ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 33 เอ็งกับเซียววี่เป็นอะไรกัน?
“ผู้ช่วยฉินงั้นหรือ?ผู้ช่วยฉินที่ไหน?”
พอเห็นสีหน้าที่แปลกใจของหลิ่มเมิ่ง เจียงเยว่ถงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย อธิบายไปว่า ก็ผู้ช่วยฉินที่มาพร้อมกับรองประธานเสิ่นเมื่อครั้งก่อนที่ฉันมาไงคะ
“เขาไม่ใช่ผู้ช่วยอะไรหรอกค่ะ” หลิ่มเมิ่งสีหน้าแปลกใจ พอกำลังจะอธิบายไป ก็นึกถึงเรื่องที่หัวหน้าสั่งเมื่อครั้งก่อน ว่าไม่ให้พนักงานคนไหนเปิดเผยความลับของประธานฉินต่อคนภายนอก
“ไม่ใช่ผู้ชาวยอย่างนั้นหรือ?” เจียงเยว่ถงอึ้งไปอีกครั้ง คิ้วสวยๆ ของเธอก็ขมวดอีกครั้ง
หลิ่มเมิ่งอ้าปาก คิดจะอธิบายไปแต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก เธอแทบจะร้องไห้แล้ว
“ประธานเจียง คุณมาก็ไม่บอกกันล่วงหน้าเลยนะคะ” ในตอนนี้เอง เสียงของเสิ่นเจียเหวินก็ดังขึ้นมาด้านหลัง
พอเห็นว่ามีคนมาช่วยแล้ว ใบหน้าเล็กๆ ที่ลำบากใจของหลิ่มเมิ่งก็เป็นประกายขึ้นมา เลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ประธานเจียงมาหาท่านประธานน่ะค่ะ แต่ว่าท่านไม่อยู่ ฉันก็เลยให้นั่งรออยู่ในห้องทำงานไปก่อน”
“อืม เธอออกไปก่อน” เสิ่นเจียเหวินยิ้มพยักหน้า
หลิ่มเมิ่งก็เหมือนได้รอดตัวไป รีบวิ่งออกไปทันที
“ประธานเจียง เชิญนั่งค่ะ ” เสิ่นเจียเหวินผายมือเชิญ แล้วก็นั่งลงก่อน เงยหน้ามองใบหน้าสวยๆ ของเจียงเยว่ถงที่แม้แต่เธอก็ยังอิจฉา ในใจก็ยิ่งสงสัยความสัมพันธ์ของฉินเฟยกับเจียงเยว่ถง แล้วยิ้มพูดไปว่า “ไม่ทราบว่าประธานเจียงมาครั้งนี้มีอะไรจะสั่งการหรือเปล่า?”
“รองประธานเสิ่น คุณก็อย่าล้อฉันเล่นเลยค่ะ” เจียงเยว่ถงพยายามยิ้มออกมา แล้วก็พูดอย่างลำบากใจว่า “ต้องขอโทษด้วยนะคะ เกรงว่าฉันคงจะต้องผิดสัญญาแล้ว เพราะบริษัทฉีแยจะเปลี่ยนเจ้าของแล้ว…”
……
ณ โรงน้ำชาปั้นเยี่ยที่ถนนหยานซี
ฉินเฟยลงจากมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า เดินเข้าไปยังร้านน้ำชานั้น แต่ก็ไม่เจอตาแก่คนนั้น ด้านในไม่มีใครเลย จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปดูที่สองฝั่งข้างประตูร้าน ก็ไม่เห็นเงาของตาแก่คนนั้นเลย
ฉันเฟยก็มายืนรู้สึกเสียดายที่หน้าประตู โทษตนเองที่ตอนนี้รีบกลับไปหน่อย แถมยังสงสัยกับคำพูดของตาแก่คนนั้นอีกด้วย แต่พอเมื่อวานที่ตนเองสู้กับฮั่วจงเหยียน ก็ได้สัมผัสกับพลังของยาเชื่อมสวรรค์เม็ดนั้นแล้ว
ในใจครุ่นคิดไป ถ้าสามารถดูดซับพลังของยาเชื่อมสวรรค์ได้ทั้งหมดล่ะก็ เราจะเก่งได้สักแค่ไหน?จะเก่งเกินมนุษย์ไปได้เลยไหม?
รู้อย่างนี้คงขอเบอร์โทรหรือไม่ก็วีแชทของตาแก่คนนั้นไว้
ในตอนนี้เอง ฉินเฟยก็เห็นคนแก่สวมเสื้อผ้าสีขาวคนหนึ่ง ชุดเหมือนจะเป็นชุดของพ่อครัวใส่ ที่อกซ้ายมีโลโก้ของโรงน้ำชาปั้นเยี่ย ตอนนี้เขากำลังลากถังขยะใบใหญ่เดินเข้ามา ตัวเล็กกว่าถังขยะนั้นเยอะเลย ไม่ใช่ตาแก่คนนั้นแล้วจะเป็นใครไปได้เล่า?
