ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 413 :ไปหาเธอ
ตอนที่ 413 :ไปหาเธอ
วันนี้เจียงเสี่ยวไป๋กลับบ้านดึกมาก
เมื่อมาถึงบ้าน หลินเจียอินก็หลับไปแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเธอแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้าภรรยาของเขาตื่น แล้วถามว่าหยางเจี๋ยเรียกเขาไปพบทำไม เขาก็ไม่รู้จะตอบเธออย่างไรจริง ๆ
จะให้เขาบอกว่าหลี่ม่านม่านแอบชอบเขาอย่างนั้นหรอ ?
หรือจะให้เขาบอกว่าเขารู้สึกผิดต่อหลี่ม่านม่าน ?
เขาจำได้ว่าคังยัง กัตโซเคยกล่าวไว้ว่า: บางทีคนเราก็จำเป็นต้องซ่อนความลับไว้บ้าง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
ตลกจัง !
หลังจากไปอาบน้ำที่ห้องน้ำแขกด้านนอกแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับเข้าไปในห้องอย่างเงียบ ๆ และนอนหลับไป
คืนนี้เป็นคืนที่ไร้ซึ่งความฝัน
วันรุ่งขึ้น วันที่ 14 ตุลาคม วันนี้เป็นวันที่ 9 เดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ตรงกับเทศกาลฉงหยาง !
เจียงเสี่ยวไป๋พาลูกสาวของเขาออกไปวิ่งในตอนเช้า เขาสอนเธอท่องบทกวี จากนั้นก็มากินอาหารเช้าด้วยกัน
ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ เจียงเสี่ยวไป๋ดูมีจิตใจที่สงบอย่างน่าประหลาดใจ
แต่วันนี้เขาไม่ได้ไปทำงาน
เจียงชานมีความสุขมาก เธอไม่ต้องไปในเมืองอีก เธอสามารถเล่นกับเจียงชือได้ตลอดทั้งวัน และได้พาเจียงถิงไปเล่นที่สวนหลังบ้าน
เจียงเสี่ยวไป๋เดินเล่นกับหลินเจียอิน
เมื่อวานฝนหยุดตกตอนเที่ยงคืน ในเช้าวันนี้หลังจากที่ฝนหยุดตก อากาศในหมู่บ้านบนภูเขาจึงสดชื่นเป็นพิเศษและมีอุณหภูมิที่เย็นเล็กน้อย
“เมียจ๋า ที่ผมไปหาหยางเจี๋ยมาเมื่อคืน เธอก็เล่าบางอย่างเกี่ยวกับหลี่ม่านม่านให้ผมฟัง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว
ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้เลือกที่จะเก็บมันเป็นความลับ และตั้งใจจะบอกเรื่องของหลี่ม่านม่าน ให้ภรรยาของเขาฟัง
เขาทำให้คนหนึ่งผิดหวังไปแล้ว เขาไม่สามารถทำให้อีกคนผิดหวังได้อีก
หลินเจียอินเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ แล้วเม้มริมฝีปากของเธอ ก่อนจะถามว่า “ฉันคิดว่าคุณจะไม่พูดมันซะแล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หน้าเจื่อนไปเล็กน้อย
หลินเจียอินกล่าวว่า “ที่จริงฉันก็พอจะเดาได้แล้วล่ะ”
ใบหน้าที่สวยงามของเธอดูซับซ้อนเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดต่อ “เธอคงบอกคุณว่าหลี่ม่านม่านชอบคุณ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่หลินเจียอินด้วยความประหลาดใจและอ้าปากค้างออกมา
บนหัวของเขามีเครื่องหมายคำถามมากมายนับไม่ถ้วน ภรรยาของเขารู้ได้อย่างไร ?
