ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 208 :เจียงเสี่ยวชิงกลับบ้าน
ตอนที่ 208 :เจียงเสี่ยวชิงกลับบ้าน
รถจี๊ปขับช้า ๆ ไปบนถนนลูกรังจนไปถึงเจียงวาน เมื่อขับเข้าไปยังหมูบ้าน ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่พวกเขา
เจียงเสี่ยวชิงมีความสุขมาก เธอถอนหายใจออกมา “ดีจังเลยที่ถนนได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม รถจึงสามารถขับเข้ามาในหมู่บ้านได้อย่างสะดวก ! ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เจียงชานก็แก้ไขคำพูดของเธอทันที “รถของป่าป๊าไม่ได้ขับในถนนของหมู่บ้าน แต่กำลังขับอยู่บนถนนที่จะตรงไปประตูหน้าบ้านของเราต่างหาก”
เจียงเสี่ยวชิงกลับมาเมื่อสองเดือนก่อน จึงไม่รู้ว่าพวกเขาย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว เธอจึงพูดว่า “ทางเดินเข้าบ้านของเราแคบมาก จะขับรถจี๊ปไปจอดที่หน้าบ้านของเราได้อย่างไร ?”
หลังจากพูดจบ เธอก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลานสาวตัวน้อยของเธอทำไมเถียงเก่งแบบนี้ เธอจึงพูดว่า “ชานชาน ทางเข้าหมู่บ้านก็มีประตูเหมือนกัน”
เจียงชานได้ยินจึงพูดออกมาเสียงดังมากยิ่งขึ้น “ถนนหน้าบ้านของเราไม่เล็กนะคะ มันกว้างมาก”
ขณะที่สองอาหลานกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น รถจี๊ปก็ได้ออกจากถนนลุกรังและเลี้ยวเข้าสู่ถนนคอนกรีตที่ทั้งเรียบและกว้าง
ขณะที่เจียงเสี่ยวชิงกำลังจะอ้าปากเถียงต่อ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าถนนไม่มีหลุมบ่อ จึงรับหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะรู้สึกตกใจจนอ้าปากค้าง
นี่คือ……ทางเข้าบ้านจริง ๆ หรือ ?
มันให้ความรู้สึกเหมือนขับรถบนถนนในเมืองอย่างไรอย่างนั้น !
ถนนที่เธอเห็นนั้นกว้างมาก ซึ่งมันไม่ต่างจากถนนในเมือง เว้นเพียงแต่ว่าไม่มีบ้านอยู่ทั้งสองข้างทางเท่านั้นเอง
“พี่รอง มีการสร้างถนนดี ๆ แบบนี้ในหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋จำได้ว่าน้องสาวของเขาไม่รู้ว่าเขาย้ายบ้านแล้ว เขากำลังจะพูดออกมา แต่เจียงชานก็รีบชิงพูดแทน “อาสี่ เห็นไหมคะว่านี่คือทางเข้าบ้านเราจริง ๆ ! ”
ทางเข้าบ้าน ?
เจียงเสี่ยวชิงสับสนเล็กน้อย
เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถอีกครั้ง ถนนสายนี้มุ่งสู่แม่น้ำอย่างเห็นได้ชัด แต่บ้านของพวกเขาอยู่อีกฝั่งของภูเขา มันอยู่คนละฝั่งกันเลย
เธอเริ่มสงสัย แต่ก็ได้ยินเจียงชานพูดออกมาก่อนว่า “ป่าป๊าพาเราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่แล้วค่ะ ! ”
ย้ายมาบ้านใหม่แล้ว !
เจียงเสี่ยวชิงเหม่อไปเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดเลยว่าพี่รองของเธอจะสร้างบ้านใหม่และพาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่กันหมด
เป็นไปได้ไหมที่พี่รองและครอบครัวของเขามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ริมแม่น้ำ ส่วนเธอกับพ่อแม่ยังอาศัยอยู่บ้านบนภูเขา ทั้งสองครอบครัวตอนนี้ไม่ได้อยู่ในรั้วเดียวกันแล้ว
แม้ในอดีตเธอเคยอยากจะให้พี่รองแยกบ้านออกไป อยู่ให้ห่างจากเธอและครอบครัวมากที่สุด
แต่ตอนนี้เธอทนไม่ได้ที่จะอยู่แยกบ้านกับพี่รองของเธอ
ก่อนที่เธอจะถาม รถจี๊ปก็ได้ขับมาถึงที่ประตูรั้วหน้าบ้านแล้ว เผยให้เห็นอาคารอันงดงามปรากฏตรงหน้า
ภายใต้ท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน บ้านอิฐหลังใหญ่สีน้ำเงินหลังคาสีดำตั้งตระหง่านอยู่บนที่สูง โดยมีต้นหนานมู่แผ่กิ่งก้านขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่ข้างหลัง ราวกับมงกุฎสีเขียว
“นั่น…ต้นหนานมู่ยักษ์ไม่ใช่หรือ ? ”
เจียงเสี่ยวชิงตกตะลึง ปากของเธออ้ากว้างพอที่จะใส่ไข่เป็ดทั้งฟองเข้าไปได้ เธอไม่คาดคิดว่าพี่รองของเธอจะสร้างบ้านที่นี่จริง ๆ
นอกจากนี้ บ้านหลังนี้ก็ใหญ่และสวยงามมาก !
