ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 107 :ลองตลาดเสียหน่อย
ตอนที่ 107 :ลองตลาดเสียหน่อย
เช้าวันต่อมา
เจียงเสี่ยวไป๋เพิ่งเปิดประตูและเห็นเจียงเสี่ยวเฟิงยืนอยู่ในลานริมร่องน้ำพร้อมถังใบใหญ่อยู่ข้าง ๆ
“พี่รองตื่นแล้วหรือ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและมองดูกุ้งเครย์ฟิชในถัง พลางพูดว่า “เมื่อคืนนายอดหลับอดนอนไปจับกุ้งเครย์ฟิชมาใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวเฟิงเกาหัวและพูดว่า “เมื่อวานฉันปรึกษากับลุงใหญ่ว่าจะให้ฉัน พี่เสี่ยวจี๋ พี่เสี่ยวโจวและลุงใหญ่กับพ่อไปจับกุ้งเครย์ฟิชมาให้พี่ไปลองเปิดตลาดดูก่อน”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัว ไม่คิดว่าพวกเขาจะจับกุ้งเครย์ฟิชได้โหดขนาดนี้
แต่ลองตลาดก่อนก็ดี
“แล้วนายชั่งน้ำหนักมาหรือยัง ? ”
เจียงเสี่ยวเฟิงโบกมือปฏิเสธ แล้วพูดว่า “วันนี้ยังไม่นับ เพราะมีแต่คนในครอบครัวไปจับมาทั้งนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองในถัง ถังไม้ใหญ่ขนาดนี้ น่าจะมีกุ้งเครย์ฟิชหลักร้อยชั่ง
เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก
“นายพักผ่อนก่อน เดี๋ยวฉันไปทำอาหารเช้าครู่นึง นายช่วยฉันย้ายถังไม้ไปที่ถนนลูกรังด้วยนะ”
“อืม ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ทำเมนูก๋วยเตี๋ยวเส้นถั่วกิน หลังจากที่ทั้งครอบครัวกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว เขากับเจียงเสี่ยวเฟิงจึงช่วยกันยกถังไม้ไปวางไปบนพ่วงข้างของรถ
โชคดีที่มีรถมอร์ไซค์พ่วงข้าง เพราะหากเป็นรถมอร์เตอร์ไซค์อย่างเดียวคงจะขนกุ้งเครย์ฟิชไปในเมืองลำบากจริง ๆ
แต่พอในพ่วงข้างมีถังไม้วางไว้ หลินเจียอินและเจียงชานจึงนั่งที่พ่วงข้างไม่ได้
เขาจึงใช้วิธีเดิม ให้เจียงชานนั่งตรงหน้าเจียงเสี่ยวไป๋ ส่วนหลินเจียอินนั่งเบาะหลัง
ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของหน้าอกหลินเจียอิงที่พิงแผ่นหลังเขาอีกครั้ง เขาแอบดีใจไปตลอดทาง
เมื่อมาถึงร้าน หวังผิงเห็นว่าบนรถมอร์ไซค์พ่วงข้างมีถังไม้ใบใหญ่วางอยู่ เขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้นายลากอะไรมาอีกล่ะ ? ”
ขณะที่พูด เขาก็เดินไปดูและเห็นว่าในถังไม้เต็มไปด้วยแมลงตัวใหญ่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นายเอาเจ้าแมลงยักษ์ที่ทำลายข้าวในนาของชาวบ้านมาทำไม ? ”
แม้ว่าเขาจะย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเมืองตั้งแต่ปลดประจำการจากกองทัพ แต่เขาก็เคยเติบโตในชนบท ฉะนั้นเขาจึงเคยเห็นเจ้าสิ่งนี้มาก่อน
“เมนูใหม่วันนี้ ฉันจะขายกุ้งเครย์ฟิช ! ”
หวังผิงผงะ ชี้ไปที่กุ้งเครย์ฟิชแล้วพูดว่า “อะไรนะ เรียกมันว่ากุ้งเครย์ฟิชหรือ เจ้าสิ่งนี้ทั้งไม่มีเนื้อทั้งไม่อร่อย นายจะ……”
หลังจากพูดไปได้เพียงครึ่งเดียว จู่ ๆ เขาก็นึกได้ว่าทุกสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำคือปาฏิหาริย์
เขาเกาหัวแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเมนูใหม่ งั้นก็ตามนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ หวังผิงมีข้อดีตรงนี้แหละ เพราะต่อให้เขาจะมีความคิดเห็นแตกต่างในบางเรื่อง แต่เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งสองช่วยกันยกถังไม้ไปที่หลังร้าน
เจียงชานเดินเข้ามาบอกเขาว่า “คุณอา คุณอาไม่รู้หรือคะว่ากุ้งเครย์ฟิชอร่อยมาก ! ”
หวังผิงได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ “ชานชานบอกว่าอร่อย อาคิดว่าต้องอร่อยแน่นอน”
“อื้ม ! ”
หนูน้อยพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ป่าป๊าทำเมนูกุ้งเครย์ฟิชได้สองเมนู เมนูแรกคือกุ้งอบน้ำมัน อีกเมนูคือกุ้งนึ่ง”
หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เธอได้พูดต่ออีกว่า “แต่หนูชอบกินแบบอบน้ำมันมากกว่า มันทั้งหอมและเผ็ด อร่อยกว่าหมูพะโล้ตั้งเยอะ”
“จริงหรือ ? ”
พอหวังผิงได้ยินว่าอร่อยกว่าหมูตุ๋นพะโล้ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งหน้าตั้งตารอ
หมูพะโล้ที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำเขากินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ เขามักจะนำกลับไปกินที่บ้านพร้อมกับดื่มเหล้าไปด้วย รสชาติเข้ากันอย่างมากเลยล่ะ
เจียงเสี่ยวไป๋ให้หวังผิงนำกะละมังพลาสติกใบใหญ่วางใต้ก๊อก เขาเทกุ้งเครย์ฟิชทั้งหมดลงไป แล้วเปิดน้ำล้าง
ในเมืองมีข้อดีตรงนี้เช่นกัน เพราะมีน้ำประปาใช้ จึงล้างกุ้งเครย์ฟิชได้สะดวกมาก
หลังจากล้างอยู่หลายครั้ง เขาใส่น้ำครึ่งกะละมังแล้วแช่ต่อ
โดยทั่วไปแล้ว เขาจะแช่กุ้งเครย์ฟิชในน้ำสะอาดเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่รีบร้อน และขอให้หวังว่าผิงมาคอยดูเป็นระยะ หากกุ้งเครย์ฟิชปีนออกมาก็ให้จับใส่กะละมังเหมือนเดิม
“ป่าป๊า หนูกับน้องเสี่ยวกังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ข้างกะละมัง ถ้ากุ้งเครย์ฟิชปีนออกมา เดี๋ยวหนูจะจับมันใส่กะละมังเองค่ะ”
เจียงชานอาสา
เมื่อวานตอนหนูน้อยเจอกุ้งเครย์ฟิช เธอยังกลัวอยู่เลย
แต่พอเธอได้ลองกินเพียงครั้งเดียว เธอก็ไม่กลัวมันแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่กลัว แต่เจียงเสี่ยวไป๋กลัว
เขาไม่กล้าให้ลูกสาวจับกุ้งเครย์ฟิช จึงรีบพูดว่า “อย่าจับ ก้ามของมันหนีบแน่นมาก ถ้าลูกเห็นมันปีนออกมาก็เรียกอาเขามาจับให้ก็พอแล้ว”
“ค่ะป่าป๊า ! ” เจียงชานรับปากอย่างเชื่อฟัง
เธอเชื่อฟังคำของป่าป๊าที่สุดแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ลืมที่จะกำชับอีกรอบ แล้วถึงได้เข้าครัวไปทำพะโล้ หลังจากทำเสร็จแล้วก็ออกไปส่งตามรายการสั่งซื้อ
ในตอนที่กลับมานั้น เจียงเสี่ยวไป๋ได้ซื้อเบียร์มา 10 ลัง และเหล้าข้าวโพดอีก 5 ขวด
นอกจากนี้ เขายังซื้อกะละมังสแตนเลสมาอีก 50 ใบ และกะละมังพลาสติก 50 ใบ
เวลากินกุ้งเครย์ฟิชไม่ต้องใช้หม้อ และไม่ต้องใช้ถาด สามารถใส่ลงในกะละมังสแตนเลสได้เลย
ส่วนกะละมังพลาสติกใช้สำหรับใส่เปลือกกุ้งและขยะระหว่างกิน
ในยุคนี้ไม่มีถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง
แต่ยังจำเป็นต้องใช้กระดาษชำระ
คราวนี้เขาซื้อกระดาษชำระแบบดึงมาเป็นห่อ ๆ เพราะเวลากินกุ้งเครย์ฟิชจะได้ไม่ต้องฉีก สะดวกกว่าแบบม้วน
เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อมากล่องใหญ่ มีมากถึง 50 ห่อ
“อาสะใภ้สาม หวังผิง มานี่หน่อยสิ”
หลังจากวางของทั้งหมดลงแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ได้เรียกให้เจี่ยงชุ่ยหยูและหวังผิงมาที่ครัวด้านหลัง “เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีฆ่ากุ้ง ต่อไปนี้ทุกคนในร้านจะต้องทำเป็น”
แม้ว่าเจี่ยงชุ่ยหยูจะสงสัยว่าทำไมเจียงเสี่ยวไป๋ถึงให้เธอมาทำเจ้าแมลงยักษ์ แต่เธอก็ไม่ได้ถามมากนัก เจียงเสี่ยวไป๋บอกให้ฆ่าเธอก็ฆ่า
ทั้งสองคนตั้งใจดูและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
“อาสะใภ้กับหวังผิงทำกุ้งไปนะ เดี๋ยวผมจะไปเขียนโฆษณา”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดจบก็กลับเข้าไปหยิบกระดาษสีแดงสองแผ่นมาจากในร้าน แล้วเริ่มเขียนลงไปหลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง
เขาเขียนในกระดาษแผ่นหนึ่งว่า เมนูใหม่ กุ้งอบน้ำมันเลิศรส
ส่วนอีกแผ่นเขียนว่า: จำกัดแค่ 50 ชุดเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน
กุ้งเครย์ฟิชหนึ่งร้อยกว่าชั่งนี้ เวลาทำออกมาแล้วได้ประมาณ 50 ชุด
แต่วันนี้เขาไม่ได้ทำกุ้งนึ่ง เขาตั้งใจทำแค่กุ้งอบน้ำมันเท่านั้น
หลังจากมีประสบการณ์เมื่อคืน เขาก็เข้าใจแล้วว่าตอนนี้ยังเป็นยุคสมัยเก่า ผู้คนชอบกินกุ้งอบน้ำมันที่มีรสชาติเข้มข้นมากกว่ากุ้งนึ่งที่มีรสชาติจืดกว่า
ป้ายโฆษณาทั้งสองป้ายเขียนเสร็จแล้ว แต่ยังไม่รีบร้อนนำออกไปติด
รอให้กุ้งอบน้ำมันเสร็จก่อนค่อยนำไปติดก็ยังไม่สาย
ต่อมา เขาทำกุ้งอบน้ำมันในกะทะขนาดใหญ่ที่สามารถทำได้พร้อมกันอย่างน้อย 5 ชุด
กลิ่นหอมอบอวลจากห้องครัวหลังร้าน ลอยเข้ามาในร้านและออกไปยังนอกร้าน
“กลิ่นอะไรน่ะ ? หอมจัง ? ”
“ใช่แล้ว หอมมาก ! ”
“เถ้าแก่เนี้ย ที่ร้านมีเมนูใหม่ใช่ไหม ? ”
“เมนูใหม่หรือ อยากชิมแล้วสิ”
“หอมมาก น้ำลายสอแล้ว ! ”
“……”
ลูกค้าหน้าร้านและในร้านได้กลิ่นหอมลอยออกมาก็ถามไถ่กันไม่หยุด
ทั้งเจียงเสี่ยวเฟิ่งและถานเสี่ยวฟางเห็นเพียงว่าเจียงเสี่ยวไป๋นำกุ้งเครย์ฟิชมา แต่ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ในเวลานี้พวกเธอได้กลิ่นหอม จึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับลูกค้าทุกคน
เฝิงเยี่ยนหงเคยได้ยินหวังผิงเล่าให้ฟังว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะทำกุ้งอบน้ำมันอะไรสักอย่าง
แต่เธอไม่เคยเห็น จึงไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
มีเพียงหลินเจียอินเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เธออธิบายว่า “วันนี้ร้านของเราเปิดตัวเมนูใหม่ กุ้งอบน้ำมัน เป็นกุ้งเครย์ฟิชที่ทำด้วยเครื่องปรุงรสสูตรลับของทางร้าน”
ลูกค้าสับสน
“กุ้งเครย์ฟิชคืออะไร ? ”
“กุ้งเครย์ฟิช ฟังดูแล้วน่าจะอร่อยมากนะ”
“ไร้สาระ กลิ่นหอมขนาดนี้จะไม่อร่อยได้อย่างไร ? ”
“กุ้งเครย์ฟิชและกุ้งอบน้ำมัน เจ้าสองสิ่งนี้มันคืออะไรกัน ? ”
“เถ้าแก่เนี้ย ชุดละเท่าไร ? ”
“ใช่แล้ว ราคาชุดละเท่าไรหรือ ? ”
“……”