ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 38 ตระกูลซุนให้นาฬิกาเป็นของขวัญวันเกิด! (2)
หลี่จั่นเข้ามานั่งที่ พ่อบ้านร่ายชื่อของขวัญอีกครั้ง……
20 กว่านาที แขกที่มาถูกเชิญเข้างานเลี้ยงทีละคน นอกวิลล่าเหลือเพียงลูกหลานตระกูลเจียง
เสิ่นหัวปรายตามองฉินเฟยที่อยู่ข้างลูกสาวอย่างเจียงเยว่ถง สายตาไม่เป็นมิตร เธอไม่ได้หูหนวก เธอได้ยินเสียงซุบซิบทั้งหมด ตอนที่พ่อบ้านร่ายรายชื่อของขวัญเมื่อกี้
เธอคิดไม่ถึงว่า เรื่องที่ครอบครัวเธอล่วงเกินฮั่วจงเหยียนตระกูลฮั่ว ถูกแพร่ออกไปแล้ว!
ยิ่งทำให้เธอกังวลใจเข้าไปอีก ตระกูลฮั่วขายหน้าแบบนี้ ต้องกู้หน้าคืนแน่นอน แต่เธอไม่รู้ว่าลูกสาวกับสามีเป็นอะไรไปกันหมด สมองมีปัญหาหรือเปล่า โดยเฉพาะผู้เป็นสามีอย่างเจียงเฟิ่งหยุน ให้ตายยังไงก็จะเอาแต่ยอมรับลูกเขยสวะอย่างฉินเฟย
ลูกสาวอย่างเจียงเยว่ถงก็ยังไม่วางใจ ทุกครั้งที่ตัวเองให้เธอหย่ากับฉินเฟย เธอจะเปลี่ยนเรื่องพูดกับตัวเอง หรือไม่ก็บอกอย่างรวดเร็วว่าไม่ยอมหย่า
ทำเหมือนเธอคือคนไม่ดี ไม่อาจจัดการให้ฝ่ายใดพอใจได้!
โดยเฉพาะเมื่อกี้ไอ้สวะนี่ยังล่วงเกินหลี่จั่นอีก เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลหลี่ รวยและแข็งแกร่ง มีอิทธิพลมากกว่าเขาตั้งเยอะ
ตัวเองพูดไม่ผิดสักนิด!
ไอ้สวะนี่เป็นตัวสร้างเรื่องชัดๆ!
แม้ตอนนี้ฉินเฟยอยู่ในชุดสูท ดูเหมือนคน แต่พฤติกรรมไม่เหมาะสม เขาขัดหูขัดตาเสิ่นหัวมาก ไม่ว่ามองยังไงก็ขัดหูขัดตา!
“ฉันถามนายหน่อย นายเตรียมของขวัญให้คุณย่าหรือยัง อีกเดี๋ยวอย่าเอาของเน่าๆ อะไรออกมาทำให้ฉันขายหน้าล่ะ” เสิ่นหัวพูดกับฉินเฟยอย่างไม่สบอารมณ์
“ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว” ฉินเฟยพูดพลาง เอากล่องไม้สลักที่ดูโบราณมากออกมา
“นาย!” เมื่อเห็นกล่องไม้บ้าๆ ในมือฉินเฟย เสิ่นหัวเกือบโมโหจนเป็นลม “นี่มันของบ้าบออะไรของนาย นายรู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร”
“แม่ ฉินเฟยเตรียมของขวัญให้คุณย่ามาหลายวัน คงไม่แย่หรอก” เจียงเยว่ถงช่วยพูดเบาๆ อยู่ข้างๆ พูดพลางก็อดมองบนใส่ฉินเฟยไม่ได้ เอาจริงๆ เธอก็รู้สึกว่ากล่องไม้นี่ดูเก่าและผุพังไปหน่อย
“นี่ไม่ได้พังนะครับ แต่เป็นของโบราณที่มูลค่าสูงมาก” ฉินเฟยรีบพูดอธิบาย
ยังพูดว่าไม่พังอีก ยังพูดว่าราคาสูงอีก เสิ่นหัวทนไม่ไหวแล้ว ขณะกำลังจะด่า ปรากฏว่าเสียงของพ่อบ้านดังขึ้นอีกครั้ง
“เชิญลูกหลานตระกูลเจียง อวยพรวันเกิดคุณย่าครับ!”