ฉินเฟยก็มองด้วยสีหน้าแปลกใจอย่างมาก เดิมทีนึกว่าตาแก่คนนี้เป็นยอดฝีมือที่ไหนสักแห่ง คิดไม่ว่าจะเป็นพ่อครัว แถมยังมาทิ้งขยะอีก?
“คุณลุงครับ ผมหาลุงเจอสักที่” ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแปลกๆ แต่ฉินเฟยก็มีสีหน้าตื่นเต้น ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้ออกมาขอร้องให้คนช่วยเหลือ
“อ้าว?ไอ้หนุ่ม เอ็งมาสักทีนะ” ตาแก่เงยหน้ามองฉินเฟย แล้วก็จำได้ทันที
“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงว่าคุณลุงมีความสามารถมากมาย แถมยังเป็นพ่อครัวอีกด้วยนะครับ” ฉินเฟยพูดน้ำเสียงแปลกๆ พูดชื่นชมอย่างเสแสร้ง
“พ่อครัวอะไรกัน?เอ็งตาบอดหรือไง?นี่เป็นโรงน้ำชา จะเอาพ่อครัวมาทำไม?นี่เรียกว่าอาจารย์ชงชา เอ็งไม่รู้เรื่องเอาเสียเลยนะ!” ตาแก่มองฉินเฟยอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วพูดไม่พอใจว่า “เข้ามาเลย”
พอเข้าโรงน้ำชาไป ฉินเฟยก็หาที่นั่ง แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณลุงเป็นเจ้าของที่นี่หรือครับ?”
“ไม่เหมือนหรือไง?” ตาแก่เอาผ้าปัดขี้ฝุ่นบนตัวตนเอง แล้วก็เดินเข้ามา
“ฮ่าๆ เอ็งนี่ก็สายตาดีไม่เบา มาเยี่ยมก็ยังรู้จักซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากด้วย แต่ว่านะ นอกจากยาเชื่อมสวรรค์แล้ว ตาแก่อย่างฉันไม่ขาดแคลนสิ่งใดหรอก” ตาแก่มองกล่องไม้ที่ดูเก่าๆ บนโต๊ะ หัวเราะออกมา แต่ก็หยิบขึ้นมาด้วย
ให้ตายสิ!
พอได้ยิน ฉินเฟยแทบจะเป็นลม แล้วก็ยื่นมือไปแย่งกล่องไม้นั้นกลับมา “อันนี้ไม่ได้เอามาให้ลุงครับ ลุงคิดมากไปแล้ว”
แต่ไม่คิดว่า ตาแก่จะมีท่าทางแปลกๆ เขาเอามือหลบการแย่งของฉินเฟยไปได้ แล้วใช้หัวแม่มือดันเปิดกล่องออก
ตอนที่เขาได้เห็นหยกหัวแม่มือในกล่องนั้น สีหน้าก็อึ้งไปทันที แล้วก็มีเงาดำพาดผ่าน ฉินเฟยเคลื่อนตัวเข้าไปแย่งกลับมา แล้วพูดว่า “ลุงนี่ทำไมถึงไม่มีมารยาทเลย?ผมบอกแล้วว่าไม่ได้เอามาให้ลุง”
“เหอะ คิดว่าอยากได้หรือไง ก็แค่หยกหัวแม่มือโง่ๆ ข้าเซียวเฟิ่งกางมีของล้ำค่ามากมาย” ตาแก่เบ้ปากพูด “เอาของมาหรือยัง?”
“เอ่อ” ฉินเฟยก็เอายาเชื่อมสวรรค์ที่ใส่ขวดหยกปิดปากด้วยขี้ผึ้งออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วก็โยนให้ตาแก่
ตาแก่ตกใจ รีบรับไว้ทันที แล้วก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เอ็งนี่นะ ระวังหน่อยไม่ได้หรือไง?ถ้าตกแตกไปจะชดใช้ไหวหรือไง?”
ฉินเฟยก็หมดคำพูด “……”
“ฮ่าๆ คุณลุง ของที่อยากได้ผมก็เอามาให้แล้ว วิธีการดูดซับยาเชื่อสวรรค์ พอจะบอกผมได้ไหม?” ฉินเฟยหัวเราะ หน้าระรื่น คำพูดคำจาดูสนิทสนมขึ้นมาก
“แน่นอน ตาแก่อย่างข้าไม่เคยผิดคำพูด เอามือมานี่” เซียวเฟิ่งกางเปิดขวดหยก แล้วก็หายใจเข้าอย่างไม่ใจ
“ครับ” ฉินเฟยตอบรับ แล้วก็ยื่นมือออกไป
ตาแก่ไม่ได้จับชีพจรให้ แต่เอามือมาจับที่ข้อมือของฉินเฟย ตอนที่ฉินกำลังสงสัยอยู่นั้น ตาแก่ก็ปล่อยมือออก มองฉินเฟยด้วยสีหน้าแปลกๆ “เอ็งดูดซับพลังของยาเชื่อสวรรค์ได้อย่างไร?”
