ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 181 :ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน
ตอนที่ 181 :ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน
โชคดีที่สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนเป็นกังวล หลังจากไฟทั้งสองเข้าปะทะกันได้ไม่นาน ความรุนแรงของเปลวไฟก็ลดลงทันที
มีความหวังแล้ว !
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กลุ่มนักผจญเพลิงต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจปนโล่งใจ
“กลุ่มไฟเริ่มเล็กลงแล้ว ! ”
“ใช่แล้ว เปลวไฟกำลังลดความรุนแรงลง ! ”
“ในที่สุด ไฟป่าก็ลดความแรงลงแล้ว ! ”
“……”
เมื่อเวลาผ่านไป เปลวไฟที่โหมกระหน่ำก็ค่อย ๆ ลดความรุนแรงลงเรื่อย ๆ
โจวเต๋อฟู่และจางต้าเปียวนำทีมนักดับเพลิงและฝูงชนเข้าไปดับเปลวไฟที่ลดความรุนแรงลงอีกครั้ง หลังจากการสู้รบมาหลายชั่วโมง ในที่สุดเปลวไฟทั้งหมดก็ดับมอดลง
บ้านของพวกเขารอดแล้ว !
ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนได้รับการป้องกันแล้ว !
ทันใดนั้น เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจก็ได้ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณตีนเขาชิงหยุน ผู้คนร้องไห้ด้วยความดีใจ กอดกันและเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะอันยากลำบากนี้
เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยิ้มเช่นกัน
ที่เขายิ้มไม่ใช่แค่เพราะไฟป่าบนภูเขาชิ่งหยุนได้ดับลงแล้ว แต่เป็นเพราะเขายังได้เห็นความสามัคคีของชาวจีนเมื่อเผชิญกับภัยพิบัติอีกด้วย เหล่าเจ้าหน้าที่ทางการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนทุกคนไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและร่วมผนึกกำลังต่อสู้กับภัยธรรมชาตินี้
ในโลกนี้ ไม่มีประเทศอื่นใดเหมือนจีน เมื่อใดก็ตามที่เกิดภัยพิบัติ ทหารจะรีบเร่งไปที่แนวหน้า และประชาชนทั่วไปก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน
นี่คือจิตวิญญาณของประชาชาติจีน เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังทางจิตวิญญาณอันชั่วนิรันดร์
และตัวเขานั้น ก็ได้มีส่วนร่วมในความสามัคคีนี้หลังจากที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
ต่อไปคือขั้นตอนการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมแล้ว
สำหรับหลินต้าเหว่ย เขาจะอยู่ที่หมู่บ้านต้าชิ่งต่อ ในขณะที่เจียงเสี่ยวไป๋จะขับรถกลับไปที่ตัวอำเภอเจี้ยนหยาง
เพิ่งมาบ้านพ่อตาเป็นครั้งแรก เขาก็ได้ทิ้งภรรยาและลูกสาวไว้ที่บ้านและไม่ได้กลับไปทั้งคืนลามมาจนถึงกลางวันของวันนี้ ตอนนี้พวกเธอคงเป็นกังวลมากแล้ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดใหม่ที่เขาอยู่ห่างจากภรรยาและลูกสาวเป็นเวลานาน แม้จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขากลับรู้สึกผิดและแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปเห็นพวกเธอ
“เมียจ๋า ผมกลับมาแล้ว ! ”
เมื่อเขาเข้ามา เขาก็ทักทายพวกเธออย่างอบอุ่น
ในห้องนั่งเล่น หลิวอี้ถิงกลับบ้านมาจากที่ทำงานเช่นกัน เมื่อหลินเจียอินได้ยินเขาพูดกับเธอแบบนั้นต่อหน้าแม่ของเธอ ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ป่าป๊า ไปทำอะไรมาคะ ? ”
“ดูเหมือนเพิ่งไปคลานผ่านปล่องไฟหรืออะไรสักอย่างมาเลยค่ะ”
เจียงชานมองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยเขม่าของเจียงเสี่ยวไป๋ แล้วถามอย่างสงสัย
หลินเจียอินพูดขึ้น “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วพ่ออยู่ที่ไหน ? ”
“พ่อยังอยู่ในหมู่บ้านต้าชิ่ง เขาอาจจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงตอนเย็น” เจียงเสี่ยวไป๋เล่าสั้น ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ดับไฟป่าที่ภูเขาชิ่งหยุน หลินเจียอินและหลิวอี้ถิงต่างตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เอาล่ะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
หลิวอี้ถิงกล่าว “จริงสิ ลูกยังไม่ได้กินข้าวมาเลยใช่ไหม ? ”
“ยังครับ ! ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปอาบน้ำเถอะ แม่จะอุ่นอาหารให้”
“ขอบคุณครับแม่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หิวมาก เขากินข้าวไปมื้อล่าสุดก็ที่บ้านเมื่อคืนนี้ และนี่ผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 24 ชั่วโมงแล้วที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเขาเลย
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วออกมาแล้ว หลิวอี้ถิงยังคงอุ่นอาหารอยู่ เขานั่งลงบนโซฟา แต่ภายในไม่กี่นาที เขาก็เริ่มผล็อยหลับไปและส่งเสียงกรนเบา ๆ
เมื่อหลิวอี้ถิงและหลินเจียอินออกมาจากห้องครัวและเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋หลับไปแล้ว หลิวอี้ถิงถอนหายใจและบอกให้หลินเจียอินหาผ้าห่มบาง ๆ มาคลุมให้เขา
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว
“คุณหิวไหม ? ”
หลินเจียอินตื่นแต่เช้าและถามเขาด้วยความเป็นห่วง
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “ผมเริ่มหิวจริง ๆ แล้วล่ะ เดี๋ยวผมจะไปทำอาหารเช้านะ”
“คุณนี่จริง ๆ เลย เหนื่อยขนาดนี้ยังคิดที่จะทำอาหารเช้าอยู่อีก” หลินเจียอินหัวเราะเบา ๆ “แม่เตรียมเอาไว้แล้ว เธอทำโจ๊กลูกเดือยไว้ให้คุณ”
“อ้อ งั้นผมจะลุกขึ้นไปล้างหน้าก่อน แล้วค่อยกินข้าว”
เขาลุกจากโซฟา ยืดตัวอย่างเกียจคร้านแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
ในห้องน้ำมีผ้าเช็ดผืนใหม่ แปรงสีฟันและแก้วน้ำ ซึ่งหลินเจียอินได้บีบยาสีฟันลงบนแปรงสีฟันให้เขาไว้แล้ว
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋ ในขณะที่เขาหันกลับมาและตะโกนว่า “ขอบคุณนะเมียจ๋า”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการปฏิบัติอย่างดีเช่นนี้
ที่บ้าน ภรรยาของเขามักจะชอบบ่นว่าเขาบีบยาสีฟันมากเกินไป
หลินเจียอินกล่าวว่า “ตอนนี้คุณเป็นลูกเขยหัวแก้วหัวแหวนในสายตาของพ่อแม่ฉัน พวกเขาเอาแต่พูดถึงคุณไม่หยุดเลย”
หลังจากที่หลินต้าเหว่ยกลับมาถึงบ้านเมื่อคืนนี้ เขาก็เอาแต่ชื่นชมเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ขาดปาก
หลิวอี้ถิงเองก็ชื่นชมลูกเขยอย่างเจียงเสี่ยวไป๋เช่นกัน ยิ่งเธอมองเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งชอบเขามากขึ้นเท่านั้น เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ไม่อยู่ เธอมักจะแนะนำให้หลินเจียอินปฏิบัติต่อเขาอย่างดี
สิ่งนี้ทำให้หลินเจียอินรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วฉันเป็นลูกหรือเขาเป็นลูกของแม่กันแน่ ?
แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็มีความสุขมาก
การที่พ่อแม่ของเธอยอมรับเจียงเสี่ยวไป๋ คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ
หลังจากกินโจ๊กลูกเดือยแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
ในขณะที่เขากำลังล้างจาน หลิวอี้ถิงก็กลับมา
“แม่ กลับมาแล้วหรือครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามด้วยความประหลาดใจ “วันนี้แม่ไม่ไปทำงานหรือ ? ”
หลิวอี้ถิงถือตะกร้าที่เต็มไปด้วยเนื้อ ไก่ ปลา และผักมากมาย
“วันนี้แม่ลาหยุด 1 วัน ไม่ได้ไปทำงาน”
ลูกสาวของเธอกลับมาเยี่ยมในรอบ 5 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่ลูกเขยของเธอมาเยี่ยมบ้าน เธอยังไม่ได้ลงมือทำอาหารเลย เธอจะมีกะจิตกะใจไปทำงานได้อย่างไร ? เธอจึงตั้งใจจะอยู่บ้านเพื่อใช้เวลากับลูกสาว ลูกเขย และหลานสาวตัวน้อย
ดังนั้น หลังจากเตรียมโจ๊กในตอนเช้า เธอก็ไปตลาดเพื่อซื้อของสดมาเพิ่ม
หลินเจียอินพูดว่า “แม่ พ่อบอกว่าวันนี้เราจะออกไปกินข้าวเที่ยงกัน”
หลินต้าเหว่ยตื่นขึ้นหลังจากที่หลิวอี้ถิงไปตลาด และบอกหลินเจียอินก่อนที่เขาจะออกไป
หลิวอี้ถิงชะงักไปเล็กน้อยและบ่นว่า “จะออกไปกินข้าวข้างนอกทำไม อาหารในร้านไม่อร่อยเท่าที่บ้านเราหรอก”
แต่โดยปกติแล้ว หากหลินต้าเหว่ยตัดสินใจแล้ว เธอก็ไม่กล้าขัด เธอจึงกล่าวต่อว่า “เราจะออกไปกินข้าวกลางวันนอกบ้าน แต่ตอนเย็นเราจะกินข้าวกันที่บ้าน”
หลังจากเอ่ยจบ หลิวอี้ถิงก็วางตะกร้าลง และเดินไปดูเจียงชานว่าตื่นแล้วหรือยัง
ตอนที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่เจียงวาน หนูน้อยมักจะตามเข้าไปในเมืองทุกวัน ซึ่งต้องตื่นแต่เช้า ตอนนี้พวกเขามาที่เจียนหยาง หนูน้อยจึงไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า ดังนั้นเธอจึงนอนหลับตื่นสาย
ตอนเช้าไม่มีอะไรทำ ทั้งสามคนจึงนั่งคุยกันที่บ้าน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เย็นนี้ ผมกับเจียอินจะไปเยี่ยมพี่เจียเหวยสักหน่อย”
มาเจี้ยนหยางครั้งนี้ พวกเขาได้พบกับหลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิงเท่านั้น ยังไม่ได้เจอพี่ชายและน้อง ๆ ของหลินเจียอินเลย
หลินเจียลี่ น้องสาวของหลินเจียอินกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่เจียงเฉิง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ได้พบเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน
ส่วนหลินเจียเล่อ น้องชายของหลินเจียอินกำลังเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นเขต 1 เขาจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงบ่ายวันศุกร์ พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอเขาเช่นกัน
ดังนั้น เขาวางแผนที่จะไปเยี่ยมพี่ใหญ่ของหลินเจียอินอย่างหลินเจียเหวย เพราะพรุ่งนี้พวกเขาจะกลับชิงโจวแล้ว
เป็นเวลา 3 วันแล้วนับตั้งแต่ที่เขาไปที่ร้านครั้งสุดท้าย เขาเดาว่าตอนนี้เครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปที่เขาเตรียมไว้อาจจะเหลือน้อยแล้ว
ถ้าเขาไม่กลับไปเร็ว ๆ นี้ ร้านหลักและร้านแฟชรนไชส์คงต้องปิดร้านแน่นอน
หลิวอี้ถิงพูดว่า “จริงหรือ พวกลูกจะกลับแล้วหรือ ? ”
เธอยังอยากให้ลูกสาว ลูกเขยและหลานสาวของเธออยู่ต่ออีกสักหน่อย ยังไม่อยากให้พวกเขากลับไปเร็ว ๆ นี้
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดเช่นนั้น หลิวอี้ถิงก็พูดว่า “ถ้างั้นช่วงบ่าย แม่จะโทรหาเจียเหวยและหยุนอิงให้มาที่บ้าน พวกลูกไม่ต้องไปที่นั่นเองหรอก”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น เรากินอาหารที่บ้านแม่ หลังจากกินเสร็จ เจียอินกับผมจะขอไปที่บ้านของพี่เจียเหวยสักพักนะครับ”
พวกเขามาเจี้ยนหยางทั้งที หากไม่ไปเยี่ยมเยียนพี่ชายของหลินเจียอินที่บ้านสักหน่อยคงไม่เหมาะสมสักเท่าไร
ตอนเที่ยง หลินต้าเหว่ยส่งหลี่ซิ่งฮวามารับเจียงเสี่ยวไป๋ แต่เขาไม่ได้บอกให้หลิวอี้ถิงและหลินเจียอินไปด้วย
นอกจากนี้ หลี่ซิ่งฮวายังบอกอีกว่า เดิมทีท่านนายอำเภอตั้งใจจะกลับมาทานข้าวกับครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีแขกมากะทันหัน ทำให้เขาต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ดังนั้นงานเลี้ยงของครอบครัวจึงถูกยกเลิกไป
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกสับสนเล็กน้อย ถ้างานเลี้ยงของครอบครัวถูกยกเลิก ทำไมหลิวต้าเหว่ยถึงขอให้หลี่ซิ่งฮวามารับเขาล่ะ ?