เมื่อพูดจบ คนตระกูลเจียงเป็นร้อย พากันเข้าไปในวิลล่า
เสิ่นหัวถลึงตาใส่ฉินเฟยด้วยความแค้น เก็บคำที่จะด่าเขาเอาไว้ รีบลากลูสาวเข้าไปข้างใน
ตอนนี้ในวิลล่าตระกูลเจียง แขกที่มาอวยพรวันเกิดพากันไปนั่งหมดแล้ว พ่อตาสวมสูทพอดีตัว รอยยิ้มเต็มใบหน้า อาคนเล็กอย่างเจียงเฟิ่งซวงก็ยุ่งมาก
ฉินเฟยเงยหน้ามองคุณย่าเจียงที่นั่งตรงกลาง ตอนนี้เธอสวมเสื้อคอจีนสีแดง ใบหน้าสดใสมีเลือดฝาด ดูมีความสุขมาก
แต่สิ่งที่ทำให้ฉินเฟยรู้สึกประหลาดคือ เจียงเฉิงเย่ไปไหน
เขาเป็นลูกชายของลุงเจียงเฟิ่งหยู่เชียวนะ อีกทั้งยังมีฐานะสูงส่งในตระกูลเจียง คนที่ควรให้ของขวัญเป็นคนแรกควรเป็นเขาสิถึงจะถูก
ในตอนนี้ไอ้อวดดีคนนี้ ควรให้ของขวัญสุดหรู แล้ววางมาดสักหน่อยไม่ใช่เหรอ
หรือเตรียมเป็นรองสุดท้ายเหรอ
“ครอบครัวเจียงชุนลี่ มอบกลอนคู่อวยพรวันเกิดสองภาพ ขอให้คุณย่ามีวันที่มีความสุขแบบนี้ทุกปี”
“เจียงเยว่เสี่ย มอบกำไลหยก จี้หยกหนึ่งชุด……”
ตอนเปิดกล่อง ฉินเฟยที่ยืนอยู่ด้านหลังแอบพยักหน้า วัสดุที่ใช้ทำเครื่องประดับหยกชุดนี้ ดูก็รู้ว่าหยกใสระดับดีมาก ในบรรดาหยกเนื้อแข็ง จะทำออกมาสักชุดนับว่ายากมาก ราคาไม่ธรรมดา
เจียงเยว่เสี่ยเดินเข้ามาในห้องโถง เพราะเรื่องที่หลี่จั่นใช้เงินจำนวนมากคุยเรื่องแต่งงานเมื่อครู่ การปรากฏตัวของเจียงเยว่เสี่ย จึงเรียกสายตาของคนจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็พากันซุบซิบ ก็ยังคุยกันเรื่องสินสอดมูลค่าสูงของหลี่จั่นเมื่อครู่
ฉินเฟยอดหันหน้าไปมองเจียงเยว่ถงที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้ เจียงเยว่ถงในชุดเดรสรัดรูป ขับให้รูปร่างเธอน่าดึงดูดเป็นพิเศษ ใบหน้าประณีตงดงาม แต่เธอแต่งงานมาสามปีแล้ว จึงไม่ค่อยมีใครสนใจ
ถึงเจียงเยว่เสี่ยจะงดงามมาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว สายตาของฉินเฟยก็อยู่กับภรรยาอย่างเจียงเยว่ถง ตอนที่พ่อบ้านประกาศรายชื่อของขวัญของหลี่จั่น ทุกคนพากันตะลึง หญิงสาวจำนวนมากอิจฉาไม่หยุด ฉินเฟยก็เห็นความอิจฉาในแววตาของเจียงเยว่ถงอย่างชัดเจน
เจียงเยว่ถงไม่ใช่ผู้หญิงหน้าเงิน แต่ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง ก็ชอบความรู้สึกที่ถูกคนอิจฉา ถูกคนมองว่าสูงส่งเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เจียงเยว่ถง กลายเป็นคนที่โดนคนอื่นเยาะเย้ย ฉินเฟยหน้าหนาจึงไม่เป็นไร แต่เจียงเยว่ถงหน้าบาง อีกทั้งยังรักศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก!
นี่จึงเหตุผลที่ทำไมก่อนหน้านี้ฉินเฟยพูดว่าสามปีมานี้ เจียงเยว่ถงแบกรับมามากกว่าตัวเอง!
ฉินเฟยแอบคิดในใจ รอให้ตัวเองหาเงินได้ ก็จะเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้เธอเหมือนกัน ทำให้ทั้งตระกูลเจียง รวมไปถึงทั้งซงไห่ตกตะลึง!
