ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 243 :ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งชิงคนมาไม่ได้
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 243 :ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งชิงคนมาไม่ได้
ตอนที่ 243 :ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งชิงคนมาไม่ได้
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ นายจะมีข่าวดีอะไรล่ะ? จะดีกว่าข่าวที่ว่าเมียเขาท้องลูกอีกอย่างนั้นหรือ ?
“โอเค ว่ามาสิ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ได้สังเกตว่าเฝิงเยี่ยนหงเอาแต่ขยิบตาให้หวังผิง
ซึ่งหวังผิงก็ไม่ได้สังเกตเช่นเดียวกัน
เขามุ่งความสนใจไปที่การบอกข่าวดีให้กับเจียงเสี่ยวไป๋เท่านั้น เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อวานนี้ฉันพาเยี่ยนหงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สอง ! ”
“ฮ่าฮ่า……”
“นั่นไม่ใช่ข่าวดีหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋อ้าปากค้าง: นี่…….เป็นข่าวดีจริง ๆ
มันช่าง……บังเอิญเหลือเกิน !
ก่อนที่เขาจะบอกหวังผิงว่าหลินเจียอินกำลังตั้งท้อง เขาก็ได้ยินข่าวดีของเฝิงเยี่ยนหงก่อนแล้ว
เขาหันไปมองเฝิงเยี่ยนหงและพูดอย่างรู้สึกผิด: “เยี่ยนหง ฉันขอโทษ ฉัน……”
ก่อนหน้านี้เขาบอกเธอว่าหลินเจียอินตั้งท้อง และขอให้เธอดูแลร้านให้มากขึ้น
โดยไม่คาดคิดว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่ด้วย
เมื่อหวังผิงได้ยินเจียงเสี่ยวไป๋กล่าวขอโทษเฝิงเยี่ยนหง เขาก็เกาหัวด้วยความสับสนเล็กน้อย: นายได้ยินมาว่าเมียของฉันกำลังตั้งท้อง นายไม่ควรแสดงความยินดีหรือ ? นายจะขอโทษทำไม ?
เฝิงเยี่ยนหงไม่รอให้เจียงเสี่ยวไป๋พูดจบ เธอรีบพูดว่า “พี่ พี่ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ไม่ได้สำคัญอะไร ร่างกายของฉันแข็งแรงอยู่แล้ว ! ”
เธอมองค้อนหวังผิงและพูดว่า “พี่สะใภ้เจียอินก็ตั้งท้องเหมือนกัน ! ”
ห๊า ?
หวังผิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “พี่สะใภ้ก็ท้องเหมือนกันหรือ ? ”
จากนั้น เขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม: “เยี่ยมมาก จากนี้ไปเด็กสองคนจะอายุเท่ากัน ในอนาคตพวกเขาจะได้เป็นเพื่อนเล่นกันด้วย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ: เมียนายเพิ่งท้องตอนนี้ แต่นายคิดเพียงแค่ว่าลูกจะมีเพื่อนเล่นหรือไม่แค่นั้นหรือ !
เขาส่ายหัว แต่ก็ยังกล่าวแสดงความยินดีกับทั้งสองคน
จากนั้น เขาก็กล่าวเตือน “เยี่ยนหง หากเธอกำลังตั้งครรภ์ ควรหยุดทำพะโล้และกุ้งอบน้ำมัน ไปก่อน พยายามออกกำลังกายให้น้อยลง ! ”
กุ้งอบน้ำมันเป็นงานที่ต้องเดินบ่อยและใช้กำลังตลอดเวลา ถ้าส่งผลต่อร่างกายย่อมไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ฉันทำได้”
หวังผิงยังพูดเสริมอยู่ข้าง ๆ ว่า “แค่ขยับทัพพีไม่ใช่หรือ ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ! แม่บอกว่าตอนที่เธอท้องลูกคนแรก เธอก็หาบน้ำและสับฟืน งานหนักกว่านี้เธอก็เคยทำมาแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัวและพูดอย่างจริงจังว่า “หวังผิง นายจะเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ได้ การตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับสตรีมีครรภ์ ที่ผ่านมานั้นช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้นายควรให้ความสำคัญกับร่างกายเมียของนายให้ดี”
