ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 57 :หลิวซือกั๋วจ่ายโหดกว่า
ตอนที่ 57 :หลิวซือกั๋วจ่ายโหดกว่า
“ซือกั๋ว เจียงเสี่ยวไป๋เสนอราคาให้ชั่งละ 4 เหมา…”
ในที่สุด เฉินหยวนชางก็ได้บอกความจริงแก่หลิวซือกั๋ว
“อะไรนะ ? ”
“4 เหมาต่อหนึ่งชั่ง มันจะเป็นไปได้อย่างไร ! ”
หลิวซือกั๋วตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า จึงตะโกนออกมาเสียงดัง
”ลุงไห่หยางเป็นคนพูดเอง ราคาไม่ผิดแน่” เฉินหยวนชางส่ายหัวและพูดว่า “ราคาชั่งละ 4 เหมาเป็นราคาที่สูงมาก ไม่มีใครปฏิเสธราคานี้ได้”
เจียงไห่หยางมีชื่อเสียงอย่างมากในเจียงวาน และเขาเป็นคนที่ทุกคนให้ความนับถือ
คำพูดนั้นออกมาจากปากของเขา แน่นอนว่าชาวบ้านย่อมเชื่ออย่างสุดซึ้ง
“จะเป็นไปได้อย่างไร ? ”
“ทำอย่างไรต่อดี ? ”
หลิวซือกั๋วยังคงพึมพำเหมือนไก่ที่พ่ายแพ้ เขาเดินคอตกกลับบ้านอย่างหดหู่ใจ
เฉินหยวนชางมองไปที่ด้านหลังของหลิวซือกั๋ว เขาถอนหายใจและส่ายหัวอีกครั้ง
“ทำไมกลับเร็วล่ะ ? ”
จูเยี่ยนผิงเพิ่งล้างมันฝรั่งและใส่ลงในหม้อเพื่อปรุงอาหาร เธอกำลังจะไปที่สวนผักเพื่อเก็บพริกและผักใบเขียวจำนวนหนึ่ง เธอเห็นหลิวซือกั๋วกลับมาอย่างรวดเร็วจึงถามด้วยความประหลาดใจ
“ตอนนี้พวกเขาไม่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้เราแล้ว จะทำอย่างไรต่อไปดี ? ” หลิวซือกั๋วพูดอย่างโกรธเคือง
จูเยี่ยนผิงตกตะลึงและถามอย่างกระวนกระวาย “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาไม่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้คุณล่ะ ? ”
หลิวซือกั๋วพูดอย่างโกรธเคืองถึงเรื่องการรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของเจียงเสี่ยวไป๋ในราคาชั่งละ 4 เหมา
“แล้วเราจะทำอย่างไรดี ? ”
จูเยี่ยนผิงกระวนกระวาย เธอเดินวนไปรอบ ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
หลิวซือกั๋วดูอย่างกระวนกระวายและตะโกนออกมา “เธอช่วยหยุดเดินวนไปวนมาได้ไหม ฉันเวียนหัวหมดแล้ว ! ”
จูเยี่ยนผิงกระวนกระวายใจอยู่แล้ว และเมื่อหลิวซือกั๋วตะโกนใส่หน้าเธอ เธอก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “หลิวซือกั๋ว เดี๋ยวนี้รู้จักตะโกนใส่หน้าฉันแล้วหรือ ถ้าคุณมีความสามารถก็ไปจัดการเจียงเสี่ยวไป๋นู่น”
หลิวซือกั๋วตกตะลึง เขาจะกล้ายั่วยุเจียงเสี่ยวไป๋ได้อย่างไร ?
เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอไปเตรียมอาหารเถอะ ฉันจะไปหมู่บ้านถังซาน คงต้องเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาลูกพี่เฉินแล้ว จะได้คิดหาวิธีจัดการ”
“ใช่ ใช่ ใช่ ลูกพี่เฉินต้องมีวิธีจัดการแน่นอน”
จูเยี่ยนผิงดูเหมือนจะมีความหวังมากขึ้น เธอรีบไปที่สวนผักเพื่อเก็บผักและกลับมาทำอาหารกินง่าย ๆ
ทั้งคู่กำลังกินข้าวเย็น ทันใดนั้นเจิ้งต้าเป่าก็มาหาพวกเขาอย่างกระทันหัน
หลิวซือกั๋วพูดอย่างมีความสุขว่า “พี่เจิ้ง ทำไมพี่ถึงมาที่นี่ได้ ฉันกะว่ากินข้าวเย็นเสร็จแล้ว จะรีบไปที่หมู่บ้านถังซานอยู่พอดี”
เจิ้งต้าเป่า กล่าวว่า “ลูกพี่กลัวว่านายจะหาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กจากชาวบ้านไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงขอให้ฉันบอกนายให้รับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กราคาชั่งละ 4.5 เหมาในเย็นนี้เลย อย่าให้เจียงเสี่ยวไป๋ได้มันฝรั่งลูกเล็กไปแม้แต่ชั่งเดียว”
“ชั่งละ 4.5 เหมาเลยหรือ ? ”
หลิวซือกั๋วอุทานด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็มีความสุขอีกครั้ง
ลูกพี่เฉินเป็นลูกพี่ที่ดีจริง ๆ เจียงเสี่ยวไป๋จ่ายชั่งละ 4 เหมา แต่ลูกพี่เฉินจ่าย 4.5 เหมาต่อหนึ่งชั่ง ซึ่งสูงกว่าของเจียงเสี่ยวไป๋ถึง 5 เฟิน
มาดูกันว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะหาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กได้อย่างไร !
เฮอะ ทั้งถานชิงซาน เฉินหยวนชางและคนพวกนั้นต้องขายมันฝรั่งลูกเล็กให้ฉันอย่างแน่นอน เพราะราคาที่ฉันเสนอให้นั้นสูงลิ่วขนาดนี้
เมื่อนึกถึงภาพความตื่นเต้นเหล่านั้น หลิวซือกั๋วจึงพาเจิ้งต้าเป่าไปรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กที่บ้านชาวบ้านทีละหลัง
ผ่านไปได้ไม่นาน ทั่วทั้งเจียงวานก็เข้าสู่ความโกลาหล
เจียงเสี่ยวไป๋จ่ายราคามันฝรั่งลูกเล็กชั่งละ 4 เหมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่แล้ว แต่หลิวซือกั๋วนั้นจ่ายมากกว่า เขาจ่ายถึง 4.5 เหมาต่อหนึ่งชั่ง
นอกจากนี้ เจียงเสี่ยวไป๋จะรับซื้อในคืนพรุ่งนี้ แต่หลิวซือกั๋วจะรับซื้อทันที
ราคา 4.5 เหมาต่อหนึ่งชั่ง ทั้งยังได้เงินในทันที
แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ ?
ชาวบ้านที่มีมันฝรั่งลูกเล็กอยู่ที่บ้านตัดสินใจขายมันให้กับหลิวซือกั๋วโดยไม่ลังเล จากนั้นพวกเขาก็รับเงินอย่างมีความสุข พวกเขาบรรจุมันฝรั่งลูกเล็กและแบกไปไว้ที่บ้านของหลิวซือกั๋ว
เรื่องนี้ไปถึงหูของเจียงไห่หยาง หวังซิ่วจวี๋ และคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
“หลิวซือกั๋วกำลังทำอะไรอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการขัดขวางไม่ให้เสี่ยวไป๋หาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กได้”
หวังซิ่วจวี๋พูดอย่างเดือดดาล
“ผมคิดว่าเขาคงไม่เข็ดมากกว่า วันนั้นพี่รองยังจัดการเขาไม่หนักพอ ถ้าเขากล้าขวางเส้นทางทำเงินของพี่รอง ผมจะไปจัดการเขา”
เจียงเสี่ยวเหลยคลี่ยิ้ม หยิบท่อนไม้ข้างกำแพงขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจและเตรียมจะไปสั่งสอนหลิวซือกั๋ว