ขณะเดียวกัน เขาก็ดีใจที่เลือกจะไม่ปิดบังเธอ ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาอาจมีช่องว่างเกิดขึ้นได้
หลินเจียอินเงยหน้าขึ้นมองแม่น้ำชิงเจียงตรงหน้าเธอ สายลมอ่อน ๆ ในแม่น้ำพัดผมของเธอเบา ๆ เธอพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ตอนที่ฉันอยู่ในวิทยาลัย ฉันก็พอจะรู้บ้างว่าหลี่ม่านม่านชอบคุณ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “เมียจ๋า แต่ผมไม่ได้……”
หลินเจียอินหยุดเขา แล้วพูดต่อ “ฉันรู้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้น หลินเจียอินก็กล่าวต่อ “หยางเจี๋ยคงไม่เคยรู้มาก่อน แต่เธออาจไปพบบางสิ่งบางของหลี่ม่านม่านหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงขอให้คุณไปพบกับเธอตามลำพัง บางทีเธออาจจะคิดว่า จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้คุณทราบ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เธอให้ไดอารี่ของหลี่ม่านม่านกับผม”
หลินเจียอินเบะปากด้วยความขมขื่น ขณะที่เธอพูดว่า “ที่จริงแล้วฉันแอบหึงอยู่เหมือนกัน แต่หลี่ม่านม่านไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่ได้ทำผิดต่อเรา ตรงกันข้าม……เราสองคนทำให้เธอผิดหวังด้วยซ้ำ ! ”
เธอลูบผมสวยที่ถูกลมพัดมา แล้วพูดว่า “เมื่อเทียบกับหลี่ม่านม่านแล้ว ฉันมีความสุขกว่าเธอมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกขมขื่นในใจ ใช่ คุณมีความสุขมากในชีวิตนี้ แต่ชาติที่แล้ว คุณทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าหลี่ม่านม่านเสียอีก
ชีวิตที่แล้วของหลี่ม่านม่าน เธออาจจะจากโลกนี้ไปอย่างเงียบ ๆ แต่อย่างน้อยเธอก็เอาความคิด ความรู้สึก และความลับในใจของเธอติดตัวไปด้วย
แต่ในชาติที่แล้ว คุณจากโลกนี้ไปพร้อมกับความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง
ไม่เช่นนั้น คุณคงไม่ตั้งใจกระโดดลงแม่น้ำอันหนาวเหน็บไปพร้อมกับลูกสาวอันเป็นที่รัก
“เมียจ๋า ผมขอโทษ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างจริงใจทั้งน้ำตา
เขาขอโทษสำหรับชาติก่อนที่เขาทำไม่ดีกับเธอ แต่หลินเจียอินเข้าใจผิดว่าเขาขอโทษเรื่องของหลี่ม่านม่าน เธอจึงพูดว่า “สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ นอกจากนี้ หลี่ม่านม่านก็จากโลกนี้ไปแล้ว ฉันจะไม่ใส่ใจมันอีก”
เจียงเสี่ยวไป๋กอดหลินเจียอินไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วกระซิบว่า “เมียจ๋า คุณดีกับผมมาก ! ”
หลินเจียอินปล่อยให้เขากอดเธออย่างเงียบ ๆ เพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทางร่างกายของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ผละออกมาจากอ้อมกอดของเจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “ตอนนี้คุณกำลัง….รู้สึกผิดกับเธออยู่ใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าช้า ๆ
เขาไม่มีเจตนาที่จะปกปิดมันจากภรรยาของเขา
หลินเจียอินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ถ้าคุณต้องการไปพบเธอ ก็ไปเถอะ ! ”
“ขอบคุณนะเมียจ๋า ผมตั้งใจว่าจะไปดูสุสานฝังศพของเธอสักครั้ง ! ”
หลินเจียอินพยักหน้า “แล้วคุณจะไปเมื่อไหร่ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วพูดว่า “ผมคิดว่าจะไปวันนี้ เพราะวันที่ 17 จะมีการฝึกอบรมทำเมนูใหม่ให้กับเชฟของร้านกุ้งอบ เดินทางไปกลับก็น่าจะใช้เวลาสักสองวัน”
หลินเจียอินพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นกลับกันเถอะ คุณจะได้กลับไปอาบน้ำแล้วออกเดินทาง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมต้องขอบคุณคุณอีกครั้ง ทั้งที่วันนี้ผมควรอยู่บ้าน อยู่กับคุณและลูก”