หวังผิงพยักหน้า “ฉันรู้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าเขาฟังเข้าหูจริง ๆ หรือเปล่า
นับตั้งแต่ส่งมอบการดำเนินงานของร้านขายกุ้งอบน้ำมันให้กับหลินเจียอิน เจียงเสี่ยวไป๋แทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจการเฉพาะของร้านขายกุ้งอบน้ำมันเลย
ร้านหลักคือกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงบนถนนชิงโจว เนื่องจากหลินเจียอินดูแลที่นี่ จึงไม่มีผู้จัดการร้าน มีแค่หูฉางอิงเป็นรองผู้จัดการร้านเพียงคนเดียว
เจียงเสี่ยวไป๋จึงไปหาหูฉางอิง
เขาเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของหลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหง จากนั้นจึงเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นผู้จัดการร้านโดยตรง เพื่อให้เธอเข้ามาจัดการการดำเนินงานของร้านอย่างเต็มที่
ในเวลาเดียวกัน เฝิงเยี่ยนหงก็ถูกย้ายหน้าที่ออกจากครัว
เขาจัดให้เธอไปนั่งทำงานอยู่ที่เดียวกับหลินเจียอินที่โรงงานผลิตเครื่องปรุงรส เพื่อที่พวกเธอทั้งสองจะได้มีเพื่อนและดูแลซึ่งกันและกัน
แน่นอนว่าเจียงชานและหวังกังก็ย้ายมาที่นี่เช่นกัน
เฉินซิน พนักงานเสิร์ฟที่มีบุคลิกดี ขยันและรอบคอบได้ถูกย้ายมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของหลินเจียอินด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋บอกกับเฉินซินว่า “จากนี้ไปคุณจะต้องติดตามผู้จัดการหลินและรองผู้จัดการเฝิง พวกเธอทั้งคู่กำลังตั้งครรภ์ คุณต้องดูแลพวกเธออย่างดีและอย่าปล่อยให้พวกเธอทำงานมากเกินไป”
เฉินซินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เข้าใจแล้วค่ะผู้ช่วยเจียง ฉันจะดูแลผู้จัดการหลินและรองผู้จัดการเฝิงอย่างดี”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและบอกรายละเอียดงานแก่เธอ เพื่อให้เธอสนใจในรายละเอียดมากเป็นพิเศษ
กล่าวโดยสรุป เฉินซินจัดการงานส่วนใหญ่ และหลินเจียอินก็แค่ดูรายงานของแต่ละร้านเท่านั้น
หากมีใครสนใจที่จะเข้าร่วมรับสิทธิ์แฟรนไชส์ เฉินซินจะติดต่อเบื้องต้น สุดท้ายหลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหงถึงจะออกมาทำการเจรจาสัญญา
ก่อนหน้านี้ ผู้หญิงทั้งสองคนมีงานยุ่งมาก แต่จู่ ๆ พวกเธอก็รู้สึกว่าตอนนี้พวกเธอสบายเกินไป
“พี่สะใภ้ ฉันรู้สึกเบื่อมาก ! ”
เฝิงเยี่ยนหงขลุกตัวอยู่แต่ในห้องทำงานของโรงงานที่กว้างขวางโดยไม่ได้ทำอะไรเลย เธอจึงพูดด้วยสีหน้าหดหู่
หลินเจียอินถอนหายใจ “ฉันก็รู้สึกเบื่อ ๆ เหมือนกัน”
เฝิงเยี่ยนหงเกิดความคิด “งั้นเราหาอะไรทำกันดีไหม ? ”
หลินเจียอินยังอยากหางานทำอยู่ แต่เจียงเสี่ยวไป๋เข้มงวดมาก เขาส่งเฉินซินมาเป็นผู้ช่วยของเธอด้วยซ้ำ
ผู้ช่วยอะไร เห็นได้ชัดว่าเขาส่งเฉินซินมาดูแลเธอและเฝิงเยี่ยนหงต่างหาก
หลินเจียอินมีความคิดอยู่ภายในใจของเธอ
อย่างไรก็ตาม นี่คือความตั้งใจของเจียงเสี่ยวไป๋ แม้ว่าเธอจะไม่ชอบ แต่เธอก็ยังรู้สึกตื้นตันใจมากและไม่สามารถปฏิเสธหรือบอกความจริงได้
เมื่อเฉินซินอยู่ที่นี่ ฉันจะทำอะไรได้อีก ?
