ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 126 :เปิดร้านใหม่ เชิญเพื่อนเก่ามาชิม
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 126 :เปิดร้านใหม่ เชิญเพื่อนเก่ามาชิม
ตอนที่ 126 :เปิดร้านใหม่ เชิญเพื่อนเก่ามาชิม
ที่ทำการเทศบาลเมืองชิงโจว ห้องทำงานรองนายกเทศมนตรีจาง
“นายกเทศมนตรีจาง บ่ายวันนี้เราไปกินข้าวที่ถนนชิงโจวกันเถอะ ที่นั่นมีร้านเปิดใหม่ชื่อร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง”
เลขาติงจวิ้นเจี๋ยพูดอย่างเคารพ
“กุ้งอบน้ำมัน ? เราให้หัวหน้าเหลียงเรียกให้คนมาส่งก็ได้นี่ ทำไมถึงต้องไปกินถึงที่ร้านด้วยล่ะ” รองนายกเทศมนตรีจางพูดด้วยรอยยิ้ม
ติงจวิ้นเจี๋ยตอบกลับไปว่า “หัวหน้าเหลียงบอกว่าเถ้าแก่ของร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงที่เปิดใหม่เป็นคนชวนเขาไป ว่ากันว่ามีเมนูกุ้งหลายเมนูเลย”
รองนายกเทศมนตรีจางเกิดความสนใจขึ้นมา
รสชาติของกุ้งอบน้ำมันอร่อยอย่าบอกใคร นับตั้งแต่ที่เขาเคยกินไปหนึ่งครั้ง เขาก็มักจะคิดถึงรสชาติของมันไม่รู้ลืม
และด้วยการจัดการของหัวหน้าเหลียง กุ้งอบน้ำมันจึงได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารกลางวันของสำนักงานไปแล้ว
ถึงขนาดที่เขากินอาหารกลางวันในโรงอาหารของสำนักงานทุกวัน และไม่เคยได้ไปร้านอาหารของรัฐอีกเลย
“งั้นไปลองชิมดูได้ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางพยักหน้ายิ้มแล้วกล่าวว่า “ฉันก็อยากเจอเจ้าของร้านเหมือนกัน จะได้รู้ว่าเขาเป็นใคร ถึงได้ทำอาหารอร่อยได้ขนาดนี้! ถ้าเราให้เขาเป็นเชฟในร้านอาหารของรัฐ เวลาเราต้องต้อนรับพวกผู้นำจะได้ทำอาหารได้สมน้ำสมเนื้อ”
ติงจวิ้นเจี๋ยพูดว่า “งั้นผมจะลองคุยกับหัวหน้าเหลียง ให้เขาลองไปบอกเถ้าแก่ดู พอถึงตอนนั้นค่อยให้เถ้าแก่ร้านมาพบท่านรองนายก”
รองนายกเทศมนตรีจางพยักหน้าอย่างพอใจ
โรงงานเครื่องจักรกลการเกษตร
หวังเหล่ยมาเคาะประตูห้องโจวฉางซง “หัวหน้าโจว ตอนบ่ายเถ้าแก่เจียงเชิญคุณไปทานข้าว”
“เขาคิดเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาหรือ ? ” โจวฉางซงถามด้วยรอยยิ้ม
หวังเหล่ยยังกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เขาไม่ได้บอกว่าเป็นเมนูใหม่หรือไม่ เขาบอกแค่ว่าเขาเปิดร้านใหม่ชื่อร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง วันนี้ทดลองเปิดขายเป็นวันแรก เลยอยากเชิญคุณและผมไปลองชิม”
“โอ้ ! ”
โจวฉางซงได้ยินแบบนั้นก็ดีใจมาก จึงพูดว่า “เขาเปิดร้านหรือ ต้องไปอุดหนุนหน่อยแล้ว”
สำนักพิมพ์ชิงโจว
“ท่านประธาน ตอนบ่ายไปกินข้าวที่ร้านของเถ้าแก่เจียงกันเถอะ เขาบอกว่าวันนี้จะเป็นเจ้ามือเอง”
เซี่ยงเฉียนจิ้นมาที่ห้องทำงานของฟู่เต๋อเจิงเพื่อชวนเขาไปกินข้าวที่ร้านของเจียงเสี่ยวไป
“ไม่ล่ะ ! ”
ฟู่เต๋อเจิงกำลังก้มหัวอ่านต้นฉบับ เขาตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น
เซี่ยงเฉียนจิ้นชะงักไปเล็กน้อย วันนี้ท่านประธานของเขาเป็นอะไรไป ?
