ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 691 ตั้งใจซื้อมาเป็นพิเศษ
ตอนที่ 691 ตั้งใจซื้อมาเป็นพิเศษ
ดอกไม้ไฟดับเร็ว และทางกลับบ้านหลังจากออกจากตลาดตอนกลางคืนอันคึกคักก็มืดและเป็นหลุมเป็นบ่อ
สองแม่ลูกไม่สามารถทนต่อความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันและเนื่องจากว่าเพิ่งกินอิ่มมา หลินเจียอินและเจียงชานจึงหลับไปหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถ
ส่วนรถอีกคันที่หลินเจียจวินเป็นคนขับ เจียงไห่หยาง หวังซิ่วจวี๋ หลัวเจาตี้ และเจียงถิงก็หลับไปเช่นกัน
ไม่รู้ว่าทำไมคนเราเมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน
หลินต้าเหว่ยก็ง่วงนิดหน่อยเหมือนกัน เขาหาวแล้วพูดออกมาว่า “วันนี้นายได้คุยอะไรกับลุงรองบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ก็หาวออกมา และเล่าเรื่องที่เขาเตรียมทำโครงการ ‘ล็อตเตอรี่แห่งความหวัง’ กับหลินต้ากั๋วให้หลินต้าเหว่ยฟัง
หลินต้าเหว่ยตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะชักชวนพี่รองให้ทำโครงการนี้ไปด้วยกัน
เขารู้ดีว่าหากโครงการนี้ถูกดำเนินการไปทั่วประเทศ แม้แต่หลินต้ากั๋วก็ไม่สามารถจัดการได้
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เข้าใจทันทีว่าพี่รองจะต้องนำเรื่องนี้ไปขอให้ชายชราช่วยอย่างแน่นอน
“ถ้าลุงรองของนายรับปากว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ เขาอาจจะไปหาปู่ของอินอิน ! ”
หลินต้าเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
ฮะ ?
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึง เขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าหลินต้ากั๋วจะผลักดันเรื่องนี้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วหลังจากที่ได้ยินพ่อตาพูด
“พ่อครับ ผมไม่รู้ว่าลุงรองจะจัดการยังไง ถ้ามันทำให้คุณปู่ตกใจ ผมจะแจ้งให้ลุงรองทราบ และค่อย ๆ ดำเนินการไปครับ ? ”
หลินต้าเหว่ยส่ายหัว “เมื่อลุงรองของลูกตัดสินใจแล้ว ลูกก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ พ่อแค่อยากจะบอกเพื่อที่ลูกจะได้เตรียมใจไว้”
“อ้อ ครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบออกมา จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
พูดตามตรง เขาเองก็อยากจะรู้เรื่องราว ‘คุณปู่’ ของหลินเจียอินที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ ?
หลินต้าเหว่ยกล่าวต่อ “พ่อเดาว่าปู่เขาคงจะขอให้ลูกไปพบ ถึงตอนนั้นพ่อจะไปกับลูกด้วย ! ”
“ปู่จะขอเจอผมงั้นเหรอ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้ง และอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
หลินต้าเหว่ยกล่าวว่า “นั่นเป็นแค่การประมาณการของพ่อ ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันทีหลัง”
“ครับ รัฐบาลนี่แหละที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ถ้าปู่เจอผมจริง ๆ ผมก็จะบอกวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ให้เขาได้ทราบ”
หลินต้าเหว่ยพยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก
เขาเริ่มที่จะวางใจลูกเขยคนนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ
กว่าครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดรถทั้งสองคันก็ขับมาถึงเจียงวาน
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋จอดรถแล้ว เขาก็ปลุกหลินเจียอินและเจียงชาน