“อะไรนะ?พลังยาถูกละลายแล้วหรือ?แต่ว่าผม…ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษเลยนะ?” ฉินเฟยมีสีหน้าตกใจ ความรู้สึกที่เขาพูดถึง ก็หมายถึงพลังที่เหนือมนุษย์ทั่วไป
“จะให้ข้าบอกยังไงดีนะไอ้ทึ่ม” ตาแก่โมโหด่าออกมา มือแห้งกร้านก็ลูบเคราครุ่นคิด แล้วพูดว่า “บางเรื่อง ข้าจะต้องอธิบายให้เอ็งฟังก่อน”
“ครับๆ ลุงว่ามาเลย”
“นักบู๊แบ่งเป็น4แดน มีแดนมนุษย์ เมื่อคนที่บรรลุถึงระดับนักบู๊สุดยอดแล้ว และอยู่ในแดนสวรรค์ ก็จะถือว่าเหนือมนุษย์ธรรมดา สามารถรับรู้ได้ถึงพลังลมปราณของฟ้าดิน”
ฉินเฟยพยักหน้า สีหน้าเหม่อลอย
“และที่ยาเชื่อมสวรรค์มีราคาสูง เพราะว่ามันสามารถช่วยให้นักบู๊ระดับสุดยอดบรรลุแดนสวรรค์ได้ โอกาสสำเร็จเพิ่มขึ้นสองเท่า มันเป็นยาวิเศษที่จะเพิ่มระดับที่เลื่อนขั้นได้ยาก”
“แต่เอ็งในตอนนี้ อย่างมากก็เป็นแค่นักบู๊ระดับสูง หรือเรียกอีกอย่างก็คือ ไอ้ทึ่มอย่างเอ็งมันรีบกินเร็วไปหน่อย แถมยังดูดซับพลังยาไปเสียจนหมด!”
“แบบนั้นล่ะก็ ถ้าผมกินยาเชื่อมสวรรค์5เม็ด ก็เท่ากับมีโอกาสสำเร็จ100เปอเซ็นต์เลยสิครับ?” ฉินเฟยเบ้ปากพูด ยาเชื่อมสวรรค์ไม่ใช่ของหายากอะไรสำหรับเขา
“ไอ้ทึ่ม!ของแบบนี้ ใช้ได้คนละครั้งเท่านั้น มากไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ประสิทธิภาพจะลดลงมาก” ตาแก่พูดอย่างโมโห
“อ๋อ อย่างนั้นก็ยังพอมีประโยชน์นะ”
ตาแก่มองบนใส่ แล้วก็ไม่พูดด้วย
“อย่างนั้นต่อไปควรทำอะไร?จะต้องอยู่แดนสวรรค์ใช่ไหม ผมถึงจะมองเห็นชะตาตนเองได้?” ฉินเฟยพูดอย่างตื่นเต้น
“ก็ไม่ใช่เสมอไป จุดสำคัญอยู่ที่ดวงของเอ็ง” ตาแก่พูดอย่างเย่อหยิ่ง
“คุณลุง ผมรู้ว่าลุงมีวิธี” ฉินเฟยพูดหน้าระรื่นเอาใจ
“ข้าไม่รู้ว่าร่างกายของเอ็งฝึกอะไรมาก่อน พื้นฐานก็ไม่เลว แถมยังไม่เสียพลังหยาง ข้ามีหนึ่งวิธี รับรองว่าเอ็งมีโอกาสที่จะได้บรรลุถึงแดนสวรรค์” ตาแก่พูดอย่างมั่นใจ
“อะไรคือไม่เคยเสียพลังหยาง?” ฉินเฟยค่อนข้างมึนงง
“ก็หมายความว่าไม่เคยหลับนอนกับผู้หญิงไงล่ะ”
“อ๋อ” ฉินเฟยถูกพูดใส่จนหน้าแดงทำตัวไม่ถูก ตนเองเติบโตมาถึงขนาดนี้ แถมยังแต่งงานมาแล้ว3ปี พูดออกไปก็อายคนเขาเปล่าๆ
เรื่องแบบนี้มันไม่เหมือนกับผู้หญิง ผู้หญิงกลัวคนอื่นว่ามีอะไรกับใครไปทั่ว แต่ผู้ชายมันตรงกันข้าม กลัวคนอื่นจะว่านกเขาไม่ขัน ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง มันน่าอับอาย