หลินเจียอินส่ายหัว “ลืมไปเถอะ เรามาอ่านหนังสือกันต่อดีกว่า ! ”
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เธอและเจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจกันมากขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเสี่ยวไป๋ ใส่ใจและเป็นห่วงเธออย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น หลังจากที่เธอกลับบ้านทุกวัน เธอจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านและเรียนหนังสือ
เจียงเสี่ยวไป๋เตรียมหนังสือจำนวนมากไว้ในโรงงาน ซึ่งหลายเล่มเป็นหนังสือเกี่ยวกับเทคนิคด้านการบริหารจัดการ หลินเจียอินรู้สึกว่าเมื่อเจียงเสี่ยวไป๋จัดการแบบนี้และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แทนที่จะบ่นก็ควรใช้ประโยชน์จากเวลาว่างนี้เรียนรู้จากหนังสือดีกว่า
แม้จะตามเขาไม่ทัน อย่างน้อยก็อย่าตามหลังเขาเกินไป
เฝิงเยี่ยนหงไม่มีความสนใจในการอ่าน เธอยังคงคิดว่าควรทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น การคนทัพที เขย่ากระชอนอะไรเทือกนั้นยังดีกว่า
เธอไม่ใช่อยู่ในช่วงวัยที่จะเรียนแล้ว และไม่ต้องการเป็นนักเรียนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เก้าในส่วนสิบครั้งของชีวิตไม่เป็นที่น่าพอใจ เธอไม่ต้องการอ่านหนังสือ แต่เจียงเสี่ยวไป๋บังคับให้เธออ่านหนังสือ โดยบอกว่าสังคมในอนาคตจะเป็นสังคมแห่งการแข่งขันความสามารถ เมื่อกิจการใหญ่ขึ้นในอนาคต เธอจะไม่รู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการร้านค้าที่มีคุณภาพได้ และเธอจะต้องดูแลลูกที่บ้านเมื่อเธอคลอดบุตร และไม่อนุญาตให้เธอออกไปทำงาน
เฝิงเยี่ยนหงไม่ต้องการดูแลลูก ๆ ของเธออยู่ที่บ้านตลอดเวลา
เธอไม่มีทางเลือก นอกจากอ่านหนังสือกับหลินเจียอินอย่างเชื่อฟัง
หลังจากจัดการดูแลผู้หญิงสองคนที่ไม่เต็มใจอยู่เฉย ๆ ได้ ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากนั้น เขาก็ไปสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง และเห็นว่าการก่อสร้างคืบหน้าเร็วมาก มีการสร้างอาคารโรงงานหลายพันตารางเมตร และบางอาคารก็เกือบจะสร้างเสร็จแล้ว
ด้วยความเร็วขนาดนี้ ไม่มีปัญหาในการส่งมอบความคืบหน้าครั้งแรกภายในสิ้นเดือนกันยายนอย่างแน่นอน
เฉินหยวนเฉากล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ โฆษณารับสมัครงานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เราต้องรับสมัครคนงานที่มีทักษะและมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวล่วงหน้า”
เจียงเสี่ยวไป๋พอใจกับความก้าวหน้าของเฉินหยวนเฉามาก เขาพิจารณาปัญหาอย่างครอบคลุมและใส่ใจรายละเอียดยิ่งขึ้น และพูดว่า “มีโรงงานเครื่องดื่มเถิงต้าไม่ใช่หรือ ? ”
โรงงานเครื่องดื่มเถิงต้าผลิตเครื่องดื่มเป็นหลัก ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองคือนมถั่วเหลือง อุปกรณ์หลายอย่างจึงทำงานคล้ายกัน
เฉินหยวนเฉามองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความตกใจ โรงงานเครื่องดื่มเถิงต้าเป็นรัฐวิสาหกิจ ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ธุรกิจของโรงงานเครื่องดื่มกำลังเฟื่องฟู เราจะไปที่นั่นเพื่อรับสมัครคนงานมาได้งั้นหรือ ? คนเขาคงจะยอมให้มาหรอกนะ
ตอนนี้เขารู้สึกว่าน้องชายของภรรยาช่างคิดไกลเสียจริง
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขากล่าวว่า “สถานการณ์ของเถิงต้าไม่ได้เหมือนกับที่โรงงานฟิล์มพลาสติก ตอนนี้ธุรกิจของพวกเขากำลังไปได้ดี เป็นการยากที่จะแย่งชิงคน”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้
“ตราบใดที่ให้ผลประโยชน์ได้มากกว่า ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งชิงคนมาไม่ได้ ! ”
“เพียงแค่เราให้สวัสดิการที่ดีกว่า ! ”