้อชั้นได้ยินเธอพึมพำว่า
“ตายซะ ตายซะ บังอาจ บังอาจ บังอาจ”
“…”
ชั้นมองไปที่ใบหน้าเธอ ที่ยิ้มโหดเหี้ยมด้วยความบ้าคลั่งและโกรธทั้งสนุก.. ชั้นทำหน้าเหยเก…. ยัยนี่เองก็.. ไม่ปกตินี่หว่า แถมไม่ปกติสุดๆ
นี่มันโรคจิตบ้าคลั่งชัดๆ! ฆ่าหั่นศพ!!
………