พ่อบ้านประกาศรายชื่อของขวัญไม่หยุด หลังจากเจียงเยว่เสี่ยเข้ามาในห้องโถง ไม่นานก็ถึงตาครอบครัวของฉินเฟย
จนกระทั่งเจียงเยว่ถงที่ยืนอยู่ข้างๆ ใช้มือเล็กหยิกหลังฉินเฟย เขาจึงหลุดออกจากภวังค์
“คิดอะไรอยู่ ถึงตาเราแล้ว!” เจียงเยว่ถงพูดเตือนแบบไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
มองกล่องไม้เก่าๆ ในมือฉินเฟยแวบหนึ่ง ความกังวลใจเพิ่มขึ้นอีก เจียงเยว่ถงเข้าใจว่าที่ฉินเฟยเหม่อลอยเมื่อครู่ เพราะเห็นคนอื่นให้ของขวัญแสนแพงขนาดนี้ ฉินเฟยจึงอายที่จะเอาออกมา
เสิ่นหัวยืนอยู่ไกลๆ อีกด้าน เธอมองไปทางอื่น ทำท่าทางเหมือนฉันไม่รู้จักไอ้คนที่ให้ของขวัญคนนี้
เจียงเยว่ถงที่ยืนอยู่ข้างฉินเฟย อดที่จะมองกล่องไม้เก่าๆ ในมือฉินเฟยไม่ได้ เธอพูดเบาๆ ว่า “ของขวัญชิ้นนี้เอาออกมาให้คนได้จริงเหรอ”
“ได้สิ” ฉินเฟยมีท่าทีจริงจัง
“งั้นนายก็ให้ละกัน” เจียงเยว่ถงพยักหน้า แต่ขยับเท้าเล็กๆ ไปอีกทาง……
ฉินเฟยเดินไปข้างหน้าสองก้าว มองพ่อบ้านแล้วคำนับเบาๆ จากนั้นพูดว่า “ฉินเฟยขอมอบหยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่ยุคสามก๊กหนึ่งวง ขอให้คุณย่ายิ่งแก่ยิ่งแกร่ง มีความสุข อายุยืน!”
พ่อบ้านได้ยินก็ช็อกไป!
หยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่ยุคสามก๊กเหรอ
ของขวัญนี้ล้ำค่าเกินไปหรือเปล่า
อีกทั้ง……
เสิ่นหัวที่อยู่ข้างๆ ได้ยินประกาศของขวัญของฉินเฟย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
แม้เธอไม่ได้ศึกษาอะไรเกี่ยวกับของโบราณ แต่สามีอย่างเจียงเฟิ่งหยุน ชอบศึกษาของโบราณมาก จึงได้ยินและได้เห็นบ่อย เธอรู้ว่าช่วงราชวงศ์ฮั่นคือสามก๊ก เก่าแก่กว่าช่วงหมิงชิงมาก
แม้บอกว่าของโบราณไม่ใช่ว่ายิ่งเก่าจะยิ่งราคาสูง แต่เมื่อกี้ฉินเฟยพูดอะไรนะ นี่เป็นหยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่เหรอ แล้วมันมูลค่าเท่าไรกัน
แม้ตอนนี้ฉินเฟยมีงานทำแล้ว ในความคิดของเธอ ให้ของขวัญวันเกิดประมาณหมื่นหยวนก็ไม่เลวแล้ว แค่ไม่ขายหน้าเกินไปก็พอแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าไอ้สวะนี่จะกล้าเรียกการยกย่องจากผู้คนขนาดนี้!
