ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 53 :ฉันไม่ได้ดูถูก แต่นายทำไม่ได้หรอก
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 53 :ฉันไม่ได้ดูถูก แต่นายทำไม่ได้หรอก
ตอนที่ 53 :ฉันไม่ได้ดูถูก แต่นายทำไม่ได้หรอก
หลิวซือกั๋วไม่กล้าพูดอะไร แต่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คิดที่จะหยุดอยู่แค่นั้น
เขาหันกลับมาและเดินไปด้านหน้าของหลิวซือหมิง เขาชี้หน้าแล้วพูดว่า “ฉันทำร้ายทุบตีนาย คราวนี้นายจะยอมไหม ? ”
หลิวซือหมิงพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ฉัน…ฉันเอาชนะนายไม่ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย นี่เขาจะไปอธิบายเหตุผลอะไรให้คนโง่ฟัง ?
ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าหลิวซือกั๋วเป็นคนยุยงให้หลิวซือหมิงทำแบบนี้
เขาหันไปหาหลิวซือกั๋วอีกครั้งและพูดว่า “ที่ฉันทำร้ายนายไปก่อนหน้านี้เพราะนายมันสมควรโดนแล้ว ตอนนี้ฉันจะถามนาย นายคิดว่าราคาของมันฝรั่งลูกเล็กที่ขายให้ฉันมันได้ราคาต่ำใช่ไหม ? ”
“ใช่…มันต่ำ”
หลิวซือกั๋วพูดเสียงสั่น
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดว่า “ในเมื่อนายคิดว่าได้ราคาต่ำ ถ้าเช่นนั้นนายควรจะโทษตัวนายเอง ในเมื่อนายขายมันฝรั่งให้ฉันอย่างเต็มใจเช่นนั้น ไม่มีใครบังคับนาย และนายยังแบกมันฝรั่งไปที่บ้านของฉันด้วยตัวเอง”
หลิวซือกั๋วพูดอย่างดื้อรั้น “ในตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่ามันฝรั่งลูกเล็กหนึ่งชั่งสามารถขายได้ในราคา 8 เหมานี่”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา “มันฝรั่งลูกเล็กราคา 8 เหมาต่อหนึ่งชั่ง นายสามารถขายได้ไหม”
เขาโบกมือปัดและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกนายนะ แต่นายน่ะทำ-ไม่-ได้หรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ต่อว่าเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย หลิวซือกั๋วทนไม่ได้และพูดอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่แค่ทำซอสพริกกับน้ำมันเท่านั้น ใส่หัวไชเท้าดอง ผสมมันฝรั่ง ใครจะทำไม่ได้บ้าง”
เจียงเสี่ยวไป๋กลอกตามองเขา
หากผัดมันฝรั่งขายง่ายจริง ๆ พวกเขาคงจะร่ำรวยมหาศาลกันหมดทุกคนแล้วน่ะสิ
“เอาล่ะ ในเมื่อนายมีความมั่นใจ ฉันจะคืนมันฝรั่งลูกเล็กให้นาย 475 ชั่ง ส่วนนายก็คืนเงินฉันมา 2.38 หยวน จากนั้นนายก็ไปทำผัดมันฝรั่งขายเอง”
ห๊ะ ?
หลิวซือกั๋วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น
“ฉันแค่ต้องการให้เพิ่มราคา ฉันไม่มีเงินทุนไปซื้อชุดหม้อหรือเตาถ่าน นับประสาอะไรกับการไปขายมันฝรั่งในเมือง”
หลิวซือกั๋วพูดอย่างหดหู่ใจ
“เฮอะ ๆ ……”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “ฉันจะบอกนายให้นะ เรื่องเพิ่มราคาให้นายน่ะมันเป็นไปไม่ได้เลย นายไป เตรียมเงินมา แล้วฉันจะส่งมันฝรั่งลูกเล็กจำนวน 475 ชั่งคืนให้นาย”
เขาหันกลับมาและพูดกับทุกคนว่า “ใครจะขายมันฝรั่งลูกเล็ก 475 ชั่งให้ฉัน”
แม้จะถามอีกสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีใครส่งเสียง
ถ้าเขาตกลงขายมันฝรั่งลูกเล็กให้กับเจียงเสี่ยวไป๋ในเวลานี้ นั่นจะไม่ทำให้หลิวซือกั๋วขุ่นเคืองใจหรือ ?