“ฉันเผลอหลับไปแล้ว ! ” หลินเจียอินตื่นขึ้นมาและพูดขอโทษ
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “พักผ่อนเสียหน่อยก็ดี จะได้มีแรงดูอะไรดี ๆ หลังจากนี้ ! ”
หลินเจียอินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็มองไปที่โรงรถใต้ดิน แล้วถามด้วยความประหลาดใจ “พวกเราก็กลับบ้านกันมาหมดแล้ว ยังมีอะไรให้ดูอีกงั้นเหรอ ? ”
เจียงชานได้ยินแบบนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “หนูรู้ ๆ ป่าป๊าจะฉลองวันเกิดให้กับหม่าม๊าไงคะ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “วันนี้ก็ฉลองวันเกิดไปแล้ว จะฉลองอีกทำไมล่ะ ? ”
แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้นออกมา แต่ในใจลึก ๆ เธอก็ยังแอบคาดหวังอยู่ดี
“รีบเข้าไปในบ้านเถอะค่ะหม่าม๊า หนูคิดถึงเจียงซือจะแย่แล้ว วันนี้ทั้งวันไม่มีใครสนใจมันเลย” เจียงชานดึงหลินเจียอิน แล้วเดินออกไปข้างนอกโรงรถ
เจียงไห่หยางก็เดินมาทักทายหลินต้าเหว่ยด้วย “พ่อตาเสี่ยวไป๋ เชิญเข้าไปในบ้านก่อน ตอนกลางวันไม่มีใครอยู่บ้าน มันอาจจะเย็นไปหน่อย ฉันจะรีบจุดไฟให้”
หลินต้าเหว่ยโบกมือ “พ่อเสี่ยวไป๋ไม่เป็นไร ไม่ต้องสุภาพกับฉันตลอดเวลาหรอก”
“เอาล่ะ ยังไงก็ยินดีต้อนรับนะ ! ” เจียงไห่หยางพูด แล้วพวกเขาก็เดินออกไปข้างนอกโรงรถด้วยกัน
เจียงเสี่ยวเฟิงอุ้มเจียงถิงที่กำลังหลับอยู่และเดินตามหลัวเจาตี้ โดยมีหลินเจียเหว่ยและหานหยุนอิงเดินตามหลังพวกเขามา
ดังนั้น จึงเหลือเจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียจวินเพียงสองคนที่เหลืออยู่ในโรงรถใต้ดิน
ส่วนหลินเจียหงไม่ได้กลับมาด้วย
เธอพักที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียง เพราะจะกลับไปเจียงเฉิงพร้อมกับหลินต้ากั๋วในเช้าของวันพรุ่งนี้
“สิ่งที่ผมขอ พี่ได้จัดการแล้วหรือยัง” เจียงเสี่ยวไป๋ถามขึ้นมา
หลินเจียจวินยิ้ม “เรื่องนั้นฉันยังไม่ได้ทำ แต่รับปากแล้วก็ต้องทำอยู่แล้ว ! ”
“ขอบคุณครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่วันนี้พี่ก็ยุ่งจริง ๆ นั่นแหละ ! ”
หลินเจียจวินโบกมือ “เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า ? ” ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบกล่องออกมาจากด้านหลังรถ ซึ่งเป็นกล่องกระดาษแข็งทรงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร
เจียงเสี่ยวไป๋รับมันแล้วเดินออกจากโรงรถใต้ดินพร้อมกับหลินเจียจวิน ขณะที่เดินอยู่นั้น เขาก็ถามขึ้นมาว่า “วันนี้เราขายไปได้ทั้งหมดกี่ใบเหรอครับ ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ในตอนเช้า เราเอาล็อตเตอรี่ออกมาขายเพียง 30 กล่อง ซึ่งมันก็ขายได้ค่อนข้างช้า ในช่วงบ่ายฉันจึงสั่งให้พวกเขาเอาออกมาขาย 100 กล่อง ซึ่งมันก็ขายออกไปได้เร็วมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอ”
เขาถอนหายใจ “มีคนซื้อล็อตเตอรี่เยอะมากจริง ๆ ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมก็หวังว่าพรุ่งนี้จะมีคนมาซื้อมากขึ้น ดังนั้นผมจึงอยากให้พี่เอาออกมาขายครั้งละ 100 กล่องเลย และจะหาคนมาช่วยพี่เพิ่มอีก 300 คน”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ฉันขอให้เย่กวงโต้วทำกล่องล็อตเตอรี่เพิ่มอีก 200 กล่องแล้ว พรุ่งนี้เราจะมีการขายและจับรางวัลที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงทั้ง 30 แห่งเพิ่มอีก รางวัลที่สามหรือต่ำกว่านั้นจะประกาศที่นั่นทันที”