“ฉินเฟย นายพูดอะไรไร้สาระ หยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่เหรออะไรกัน นายไม่รู้ก็อย่าพูดไร้สาระ อับอายขายหน้า!” เสิ่นหัวทนไม่ไหว พูดเสียงต่ำด่าออกมา ถลึงตาใส่ฉินเฟยอย่างแค้นเคือง
เพราะข้างหลังยังมีลูกหลานตระกูลเจียง รอมอบของขวัญอีกเยอะ จึงไม่กล้าเอะอะโวยวาย ให้คนอื่นตำหนิ
เจียงเยว่ถงก็ใช้มือสะกิดเอวของฉินเฟย แววตาสอบถาม
พ่อบ้านก็ขมวดคิ้ว เขาอยู่ตระกูลเจียงมา 30 กว่าปีแล้ว แน่นอนว่ารู้จักฉินเฟยกับเจียงเยว่ถง เขารู้ว่าฉินเฟยไม่เพียงแต่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเจียง ปกติก็ไม่มีงาน จะให้ของขวัญราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง
แต่เขาผ่านอะไรมาเยอะ ตอนนั้นตามคุณท่านเจียงขึ้นเหนือล่องใต้ หลังจากคุณท่านตายก็ช่วยเหลือนายหญิงเจียง แม้เขาไม่ได้แซ่เจียง แต่เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนตระกูลเจียง ในสายตาของเขาเจียงเยว่ถงก็เหมือนหลานสาวของเขาคนหนึ่ง
เขาเห็นประเพณีในสังคมมามากมาย และรู้ว่าดูคนจากภายนอกไม่ได้ เมื่อคืนฉินเฟยซัดฮั่วจงเหยียน ก็ทำให้เขาระบายความอัดอั้นไม่ดีในใจออกมา เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อฉินเฟยไปเยอะ
“นี่เป็นหยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่จริงๆ ถูกต้องแล้ว” ฉินเฟยพูดพลาง เปิดกล่องไม้อย่างระมัดระวัง
พ่อบ้านเห็นฉินเฟยพยักหน้าให้ตัวเอง หลังจากนั้นเสียงเปี่ยมไปด้วยพลังดังไปทั่ว
“ฉินเฟย ลูกเขยตระกูลเจียง มอบหยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่ ยุคสามก๊กหนึ่งวง ขอให้คุณย่ายิ่งแก่ยิ่งแกร่ง มีความสุข อายุยืน!”
“โห!”
ตอนนี้ลูกหลานตระกูลเจียงที่อยู่ด้านหลัง พากันล้อมเข้ามา เสียงตกใจดังขึ้นเป็นระลอก!
หยกนิ้วหัวแม่มือของอู๋กั๋วไท่ ยุคสามก๊กเหรอ
ยุคสามก๊กมีคนเก่งออกมามากมาย มีหลายชื่อที่คนจำขึ้นใจ แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงจูกัดเหลียง โจโฉแล้ว แต่ในบรรดาผู้หญิง เตียวเสี้ยน ไต้เกี้ยว เสี่ยวเกี้ยว ก็โดนคนพูดถึงอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน
แต่คนที่รู้ประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงล้วนรู้ว่า ในบรรดาผู้หญิงที่เป็นตำนานยุคสามก๊ก ยังมีอีกบุคคลที่สำคัญคืออู๋กั๋วไท่แห่งง่อก๊กเจียงตง
“โห นี่จริงหรือเปล่า!”
“ถ้านี่เป็นของจริง ประเมินค่าไม่ได้แน่นอน!”
มูลค่าของวัตถุโบราณ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเยอะมาก อย่างเช่น แจกันหิมะที่ฉินเฟยได้มาก่อนหน้านี้ เพราะองค์หญิงเหวินเฉิงชอบ ดังนั้นมูลค่าจึงสูงขึ้นมาก!
หยกนิ้วหัวแม่มือวงนี้ก็เหมือนกัน!
อู๋กั๋วไท่เป็นภรรยาของซุนเกี๋ยนกษัตริย์ง่อ หลังจากซุนเกี๋ยนตาย เธอก็มุ่งมั่นช่วยเหลือซุนเซ็กลูกชายของเขา ซึ่ง
เป็นกษัตริย์แห่งเจียงตง ซุนเซ็กตายก่อนวัยอันควร คนแก่อย่างอู๋กั๋วไท่ต้องจากลากับคนหนุ่มที่ด่วนจาก หลังจาก
นั้นก็เป็นซุนกวน ที่ได้เป็นจักรพรรดิง่อก๊ก อู๋กั๋วไท่ช่วยเหลือกษัตริย์ง่อถึงสามรุ่น แต่ไม่ใช่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเจียงตง เหน็ดเหนื่อยมุ่งมั่นเพื่อลูกหลานเจียงตง ได้รับการยกย่องจากชนรุ่นหลัง
อู๋กั๋วไท่ในตอนนั้นคล้ายคุณย่าเจียงในปัจจุบันมาก แม้คุณย่าเจียงอายุ 70 ปีแล้ว แต่ยังเหน็ดเหนื่อยเพื่อตระกูลเจียงเหมือนเดิม ยิ่งอายุเยอะยิ่งแกร่ง
“นี่เป็นหยกนิ้วหัวแม่มือที่อู๋กั๋วไท่ใส่จริงเหรอ”