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคนส่วนใหญ่รู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋สามารถขายมันฝรั่งลูกเล็กได้ราคาตกชั่งละ 8 เหมา พวกเขาต่างก็หวังว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะจ่ายให้พวกเขามากกว่านี้
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปรอบ ๆ เห็นการแสดงออกของทุกคนก็เข้าใจ
เขาจึงพูดเสียงดังอีกครั้ง “วันนี้ใครก็ตามที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้ฉัน 475 ชั่ง ฉันจะยังคงให้ราคาชั่งละ 5 หลี ทว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าไป ฉันจะรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในราคาชั่งละแค่ 3 หลีเท่านั้น และหากไม่มีใครขายมันฝรั่งลูกเล็กให้ฉัน ฉันจะขับรถแทรกเตอร์ไปรับซื้อที่หมู่บ้านใกล้เคียง”
“นี่นั่นมีคนมากมายเต็มใจที่จะขายมันให้ฉันในราคานี้แน่นอน”
หลังจากพูดจบ เขาก็เสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “สาเหตุที่ราคาลดลงเหลือแค่ชั่งละ 3 หลีนั้น ถ้าทุกคนจะโทษก็ไปโทษหลิวซือกั๋วแล้วกัน”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋พูดจบ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เสี่ยวไป๋ ฉันมีมันฝรั่งลูกเล็กที่บ้านของฉัน ถ้านายต้องการก็แค่เอารถมาลากเอา ไม่ต้องจ่ายเงิน”
ทุกคนได้ยินเสียงและมองตามไปก็เห็นว่าเป็นช่างไม้ถานที่ตะโกนอยู่ในลานบ้านของเขา
บ้านของช่างไม้ถานอยู่ไม่ไกลจากบ้านของพี่น้องตระกูลหลิวห่าง ห่างกันเพียงแค่ 40-50 เมตรเท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้เขาทำงานไม้ให้โดยให้ค่าจ้างสูง และยังพาลูกสาวของเขาถานเสี่ยวฟางเข้าเมืองไปทำงาน และให้ค่าจ้างเธอมากถึง 75 หยวนต่อเดือน
เดิมทีเธอได้รับเงินเดือนละ 60 หยวน แต่เฝิงเยี่ยนหงเพิ่มให้ถานเสี่ยวฟางอีก 15 หยวนเพื่อให้เธออยู่ช่วยงานที่ร้าน
75 หยวนต่อเดือนสูงกว่าค่าจ้างแรงงานในเมืองถึง 3 เท่า
ช่างไม้ถานจะสนใจเงินไม่กี่หยวนที่ใช้ซื้อขายมันฝรั่งลูกเล็กจำนวน 475 ชั่งได้อย่างไร
“ลุงถาน ขอบคุณนะครับ”
“ลุงช่วยชั่งน้ำหนักมันฝรั่งให้ผม 475 ชั่งที”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่ช่างไม้ถานและพูดว่า “ลุงถาน ลุงบอกว่าลุงไม่เอาเงินค่ามันฝรั่งลูกเล็ก ดังนั้นผมจะไม่จ่ายส่วนนั้นให้ลุง”
“แค่ผมขอให้ลุงช่วยผมอีกครั้ง หลังจากชั่งเสร็จแล้ว รบกวนลุงแบกมันมาให้ผมหน่อย”
“ผมจะให้เงินลุง 50 หยวนเป็นค่างานแบกมันฝรั่งมาให้ผม”
“อะไรนะ ? ระยะทางแค่นี้ แบกมาเดี๋ยวเดียวก็ได้ค่าจ้าง 50 หยวนแล้วหรือ ? ”
ทุกคนตกตะลึง
ทุกคนต่างเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้กับเขา
“ไม่ต้องหรอก ! ไม่ต้องให้เงินเยอะขนาดนั้น ! ”
ช่างไม้ถานตกตะลึงเช่นกัน และปฏิเสธอย่างรวดเร็วหลังจากตั้งสติได้
เจียงเสี่ยวไป๋กลับพูดเสียงดังว่า “ใครมีน้ำใจกับผม ผมก็จะตอบแทนคนนั้นไปสิบเท่า ในเมื่อลุงถานไว้หน้าผม ผมก็ต้องให้เกียรติลุงเช่นกัน”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขายังคงพูดเสียงดังอีกว่า “แต่ถ้าฉันไม่เต็มใจให้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้อะไรไปจากฉัน ใครก็ตามที่กล้าเล่นตุกติกกับฉัน ฉันจะตัดมือเขาทิ้ง”
ทุกคนเงียบ
ตราบใดที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดออกมา เขาย่อมทำจริง