“แต่หากถูกรางวัลที่สอง รางวัลที่หนึ่ง หรือรางวัลพิเศษ ก็ให้มารับรางวัลที่จุดขายหลักตรงหน้าเกสต์เฮาส์ชิงเจียง”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าเห็นด้วย “ตกลงครับ”
เจียงเสี่ยวไป๋พอใจกับความสามารถของหลินเจียจวินมาก เพราะเขาสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ตามความเหมาะสม
มีคนไม่กี่คนในหมู่ของเขา ที่มีความสามารถในการตัดสินใจแบบนี้ได้ เมื่อมองไปที่หลินเจียจวิน เขาก็ลังเลเล็กน้อยที่จะปล่อยอีกฝ่ายกลับไปที่เจียงเฉิง
แต่เขาจะให้หลินเจียจวินทิ้งงานที่เจียงเฉิงไม่ได้เหมือนกัน เพราะงานที่นั่นก็สำคัญไม่ต่างกัน ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยได้ไปดูกิจการที่นั่น ดังนั้นหลินเจียจวินก็คงต้องรับผิดชอบที่นั่นไปก่อน
เฮ้อ……
เขาถอนหายใจเงียบ ๆ ในใจ หากสมัยนี้มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกับยุคหลังก็คงจะสะดวกกว่านี้
“กำลังคิดอะไรอยู่หรอ ? ”
“ทำไมเหม่ออย่างนั้นล่ะ ? ”
หลินเจียจวินเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋และถามด้วยความประหลาดใจ
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่กำลังนึกถึงเรื่องล็อตเตอรี่”
หลินเจียจวินจึงถามไปว่า “แล้วนายได้คุยกับพ่อของฉันบ้างไหม ? ”
“ได้คุยสิครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ลุงรองเองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่อย่างที่พี่ทราบ เป้าหมายของเรื่องนี้ที่ผมกำนดไว้คือกระจายไปทั่วประเทศ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผลลัพธ์”
หลินเจียจวินพูดว่า “อืม” และพูดต่อ “ถ้าเป็นแบบนั้น พ่อของฉันคงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณปู่แน่”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “อาของพี่ก็พูดแบบเดียวกัน”
หลินเจียจวินยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ถ้าพ่อของฉันไปหาคุณปู่ให้ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้ เรื่องนี้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า และในขณะที่พวกเขากำลังพูด พวกเขาก็เดินมาถึงข้างในบ้านแล้ว ซึ่งตอนนี้เจียงไห่หยางกำลังจุดไฟในเตาของโต๊ะหลุมไฟ
“ลูกถืออะไรมา ? ”
หวังซิ่วจวี๋เหลือบมองกล่องกระดาษแข็งในมือของเจียงเสี่ยวไป๋ จึงถามด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “อาหารครับ ! ”
หลินต้าเหว่ย หลิวอี้ถิง เจียงไห่หยาง และคนอื่นตกตะลึง พวกเขากินมาอิ่มกันเต็มทีจากตลาดแล้ว ทำไมยังถืออาหารมาอีก ?
หลัวเจาตี้กล่าวว่า “ตอนนี้นะ ไม่ว่าอาหารจะอร่อยแค่ไหน ฉันก็กินไม่ลงอยู่ดี ! ”
เจียงเสี่ยวเฟิงกล่าวว่า “ท้องของผมก็ยัดอะไรลงไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน”
เจียงชานพูดเสียงดัง “แต่ทุกคนควรกินมันสักหน่อย นี่คือของที่ป่าป๊าตั้งใจซื้อมาเป็นพิเศษสำหรับวันเกิดหม่าม๊า ! ”
หวังซิ่วจวี๋ตบหน้าผากของเธอ “โอ้ วันนี้เป็นวันเกิดของเจียอิน และฉันยังไม่ได้ทำบะหมี่อายุยืนให้เธอเลย ฉันต้องไปเก็บไข่มาสักสองฟองก่อน ! ”
ก่อนหน้านี้ หลินเจียอินได้กลับห้องเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเดินออกมาก็ได้ยินแม่สามีบอกว่าจะทำบะหมี่อายุยืนให้เธอ เธอจึงก็รีบพูดว่า “แม่ค่ะ ไม่ต้องไปทำหรอกค่ะ ต่อให้ทำ หนูก็กินต่อไม่ไหวอยู่ดี ! ”