ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 673 เยี่ยมชมนิทรรศการ
ตอนที่ 673 เยี่ยมชมนิทรรศการ
เมื่อเข้าสู่สถานที่จัดแสดงนิทรรศการมา นิทรรศการแรกคือพื้นที่จัดแสดงสินค้าของร้านโยวผิ่น
ทั้งที่เป็นบูธแต่มันเหมือนกับยกเอาร้านโยวผิ่นจริง ๆ มาวางไว้ที่นี่ และชั้นวางด้านในก็เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์อันตระการตามากมาย
นักท่องเที่ยวมักจะเข้ามาเลือกดูสินค้าแล้วเอาไปที่ ‘แคชเชียร์’ เพื่อชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีคนคอย ‘เติม’ สินค้าตลอดเวลาอีกด้วย
แม้ว่าหลายคนจะไม่อยากซื้อ แต่พนักงานขายแต่ละคนต่างดึงดูดพวกเขาไม่หยุด
อีกอย่าง ที่สะดุดตาเป็นพิเศษคือพื้นที่การลงทุนและการเจรจาแฟรนไชส์ ที่โต๊ะหลุมไฟทั้ง 3 โต๊ะจะมีพนักงานคอยให้คำปรึกษาผู้ที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับแฟรนไชส์
ด้านหลังพวกเขามีหลายคนเข้าคิว เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้วางแผนที่จะเข้าร่วมแฟรนไซส์ร้านโยวผิ่น
“นิทรรศการ การขายและการลงทุนแบ่งเป็นสามส่วนอย่างชัดเจน งานนิทรรศการของพวกเธอประสบความสำเร็จอย่างมาก ! ” หลินต้ากั๋วกล่าวชมออกมา ขณะที่เขามองไปยังฉากที่อยู่ตรงหน้า
ในเวลาเดียวกัน เขาก็สังเกตเห็นโต๊ะหลุมไฟด้วย
ในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีจาง เขาได้นั่งโต๊ะหลุมไฟและได้สัมผัสคุณสมบัติของมันมากับตัวจึงชอบมันมาก
ในเวลานี้ โต๊ะหลุมไฟมีการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
เจิงเหลียงหยูยังกล่าวอีกว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นนิทรรศการที่จัดขึ้นในลักษณะนี้ น่าสนใจมากจริง ๆ ”
กั๋วเทียนเยว่พยักหน้า “วิธีการนำเสนอแบบนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับงานโฆษณาชวนเชื่อของเราอีกด้วย”
หลินเจียอินได้ยินคำชมจากผู้นำทั้งสาม จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “โต๊ะหลุมไฟที่ร้านโยวผิ่นถูกนักลงทุนเหล่านั้นครองที่นั่งไปหมดแล้ว เราลองไปลองดูบูธข้างในกันเถอะค่ะ”
หลินต้ากั๋วพยักหน้า
จึงมีกลุ่มคนเข้าไปในร้านโยวผิ่น และเดินผ่านชั้นวางสินค้าไปเรื่อย ๆ สินค้าบนชั้นวางแบ่งออกเป็นหมวดหมู่โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภท เช่น เมล็ดแตงโมอบเกลือ เมล็ดแตงโมอบเนย ธัญพืชอบกรอบ เกาลัดคั่ว ถั่วลิสงปรุงรส ถั่วลิสงขี้เมา แพนเค้กภรรยา ล่าเถียว ฟองเต้าหู้ ฯลฯ สินค้ามีมากมาย แต่ละผลิตภัณฑ์วางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีป้ายราคาคิดไว้ใต้สินค้าอย่างชัดเจน
หลินเจียอินกล่าวว่า “ร้านโยวผิ่นเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ในอนาคตเราจะรวบรวมขนมชื่อดังจากทั่วประเทศมาไว้ที่นี่ จะมีสินค้าหลายร้อยรายการให้เลือกซื้อ เพียงมาที่ร้านเราร้านเดียว คุณจะสามารถซื้อขนมได้จากทุกที่ทั่วประเทศ…..”