ทำไมเหมือนคนกำลังหัวเสียเลยล่ะ
แต่เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องงาน ไม่น่าจะเกี่ยวกับเจียงเสี่ยวไป๋ เขาจึงพูดขึ้นว่า “ท่านประธาน ต่อให้งานยุ่งแค่ไหนก็ต้องกินข้าว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เป็นวันเปิดร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาตั้งใจเชิญคุณไปโดยเฉพาะ คุณจะไม่ไปไหนหรือ ? ”
ฟู่เต๋อเจิงเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยิน เขาจ้องไปที่เซี่ยงเฉียนจิ้นแล้วถามว่า “นายบอกว่าเขาเปิดร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง วันนี้เปิดร้านวันแรกหรือ ? ”
“ครับ ! ”
เซี่ยงเฉียนจิ้นพยักหน้ารับ
หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง ฟู่เต๋อเจิงก็วางปากกาในมือลงแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นเราต้องไปดูหน่อยแล้ว”
ที่สำนักความมั่นคงสาธารณะ
“เหล่าเฉิน ตอนบ่ายไปกินข้าวกับผมนะ”
เหรินฉางเซี่ยเดินมาพูดคุยกับเฉินเจิ้งหมิง ผู้กองคนใหม่ประจำกองบังคับการตำรวจอาญา
“รองอธิบดีเหริน วันนี้มีเรื่องดีอะไรหรือ ? คุณถึงจะเลี้ยงข้าวผมน่ะ” เฉินเจิ้งหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากปิดคดีหม่าตงหลายเมื่อครั้งที่แล้ว เหรินฉางเซี่ยและเฉินเจิ้งหมิงได้เลื่อนตำแหน่งพร้อมกัน ตอนนี้เหรินฉางเซี่ยเป็นรองอธิบดีสำนักความมั่นคงสาธารณะชิงโจว ส่วนเฉินเจิ้งหมิงเลื่อนตำแหน่งกลายเป็นผู้กองคนใหม่ประจำกองบังคับการตำรวจอาญา
เหรินฉางเซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมจะไปมีเงินเลี้ยงข้าวคุณได้อย่างไร เป็นเจียงเสี่ยวไป๋ น้องชายคนหนึ่งที่ผมสนิทต่างหาก เขาเปิดร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง เห็นบอกว่าวันนี้ทดลองเปิดขายวันแรก เลยอยากจะเชิญสหายไปร่วมชิม”
เฉินเจิ้นหมิงได้ยินแบบนั้นก็ตาเป็นประกาย
“กุ้งอบน้ำมัน ใช่ที่คุณเคยเอาใส่ห่อกลับมากินที่สำนักงานครั้งที่แล้วใช่ไหม ! ”
เขาหัวเราะ แล้วพูดต่ออีกว่า “ครั้งที่แล้วได้กินไม่กี่ตัวเอง รสชาติของมันอร่อยมากจริง ๆ ผมยังจำได้ไม่รู้ลืม”
เหรินฉางเซี่ยหัวเราะ “น้องชายคนสนิทของผมยังไม่ลืมคุณเช่นกัน เขาจำได้ดีมาโดยตลอดว่าครั้งนั้นคุณเป็นคนขายรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างให้เขา แถมยังเติมน้ำมันให้เขาเต็มถังอีกด้วย”
เฉินเจิ้นหมิงหัวเราะเสียงดังด้วยความดีใจ
ที่สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรม เฉินเหมย หัวหน้าประจำสำนักงานมาหาอธิบดีหวังเต๋อคุน “อธิบดีหวัง ตอนบ่ายไปกินข้าวที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงกันเถอะ”
ที่สำนักงานคลังเมืองชิงโจว หลี่หงจวิน หัวหน้าสำนักงานมาหาเฉียนฟางอี้ เพื่อชวนเขาไปกินข้าวเช่นเดียวกัน “อธิบดี ตอนบ่ายนี้……”
ที่โรงงานขายเนื้อสัตว์……
ที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างประจำเมือง……
ที่ชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานี……
แต่ละสำนักงานล้วนมีสถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้น
……
ช่วงบ่าย ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงมีแขกผู้มีเกียรติและบุคคลสำคัญที่หาตัวได้ยากมาเยี่ยมเยือนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ประธานฟู่เองหรือ ! ”
“อธิบดีหวัง คุณก็มาเหมือนกันหรือนี่ นั่งโต๊ะเดียวกันไหม ? ”
“ผู้อำนวยการหลี่ ทำไมผมถึงเจอคุณทุกที่เลยนะ ! ”
“โอ้ หัวหน้าเฉินนี่เอง เดี๋ยวเรามาดื่มกันสักแก้วเถอะ”
“ผู้อำนวยการเหลียง สวัสดีครับ ! ”
“ผู้จัดการสวี ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ผู้อำนวยการชิว คุณก็มากินกุ้งอบน้ำมันเหมือนกันหรือนี่ ! ”