“ไอ้ลูกคนนี้ แกหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เจียงไห่หยางตะโกนใส่เจียงเสี่ยวเหลย แล้วพูดขึ้นว่า “คิดว่าการมีเรื่องชกต่อย ทุบตีจะแก้ปัญหาได้หรือไง ? แกจะไปเอาชนะใครเขาได้ ? ”
เจียงเสี่ยวเฟิงคว้าท่อนไม้จากมือของเจียงเสี่ยวเหลยแล้วโยนลงพื้น “เจ้าน้องคนนี้ พ่อเขาส่งไปเรียนไม่ยอมตั้งใจเรียน แต่กลับมาเรียนรู้นิสัยแย่ ๆ เมื่อก่อนของพี่รองจนหมด”
“แต่……แต่……”
เจียงเสี่ยวเหลยอึกอักอยู่นาน แต่ไม่สามารถเถียงคำพูดเจียงเสี่ยวเฟิงได้แม้แต่คำเดียว เขากระทืบเท้าของเขาอย่างไม่พอใจ แล้วได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง
เจียงเสี่ยวเฟิงกล่าวว่า “มันไม่ง่ายเลยที่พี่รองจะกลับตัวกลับใจหันมาเดินในทางที่ถูกต้องและหารายได้จากการขายผัดมันฝรั่ง หากเขาหาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กไม่ได้ กิจการของเขาก็คงดำเนินต่อไปไม่รอด ผมกลัวว่าเขาจะกลับไปเลือกเดินทางเก่าอีก”
“พ่อ งั้นเราไปบอกให้พวกลุงใหญ่และลูกพี่ลูกน้องของพ่อว่าอย่าขายมันฝรั่งลูกเล็กให้กับหลิวซือกั๋วดีไหม ? ”
เจียงไห่หยางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
นับแต่โบราณมา ผลประโยชน์ทำให้ใจคนเปลี่ยนไปอยู่แล้ว หากราคาเท่ากัน ญาติพี่น้องย่อมช่วยเหลือญาติ แต่ถ้าราคาของเจียงเสี่ยวไป๋ต่ำกว่า การไปขอให้พวกเขาไม่ขายในเวลานี้ก็คงเป็นการทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา
เจียงไห่หยางถอนหายใจและพูดว่า “พ่อจะไปหาพี่รองของพวกแกก่อน”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปที่บ้านของเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยใบหน้าเย็นชา
“ผมไปด้วย”
เจียงเสี่ยวเหลยพูดจบก็เดินตามเจียงไห่หยางไป
หวังซิ่วจวี๋และเจียงเสี่ยวเฟิงมองหน้ากันแล้วเดินตามไป
หลังจากเจียงเสี่ยวไป๋กินมื้อเย็นกับครอบครัวแล้ว เขาก็ทำซอสสูตรลับในครัวสำหรับวันพรุ่งนี้ หลินเจียอินอยากเรียนรู้สูตร ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงสอนเธอโดยไม่ปฏิเสธ
ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกันอยู่ในครัว คนหนึ่งตั้งใจศึกษาวิธีทำซอสสูตรลับ อีกคนก็ลงมือทำซอสสูตรลับ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย
“ปู่คะ”
จนกระทั่งได้ยินชานชานเรียกใครคนหนึ่ง เจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียอินถึงได้เห็นเจียงไห่หยางเดินเข้ามาด้วยใบหน้าขึงขัง
“พ่อ”
หลินเจียอินทักทายพ่อสามีเสียงเบา เธอหน้าแดงและถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ตอนนี้เธอยืนใกล้เจียงเสี่ยวไป๋มากจนดูสนิทสนมเกินไป เมื่อเธอเห็นพ่อสามี หญิงสาวรู้สึกกระดากอายและรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เจียงเสี่ยวไป๋สงบลงมาก และถามว่า “พ่อ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ? ”
เจียงไห่หยางตั้งสติและพูดว่า “หลิวซือกั๋วใจกว้างจริง ๆ เขารับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในหมู่บ้านโดยให้ราคา 4.5 เหมาต่อหนึ่งชั่ง”
“อ้อ ผมรู้แล้ว”
เจียงไห่หยางคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะตื่นตระหนกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่เขาตอบสนองเพียงการตอบสั้น ๆ ด้วยท่าทีที่ไม่ได้ดูร้อนรนแต่อย่างใด