“ต่อไปก็ง่ายมาก เอ็งมีพื้นฐานไม่เลว แต่ยังต้องฝึก โดยเฉพาะพละกำลัง 20วันต่อจากนี้ เอ็งจะต้องฝึกวันละ3ชั่วโมง ในเมื่อยาถูกสลายพลังออกมาแล้ว ถ้าไม่ดูดซับให้หมดก็จะเสียของ ทางที่ดีเอ็งจะต้องถึงระดับที่ข้าวางไว้ภายในหนึ่งเดือน พอถึงว่านั้นจ้าจะพาเอ็งไปที่แห่งหนึ่ง ช่วยให้เอ็งบรรลุแดนสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ3วัน”
“3วันงั้นหรือ?ทำไมนานจังเลย?ฮ่าๆ คุณลุงครับ ลดเวลาลงหน่อยได้ไหม?” ฉินเฟยตกใจ ออกกำลังกายทุกวัน สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ถ้าหายตัวไป3วัน มันยากลำบากมากเลย
“นี่ยังนานอีกงั้นหรือ?ข้าแค่ประมาณเวลา ถ้าเอ็งโง่ ก็ต้องใช้เวลา1สัปดาห์ และไม่แน่ว่าจะสำเร็จด้วย” ตาแก่เบ้ปากพูด
“อย่างนั้นก็ได้ คืนนี้ผมจะออกกำลังกายเลบ” ฉินเฟยพยักหน้า แล้วหยิบกล่องไม้กลับออกไป คืนนี้ยังมีเรื่องสำคัญ ก็คืองานเลี้ยงวันเกิดคุณย่าเจียงครบรอบ70ปี
“เอ็งเป็นอะไรกับเซียววี่ที่กู่ยิ่นถัง?” ตาแก่มองกล่องในมือของฉินเฟย แล้วก็ถามไป ในใจก็คิดว่า ยัยหนูเซียววี่คนนี้ ทำไมถึงเอาของมีค่าแบบนี้มาให้ไอ้ทุ่มนี่ได้?
“เซียววี่งั้นหรือ?อ๋อ ที่แท้คุณลุงก็รู้ที่มาที่ไปของหยกหัวแม่มืออันนี้นี่เอง” ฉินเฟยอึ้ง แล้วก็เข้าใจขึ้นมาได้ ก็เลยไม่ได้ผิดบัง “ผมกับเซียววี่เป็นเพื่อนกันครับ สนิทกันอยู่”
พอเซียวเฟิ่งกางได้ยินก็ส่งเสียงไม่พอใจ มองบนใส่ “ต่อไปอย่ามาเรียกข้าว่าลุง ทำเสียเหมือนเราสนิทกัน”
คิดอยากจะเป็นหลานเขยของเซียวเฟิ่งกาง ไอ้ทึ่มคนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาหรอก
ฉินเฟยได้ยินก็ปากกระตุก ตาแก่คนนี้บ้าจริงๆ
“ใช่แล้ว ลุงพูดเรื่องเสียพลังหยาง หรือว่าช่วงนี้ ผมก็ห้ามมีเรื่องบนเตียงใช่ไหม?” ฉินเฟยอดถามไม่ได้ หน้าก็แดง แต่เขาก็คิดอยากจะมีอะไรกับเจียงเยว่ถงเสีย อุ้มศรีภรรยาตนเองให้ซาบซ่านเสียที
“ได้ แต่อย่าให้บ่อย ทางที่ดีอดใจไว้ก่อน เอ็งมีแฟนแล้วงั้นหรือ?” ตาแก่ถามไปอย่างนั้น แล้วก็หยุดสายตาจ้องมองฉินเฟยนิ่งๆ
ในใจก็คิดว่า ไอ้หมอนี่จะมีอะไรกับหลานสาวตนเองไปแล้วหรือยังนะ?ไม่อย่างนั้นเซียววี่คงจะไม่ให้ของล้ำค่าแบบนี้มาหรอก?
“เอ่อผม…” ฉินเฟยกำลังจะพูดว่าตนเองแต่งงานมา3ปีแล้ว แต่นึกได้ว่ามันน่าอับอาย ที่แต่งงาน3ปีแต่ยังไม่ได้เข้าหอ มันบ้ามากจริงๆ ก็เลยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ไปว่า “ผมจะมีหรือไม่มีมันเกี่ยวอะไรกับลุงล่ะครับ!”
“กริ๊งๆ…” ฉินเฟยเดินออกมาจากโรงน้ำชา โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ของเจียงเยว่ถง
“ครับ คุณภรรยา”
พอได้ยินการเรียกแบบนี้ เจียงเยว่ถงก็อึ้งไป แล้วพูดว่า “ของขวัญที่จะให้คุณย่าเตรียมแล้วหรือยังไ?”
“เตรียมแล้วครับ…”
……