เจียงเสี่ยวชิงสติหลุดลอยไป จนกระทั่งเจียงเสี่ยวไป๋ขับรถไปจอดที่โรงรถ เธอถึงได้ดึงสติกลับมา
“อาสี่ ลงจากรถได้แล้วค่ะ ! ”
เจียงชานที่อยู่ด้านข้างเร่งเร้าเธอ เจียงเสี่ยวชิงจึงรีบลงจากรถด้วยความสับสน
เมื่อออกมาจากโรงรถ เธอก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากไม่ไกล เมื่อเดินขึ้นบันไดไปก็พบกับคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ลานบ้าน
เจียงเสี่ยวชิงตกตะลึงอีกครั้ง
มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านพี่รองหรือ ?
ทำไมคนถึงเยอะแบบนี้ ?
ตรงหน้าประตูบ้าน มีคนหลายสิบคนนั่งอยู่ราวกับกำลังประชุมหมู่บ้าน พวกเขานั่งอยู่บนม้านั่งเล็ก ๆ และพูดคุยกัน
“อ้าว เสี่ยวไป๋กลับมาแล้ว ! ”
“พี่เสี่ยวไป๋ ! ”
“ลุงเจียง ! ”
“……”
ทั้งผู้อาวุโส ผู้เยาว์และเด็กน้อยทุกคนยืนขึ้นทักทายเมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋เดินเข้ามา
เจียงเสี่ยวชิงมองดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจและดีใจ
ในอดีต ผู้คนในเจียงวานเกลียดพี่รองของเธอมาก ในสายตาของพวกเขา เจียงเสี่ยวไป๋เป็นเพียงหนูที่กำลังข้ามถนนตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้ ทัศนคติของคนในหมู่บ้านที่มีต่อพี่รองเรียกว่าพวกเขาดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
หากจะพูดว่าเป็นกันเองก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอามาอธิบายได้
เรียกได้ว่านับถือเลย !
เธอมองดูเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความตกใจ และสงสัยว่าพี่รองของเธอไปทำอะไรถึงทำให้ผู้คนในเจียงวานเปลี่ยนทัศนคติต่อเขาไปมากขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเดินขึ้นบันไดมา เธอก็เห็นตัวบ้านที่ดูหรูหรา แข็งแรง ประตูกวงเหลียงที่ประดับด้วยคานและเสาแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สิงโตหินสองตัวที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าประตูใหญ่……
นี่ดูไม่เหมือนบ้านใหม่เลย ?
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคฤหาสน์โบราณมากกว่า !
ยิ่งเมื่อเห็นคนกลุ่มนี้หน้าบ้าน เธอยิ่งสงสัยว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังใหม่ของพี่รองของเธอ แต่เป็นของสาธารณะมากกว่า
“ป่าป๊าคะ บ้านเราคึกคักทุกวันเลย”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้หรือ ? ” เจียงเสี่ยวชิงถามโดยไม่รู้ตัว
เจียงชานพูดอย่างมีชัย “เพราะพวกเขามาดูโทรทัศน์กัน ! ”
“ดูโทรทัศน์ ? ครอบครัวของเราซื้อโทรทัศน์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? ” เจียงเสี่ยวชิงถามด้วยความงุนงง
เรื่องแปลกประหลาดที่เธอเจอในวันนี้ เหมือนกระแสน้ำที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามาคลื่นแล้วคลื่นเล่า
ในเวลานี้ ยังมีคนทักทายเธอด้วย
“เสี่ยวชิง กลับมาแล้วหรือ ! ”
“เสี่ยวชิง โรงเรียนหยุดหรือ”
เจียงเสี่ยวชิงรีบตะโกนออกมา “อาสี่ ! อาสะใภ้ ! ”
จากนั้น เธอก็อธิบายว่า “รอบนี้ไม่ใช่วันหยุดค่ะ แต่หนูเรียนจบแล้ว ! ”
“เอ่อ ใช่สิ เธอเรียนจบแล้ว สอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง สอบผ่านแล้วหรือยัง ? ”
“อาสี่ หนูเพิ่งสอบเสร็จ ผลสอบยังไม่ออกเลย”
“อ้อ”
เมื่อเดินตามเจียงเสี่ยวไป๋เข้ามาในบ้าน ผู้คนก็ทักทายเธอเป็นครั้งคราว และมักจะถามว่าการสอบของเธอเป็นอย่างไรบ้าง
เจียงเสี่ยวชิงรู้สึกเศร้าในใจ ทุกคนเอาแต่ถามเธอว่าสอบเป็นอย่างไรบ้าง ?