หลินเจียหยินฝืนยิ้ม “ฉันไม่เป็นไร คุณช่วยเอาดอกไม้ไปไว้หน้าหลุมศพของเธอแทนฉันที”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดว่า “ผมจะพาชานชานไปด้วย ให้เธอไปเป็นตัวแทนของคุณ ! ”
หลินเจียอินได้ยินแบบนั้นก็ถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงต้องพาชานชานไปด้วยล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เพราะผมได้รับปากกับลูกไว้ว่าไม่ว่าผมจะไปที่ไหน ผมก็จะพาเธอไปด้วยทุกที่ เว้นแต่ว่าเธอไม่อยากไป อีกอย่าง ผมอาจจะให้หยางเจี๋ยไปด้วยกัน ไปกันสองคนมันดูไม่ดี เอาชานชานไปด้วยมันอุ่นใจกว่า”
หลินเจียอินพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ไปถามเธอดูว่าเธออยากไปไหม”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ว่ากันว่าเด็ก ๆ ที่นั่นลำบากมาก แม้ว่าในอดีตชานชานจะมีชีวิตที่ลำบากเพราะผมไม่เอาไหน แต่ชีวิตของเธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ผมจึงอยากพาเธอไปเห็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ว่าต้องใช้ความพยายามกว่าเด็กทั่วไปมากแค่ไหน เธอจะได้เติบโตด้วย”
“อืม ! ”
หลินเจียอินตอบกลับและทั้งสองก็เดินกลับไปที่บ้าน
เธอช่วยเจียงเสี่ยวไป๋จัดกระเป๋าเดินทาง เมื่อเธอเห็นกระเป๋าถือส่วนตัวของเจียงเสี่ยวไป๋ เธอก็หยิบเงิน 3,000 หยวนออกจากกระเป๋าของเธอแล้วใส่เข้าไปในกระเป๋าสตางค์ของเจียงเสี่ยวไป๋
เธอคิดว่าถ้าเจียงเสี่ยวไป๋ไปที่นั่น เขาอาจจะบริจาคเงินให้กับโรงเรียนประถม
ตอนที่เธอยัดเงินเข้ากระเป๋า เธอเห็นสมุดบันทึกที่มีปกสีเหลืองเข้มก็รู้ได้ทันทีว่ามันอาจเป็นไดอารี่ที่หลี่ม่านม่านทิ้งไว้ เธอเหลือบมองอยู่สองสามครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หยิบมันขึ้นมา
หลี่ม่านม่านไม่อยู่ที่นี่แล้ว เหตุใดจึงต้องกังวลกับมันอีก ?
หลินเจียอินรูดซิปกระเป๋าลง
เจียงเสี่ยวไป๋ไปพบพ่อแม่ของเขาก่อน และบอกว่าเขาจะเดินทางไปข้างนอกและจะกลับมาในอีกสองสามวัน
เจียงไห่หยางไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะตอนนี้หน้าที่การงานของลูกชายเติบโตขึ้นมากแล้ว การเดินทางไปทำธุรกิจในต่างถิ่นจึงกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาไปแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกผิดเล็กน้อย วันนี้เป็นเทศกาลฉงหยาง เดิมทีเขาควรจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัว
เรื่องนี้ก็เป็นการตัดสินใจที่กะทันหัน จึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
หลังจากบอกกล่าวพ่อแม่แล้ว เขาก็ไปที่สวนหลังบ้านเพื่อเรียกเจียงชาน
“ชานชาน พ่อจะออกไปข้างนอกสักสองสามวัน หนูจะไปด้วยไหม ? ”
“ไปค่ะ ! ” เด็กน้อยพูดโดยไม่คิด “ป่าป๊าไปไหน หนูก็ไปด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและบอกให้เจียงชานไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง
เจียงชานมองไปที่เจียงชือที่นอนอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “ป่าป๊าคะ หนูขอพาเจียงชือไปด้วยได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าไม่ได้ เจ้าตัวเล็กจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงเชื่อฟังและพูดกับเจียงถิงอย่างจริงจัง “น้องถิงถิง พี่จะไปข้างนอกกับป่าป๊า ฝากน้องถิงถิงช่วยดูแลเจียงชือแทนพี่หน่อยนะ ! ”
“ได้สิ ! ” เจียงถิงพูดอย่างมีความสุข “พี่ชานชานไม่ต้องกังวล หนูจะดูแลเจียงชืออย่างดี ! ”
เจียงชานเดินออกจากสวนหลังบ้านอย่างมีความสุขกับเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าสตางค์ ก่อนจะกล่าวลาหลินเจียอิน เขาพาเจียงชานขึ้นรถจี๊ปและขับออกไปช้า ๆ ตรงไปยังอำเภอชิงซาน