“……”
ภายในร้านคึกคักมากราวกับจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ มีคนพูดคุยทักทายกันอยู่ตลอดเวลา
และบรรดาผู้นำของสำนักงานที่เป็นลูกค้าของเจียงเสี่ยวไป๋ต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นบรรยากาศที่คึกคักนี้
“กิจการของเถ้าแก่เจียงขายดิบขายดีขึ้นทุกวันเลย ! ”
“ยังต้องพูดอีกหรือ คนเขามีฝีมือ ทำอะไรก็อร่อยไปเสียหมด”
“ท้ายที่สุดแล้วเป็นเพราะเถ้าแก่เจียงรู้จักวางตัวดีด้วย”
“ใช่แล้ว ! ”
“……”
ต่างจากลูกค้าทั่วไปในร้าน ตรงที่ลูกค้าธรรมดาต้องต่อคิวเพื่อหยิบหมายเลขแล้วรอรับอาหารตามลำดับคิว
สำหรับเรื่องนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ได้จัดเตรียมที่นั่งรอไว้ให้ลูกค้าโดยเฉพาะ
แต่บรรดาผู้นำของหน่วยงานที่เขาเชิญมานั้นได้มีการจองหมายเลขโต๊ะไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขามาถึง อาหารทั้งหมดก็พร้อมยกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะทันที ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตนเองเป็นแขกพิเศษของร้าน
อีกอย่าง วันนี้เจียงเสี่ยวไป๋เป็นเจ้ามือ พวกเขาจึงสามารถกินดื่มได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นพวกเขาแต่ละคนจึงกินกันอย่างอิ่มหนำสำราญใจ
รวมถึงรองนายกเทศมนตรีจางและฟู่เต๋อเจิงด้วย
ปกติรองนายกเทศมนตรีจางเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เรื่องงานเป็นอย่างมาก อีกทั้งเขายังเป็นเพื่อนสมัยเรียนกันฟู่เต๋อเจิง ทั้งสองสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ฉะนั้นพวกเขาจึงนั่งร่วมโต๊ะกัน
ฟู่เต๋อเจิงพูดขึ้นว่า “นายกเทศมนตรีจาง คุณดูสิ กุ้งเครย์ฟิชได้รับความนิยมจากผู้คนขนาดนี้ หากสามารถกระจายไปได้ทั่วทั้งเมืองชิงโจว มันจะต้องกลายเป็นจุดเด่นของเมืองอย่างแน่นอน”
รองนายกเทศมนตรีจางเป็นคนที่รอบรู้เช่นเดียวกัน เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดด้านนี้เลย แต่พอได้ยินคำพูดของฟู่เต๋อเจิง เขาก็เข้าใจได้ทันที “เหล่าฟู่ สมแล้วที่คุณเป็นนักข่าวอันดับในมณฑลตอนกลางของจีน คุณมองได้ลึกและมองการณ์ไกลมาก”
จากนั้น เขาก็หันไปพูดกับเหลียงจื้อเฉิง “หัวหน้าเหลียง คุณไปเชิญเถ้าแก่ของร้านมาที เขาชื่อว่าอะไรนะ ? ”
“เจียงเสี่ยวไป๋ครับ ! ”
“ใช่ เจียงเสี่ยวไป๋ เถ้าแก่เจียง ไปเชิญเขามาพบฉันหน่อย ฉันอยากทำความรู้จักเขา”
“ครับท่าน ! ”
เหลียงจื้อเฉิงรีบเช็ดมือและคราบน้ำมันที่เลอะขอบปากด้วยกระดาษชำระ จากนั้นก็รีบเดินไปหาหลินเจียอิน
เขาเคยเจอเจียงเสี่ยวไป๋มาแล้ว แต่ไม่ได้คุ้นเคยกัน
กับหลินเจียอินก็เคยแค่พูดคุยกันอยู่สองสามหน แต่ตอนนี้หลินเจียอินอยู่ในร้านพอดี เขาจึงเดินไปหาเธอ
หลินเจียอินไม่คาดคิดว่ารองนายกเทศมนตรีจางอยากพบเจียงเสี่ยวไป๋ เธอไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้เองได้ จึงบอกให้เหลียงจื้อเฉิงรอเธอครู่หนึ่ง เธอจะเข้าครัวไปถามเจียงเสี่ยวไป๋ให้
“รองนายกเทศมนตรีจางอยากพบผมหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินหลินเจียอินเล่าให้ฟังก็ผงะไปเล็กน้อย
เขาทั้งไม่รู้จักและไม่เคยพูดคุยกับรองนายกเทศมนตรีจางมาก่อน แต่ทำไมจู่ ๆ อีกฝ่ายถึงมาที่ร้านของเขา แถมยังเอ่ยปากอยากพบเขาด้วย ?
“ได้สิ ! ”
หลังจากคิดดูแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตอบรับไป “รอผมทำกระทะนี้เสร็จก่อน เดี๋ยวผมไป”
เฝิงเยี่ยนหงและหลัวเจาตี้ที่ยืนทำกุ้งอบน้ำมันอยู่ด้านข้างต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเช่นเดียวกัน มีผู้นำระดับสูงอยากขอพบเขา แต่เขายังมีแก่ใจมาทำกุ้งอบน้ำมันต่อ ทำไมถึงไม่รีบไปพบล่ะ