เจิงเหลียงหยูก็ได้ถามว่า “คุณจะรวบรวมขนมจากทั่วประเทศได้อย่างไร ? ”
หลินเจียอินยิ้ม “หากผู้นำสนใจ วันนี้ตอนเย็นก็ลองไปเดินดูแถวตีนเขาฉีเฟิงก็ได้ค่ะ”
เจิงเหลียงหยูกล่าวว่า “เราจะบินกลับบ่ายวันนี้ หากว่าไปตอนเย็น เราก็คงไม่มีโอกาสได้ไปหรอก”
หลินเจียอินเหลือบมองหลินต้ากั๋วแล้วเม้มริมฝีปากของเธอ “น่าเสียดาย คืนนี้ตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนเปิดเป็นวันแรก มีร้านค้ามากกว่าร้อยร้านมาตั้งแผงขายพร้อมกันที่นั่น โดยเราได้รวบรวมขนมและของว่างพิเศษมากมายหลายร้อยรายการจากทั่วประเทศมาขาย……”
หลินต้ากั๋ว เจิงเหลียงหยู และคนอื่นต่างก็ตกตะลึง เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งจะได้ยินว่าในอนาคต ร้านโยวผิ่นจะมีขนมพิเศษจากทั่วประเทศมาขายในร้าน แต่ตอนนี้พวกเขากลับได้ยินว่าตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนมีขนมมากมายจากทั่วประเทศมาเปิดขายพร้อมกัน
แม้แต่คนอย่างพวกเขาก็ไม่เคยเห็นตลาดที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้มาก่อน
นายกเทศมนตรีจางและรองนายกเทศมนตรีถังต่างมองหน้ากันหลังจากฟังคำพูดของหลินเจียอิน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะมีการเปิดตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนในคืนนี้
“ผู้ชายคนนี้ไม่ซื่อสัตย์เลย ทำไมเขาไม่บอกฉันเลยสักนิด” นายกเทศมนตรีจางแอบตำหนิเจียงเสี่ยวไป๋อยู่ในใจ
เพราะถ้าหากมีการบอกเขาก่อนหน้านี้ เขาก็จะได้นำเรื่องนี้ไปรายงานต่อหลินต้ากั๋ว
รองนายกเทศมนตรีถังยังแอบตำหนิในใจว่า เจียงเสี่ยวไป๋ชอบทำให้พวกเขาประหลาดใจ และไม่ให้โอกาสกันได้เตรียมพร้อมเลย
หลินต้ากั๋วมีสีหน้าประหลาดใจ “มีการเอาขนมพิเศษมามากมายขนาดนี้มาขายเลยเหรอ ? ”
หลินเจียอินพยักหน้าและบอกชื่อของขนมและของว่างบางอย่างที่ขึ้นชื่อในแต่ละพื้นที่ออกมา
หลังจากได้ยิน หลินต้ากั๋วและคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ไม่ต้องพูดถึงการกินของเหล่านั้น แค่ได้ยินชื่อก็อร่อยแล้ว
กั๋วเทียนเยว่ต้องการแนะนำให้หลินต้ากั๋วเปลี่ยนแผนการเดินทาง และไปที่ตลาดถนนคนเดินก่อนในตอนเย็น จากนั้นค่อยเจียงเฉิงในวันพรุ่งนี้
ทว่ามันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องนี้
ไว้ค่อยแนะนำในภายหลัง เมื่อมีโอกาสก็แล้วกัน
หลังจากดูร้านโยวผิ่นแล้ว กลุ่มของพวกเขาก็ย้ายจากตรงนี้ไปยังพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการอื่นต่อ
ทันใดนั้น พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการที่เขียนว่า ‘อาคารชิงโจว’ ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาก็ดึงดูดความสนใจของหลินต้ากั๋ว
“นี่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์อาคารสูง 33 ชั้นที่กำลังดำเนินการอยู่ใช่ไหม ! ”
“โครงการอสังหาริมทรัพย์สามารถเอามาจัดแสดงได้ด้วยเหรอ ? ”
หลินต้ากั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเจียอินยิ้ม “แน่นอนว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์สามารถจัดแสดงได้ ลุงรองลองเข้าไปดูก่อนสิคะ อาจจะมีเซอร์ไพรส์อะไรข้างในให้ได้ดู ! ”
“อ้อ ? ”
หลินต้ากั๋วทำท่าทางสนใจและก้าวไปยังพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของอาคารชิงโจว
เมื่อเขามาถึงประตู เขาก็เห็นว่าห้องนิทรรศการนี้แตกต่างจากห้องนิทรรศการอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยสินค้าก่อนจะเดินเข้าไป ภายในดูกว้างขวางกว่า แต่ตรงข้ามกับประตู ถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคน เขายังได้ยินคนคุยกันมากมาย……
“นี่คือบ้านจริง ๆ เหรอ ? ”
“ฉันนึกภาพไม่ออกจริง ๆ บ้านอะไรจะสูงขนาดนี่ ! ”
“ฉันคิดว่ามันเป็นแค่แบบจำลอง ถ้าสร้างบ้านสูงขนาดนี้ หากเดินขึ้นไปคงตายคาบันไดพอดี”
“ไม่ได้ยินเหรอว่าจะมีลิฟต์อยู่ด้วย มันคือที่อยู่อาศัยในอนาคตใช่ไหม ? ”
“ก็ฉันไม่มีความรู้นี่น่า”
“อาคารที่สูงกว่า 33 ชั้นขนาดนี้ หากว่าปวดท้องเข้าห้องน้ำขึ้นมา แล้วห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง คงทนไม่ไหวอึใส่กางเกงพอดี”
“คุณไม่ได้ดูแบบเหรอ อันนี้ไม่ได้เรียกว่าส้วม แต่เรียกว่าห้องน้ำ ในนี้จะมีการสร้างห้องน้ำในห้องที่เราอาศัย คุณสามารถเข้าห้องน้ำโดยตรงในห้องของคุณได้”
“มันเป็นไปได้จริง ๆ เหรอ ? ”
“……””
เมื่อฟังการสนทนาเหล่านี้ หลินต้ากั๋วก็สับสนเล็กน้อย เขารีบเดินเข้าไปในห้องจัดนิทรรศการและเริ่มทักทายผู้คนตรงหน้า “สหาย พวกคุณกำลังดูอะไรอยู่ ? ให้เราดูด้วยคนสิ”
เสียงของเขาสง่างามจนทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าอดไม่ได้ที่จะหันมามอง เมื่อพวกเขาเห็นคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามา ทุกคนก็มีท่าทีแปลกไป เมื่อเห็นว่าผู้นำกำลังมาจึงรีบหลีกทางให้โดยสมัครใจ
ทันใดนั้น แบบจำลองขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลินต้ากั๋วและคนอื่น
โต๊ะแบบจำลองมีถนนล้อมรอบและมีบ้านเรือนเตี้ย ๆ ตรงกลางมีอาคารที่สูงขึ้นมามากกว่าหนึ่งเมตร มีภูเขาสีเขียวอยู่ด้านหลัง
ดวงตาของหลินต้ากั๋วและคนอื่นเบิกกว้าง เพราะแบบจำลองนี้แสดงให้เห็นว่าอาคารชิงโจวจะเป็นอย่างไรหลังจากสร้างเสร็จในอนาคต !