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจียงไห่หยางมองดูอย่างกระวนกระวาย เขาส่ายหัวและพูดว่า “ลูกชายกลับนิ่งเฉย ส่วนคนเป็นพ่อนั้นร้อนใจแทบตาย นี่แกไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือ ? ”
หลินเจียอินได้ยินก็ร้อนใจตาม หญิงสาวจึงพูดขึ้นว่า “ทำไมเราไม่รับซื้อราคา 4.5 เหมาต่อหนึ่งชั่งเหมือนกันล่ะ ซื้อเก็บไว้สักหน่อยก่อน”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “ไม่มีประโยชน์ที่จะขึ้นราคา”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาพูดอีกครั้งว่า “เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเขาก่อน”
เจียงไห่หยางรู้สึกประหม่าเมื่อได้ยินแบบนี้ เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า “แกจะไปมีเรื่องกับเขาอีกใช่ไหม ? ”
เมื่อวานก่อนที่เขาทำร้ายร่างกายหลิวซือกั๋วมันสมเหตุสมผลแล้ว แต่มันคงไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้ายหลิวซือกั๋วอีกในวันนี้
หลินเจียอินพูดโน้มน้าวเขาเช่นกัน “อย่าหุนหันพลันแล่น”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “สุภาพบุรุษใช้เหตุผลแต่ไม่ใช่กำลัง ผมแค่ไปคุยกับเขา ไม่ได้ไปชกต่อยเขา”
ทั้งเจียงไห่หยางและหลินเจียอินต่างพากันมุ่ยปาก
ใครจะไปเชื่อ
ถ้าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นสุภาพบุรุษที่ใช้เหตุผล แต่ไม่ใช้กำลัง แล้ววันก่อนฝีมือใคร ?
“พี่รอง ถ้าพี่ต่อยหลิวซือกั๋ว ฉันจะช่วยพี่เอง”
เจียงเสี่ยวเหลยที่ตามมาข้างหลังไม่ได้ยินสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดไปก่อนหน้านี้ เขาได้ยินเพียง “ไปต่อย” โดยคิดว่าพี่รองกำลังจะไปมีเรื่องกับหลิวซือกั๋วอีกครั้ง เขาจึงตะโกนอย่างตื่นเต้นทันที
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าให้เขา “ช่วยได้”
พูดจบ ก็เดินออกจากบ้านไป
คนในหมู่บ้านต่างปลูกบ้านใกล้เคียงกัน จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะหาหลิวซือกั๋วเจอที่บ้านของเจียงไห่โจว
เจียงไห่โจวและเจียงไห่หยางมีปู่คนเดียวกัน ดังนั้นตามศักดิ์แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงเรียกเจียงไห่โจวว่าอา
“เสี่ยวไป๋ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ ? ”
เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป่ เจียงไห่โจวรู้สึกกังวล
อย่างไรก็ตาม เจียงไห่หยางบอกเขาแล้วและขอให้เขาขายมันฝรั่งลูกเล็กให้กับเจียงเสี่ยวไป๋
ในตอนนั้น เขาได้ยินมาว่าหลานชายให้ราคาชั่งละ 4 เหมา เขาตบหน้าอกให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเขาจะไม่ขายมันฝรั่งลูกเล็กในบ้านของเขาให้ใคร จะขายให้เจียงเสี่ยวไป๋เท่านั้น
ทว่าเพียงชั่วพริบตาเดียว เขากลับขายให้กับหลิวซือกั๋วไปแล้ว
ราวกับว่าเขาหลงลืมคำพูดก่อนหน้าไปหมดแล้ว
สุดท้ายเขาผิดสัญญา
ในฐานะผู้อาวุโส เขารู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่เห็นเจียงเสี่ยวไป๋
ใบหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋สงบนิ่งดั่งผืนน้ำ เขาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า “ผมมาหาหลิวซือกั๋ว”