ทั้งที่ก็น่าจะรู้ว่านักเรียนทุกคนกลัวการถามเรื่องผลสอบมากที่สุด ?
เธออดไม่ได้ที่จะมองดูแผ่นหลังของเจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ตรงหน้าเธอ มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่ไม่เคยถามว่าเธอสอบเป็นอย่างไรบ้าง
พี่รองดีกับเธอมากกว่าทุกคน !
หลังจากเดินเข้าประตูมา ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องทนฟังคำถามเหล่านั้นอีกต่อไป และในขณะเดียวกัน เธอกลับตกใจกับภาพตรงหน้า
ดูจากภายนอกเธอเห็นเพียงบรรยากาศของตัวบ้านเท่านั้น เมื่อเข้ามาเธอจึงพบว่าภายในนั้นสวยงามมาก แต่ก่อนที่จะมีเวลาเข้าไปดูใกล้ ๆ เธอก็เห็นพ่อแม่ของเธออยู่ที่ลานบ้าน จึงรีบตะโกนเรียกพวกเขา “พ่อ ! แม่ ! ”
หวังซิ่วจวี๋ขานรับ “อืม”
เจียงไห่หยางพยักหน้าและพูดว่า “สอบเสร็จแล้วสินะ ! ”
“หนูสอบเสร็จตอนเช้า พี่รองไปรับหนูที่โรงเรียนตอนเที่ยง” เจียงเสี่ยวชิงกล่าว
“ข้อสอบยากไหม ? ”
เจียงเสี่ยวชิงเกือบจะเซถอยหลัง เธอเจอคำถามนี้จากกลุ่มคนที่อยู่นอกบ้านมามากพอแล้ว ไม่คิดว่าเข้ามาข้างในบ้านก็จะได้เจออีก ไม่คิดว่าพ่อของเธอก็จะเป็นเหมือนคนอื่น
นอกจากนี้ สายตาของแม่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูจะคาดหวังเหมือนกัน
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ถามมันออกมา แต่เธอก็ยังรอคำตอบอยู่
“เพิ่งสอบเสร็จ ยังไม่รู้ผลค่ะ ! ” เจียงเสี่ยวชิงพูดออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์
จะบอกว่าสอบได้ไม่ได้หรอก ถ้าผลสอบออกมาแล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จะอายขนาดไหน
“พ่อ แม่ ไม่ต้องห่วงเรื่องสอบ เสี่ยวชิงทำได้ดีอยู่แล้ว”
ในช่วงเวลาวิกฤติ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้เข้ามาช่วยเธอพูด
เจียงไห่หยางพูดด้วยความไม่พอใจ “น้องเป็นคนสอบ แกจะไปรู้อะไร”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่กล้าตอบโต้กับพ่อของเขา เขารีบเปลี่ยนเรื่องและหันไปพูดคุยกับเจียงเสี่ยวชิงทันที “ไปเถอะ พี่จะพาเธอไปดูห้องนอนก่อน”
เจียงเสี่ยวชิงจึงรีบตามไปทันที
เมื่อเดินผ่านลานบ้านมาถึงทางเดิน เจียงเสี่ยวไป๋ก็เปิดประตู เดินเข้าไปพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระของเจียงเสี่ยวชิงและพูดว่า “ต่อจากนี้ไปนี่คือห้องของเธอ ชอบไหม ? ”
ในห้อง นอกจากเตียงแล้วยังมีโต๊ะเครื่องแป้ง กระจก ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และหม้อต้มน้ำบนโต๊ะ การจัดวางดูเรียบง่าย แต่อบอุ่นมาก
เมื่อเปิดหน้าต่างออกมาจะมองเห็นทัศนียภาพของลานด้านนอก
“ชอบ ! ”
เจียงเสี่ยวชิงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เธอชอบก็ดี แต่ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนมัน มีห้องว่างอีกมากมาย เธอสามารถเลือกเองได้ตามใจชอบเลย”
ในขณะที่พูด ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูน้องสาว
ในการเกิดใหม่ของเขาครั้งนี้ เขาไม่เพียงแต่ต้องการชดเชยในสิ่งที่ทำพลาดต่อภรรยาและลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังตั้งมั่นว่าจะทำดีต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัวด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
“เอาล่ะ ถ้าเก็บข้าวของเสร็จแล้วก็ออกไปกินข้าวนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดกับน้องสาวต่ออีกไม่กี่คำแล้วหันหลังเดินจากไป