หากใครเล่นตลกกับเขา เขาก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน
ราคาของมันฝรั่งลูกเล็กเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด เดิมทีราคาชั่งละ 5 หลี และทุกคนก็มีความสุขที่จะขายมันในราคานี้อยู่แล้ว
ตอนนี้เนื่องจากความละโมบโลภมากของหลิวซือกั๋วเงิน ทำให้ราคาชั่งละ 5 หลีต้องหลุดลอยไป
มันกลายเป็น 3 หลีต่อหนึ่งชั่งไปแล้ว
ผู้ที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กไปแล้วต่างเงียบ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ขายต่างก็มองไปที่หลิวซือกั๋วด้วยความโมโห
ทั้งหมดเป็นเพราะความไม่รู้จักพอของเขา
สุดท้าย ราคาของมันฝรั่งลูกเล็กก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ราคากลับลดลงไปเกือบครึ่ง
“เสี่ยวไป๋ อย่าเอาเรื่องที่หลิวซือกั๋วสร้างขึ้นมาโยงถึงพวกเราสิ”
“ใช่ เสี่ยวไป๋ เราต่างก็เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น ดังนั้นอย่าลดราคาเลย เราจะยังคงขายให้ในราคาชั่งละ 5 หลี”
“เสี่ยวไป๋…”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋เพิกเฉยต่อคำพูดของทุกคน และตะโกนบอกเจียงเสี่ยวเหลยที่อยู่ในฝูงชนว่า “เสี่ยวเหลย ไปหาพี่สะใภ้ของนายแล้วบอกว่าพี่ต้องการใช้เงิน 50 หยวน”
“ได้เลยพี่รอง”
เจียงเสี่ยวเหลยตกลง แล้ววิ่งกลับบ้าน
วันนี้พี่รองของเขาเท่ห์มาก เขาต่อยพี่น้องตระกูลหลิวจนน่วม แม้แต่จูเยี่ยนฟิงที่พูดจาหยาบคายยังไม่กล้าแข็งข้อใส่
ไม่เห็นหรือไงว่าคนที่มามุงดูต่างยำเกรงและกลัวพี่รองของเขา แต่ละคนต่างขอร้องอ้อนวอนให้เขาอย่าลดราคารับซื้อมันฝรั่ง
ถ้าจะเป็นคน เขาจะเป็นคนอย่างเจียงเสี่ยวไป๋นี่แหละ
ขณะที่วิ่ง เจียงเสี่ยวเหลยนึกถึงประโยคหนึ่งในนิยายศิลปะการต่อสู้เล่มหนึ่งที่ว่า “ใครไม่รู้จักเฉินจิ้นหนาน ก็ไม่ควรเรียกเขาว่าวีรบุรุษ”
“พี่สะใภ้ พี่รองบอกว่าเขาต้องการใช้เงิน 50 หยวน”
เจียงเสี่ยวเหลยวิ่งกลับบ้าน เขาบอกกับหลินเจียอินด้วยน้ำเสียงที่หอบแฮ่ก
“เขาจะเอาเงิน 50 หยวนไปทำอะไร ? ”
หลินเจียอินถามออกมาอย่างรวดเร็ว “พี่รองของนายยอมเพิ่มราคามันฝรั่งลูกเล็กให้กับสองพี่น้องนั่นหรือ ? ”
“ไม่…ไม่ได้ขึ้นราคา”
เจียงเสี่ยวเหลยสูดลมหายใจเข้าและพูดว่า “พี่รองต่อยหลิวซือกั๋วและหลิวซือหมิงจนน่วม”
“ห๊ะ ! ”
หลินเจียอินอุทานแล้วถามต่อ “เขาทุบตีสองคนนั้นจนต้องหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลใช่ไหม ? ”
“ฮ่า ๆ ๆ ”
เจียงเสี่ยวเหลยอดหัวเราะไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่พูดไม่ชัดเจน ทำให้พี่สะใภ้รองเข้าใจผิด
เขาอธิบายเรื่องนี้ในไม่กี่ประโยคอย่างเร่งรีบ
หลินเจียอินถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอตบหน้าอกของเธอและพูดซ้ำ ๆ ว่า “ดี ดีแล้ว”
หลังจากพูดจบ เธอก็ถามอย่างกระวนกระวายว่า “แล้วพี่รองของนายเป็นอย่างไรบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวเหลยยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรเลย”
หลินเจียอินรู้สึกโล่งใจ เธอกลับไปที่บ้านและหยิบเงิน 50 หยวนมอบให้เจียงเสี่ยวเหลย ก่อนหนุ่มน้อยจะวิ่งออกไป เธอยังไม่ลืมกำชับว่า “รีบไป แล้วบอกพี่รองของนายให้กลับบ้านได้แล้ว”
“รับทราบพี่สะใภ้ ผมเข้าใจแล้ว”
หลังจากพูดจบ เขาก็วิ่งกลับไปบ้านหลิวซือกั๋วราวกับลมกระโชก