ตอนที่ 5 หัวใจหวั่นไหวเหลือเกิน
ต้องขอบคุณอย่างแรงเลยที่บิวไม่คิดเล่นงานเขาจนถึงที่สุด หากปล่อยเอาไว้อีกไม่กี่นาทีตบะที่อดกลั้นมายาวนานคงไม่พ้นต้องพังทลายกลายเป็นผง และเมื่อใดก็ตามที่ตบะทั้งหมดมันพังทลายกลายเป็นผงรับรองได้เลยว่าหายนะเกิดขึ้นแน่นอน
กลิ่นหอมจากเรือนร่างยากจะต้านทาน
“ถอยออกไปเถอะนะ ถือว่าฉันขอ” แกรนกล่าวเสียงเบาบางอ้อนวอน
“…ขอมัดจำเอาไว้ก่อนละกันค่ะ เผื่อคุณไม่ทำตามสัญญา”
จุ๊บ!
“…อะ!” สัมผัสริมฝีปากเนียนแนบประทับลงบนแก้มเขา
“ยังนุ่มเหมือนเดิม” เลขาสาวพ่วงตำแหน่งเมดสาวยิ้มหัวเราะ ก่อนผละออกจากชายหนุ่มปล่อยให้อีกฝ่ายมึนงงไม่เข้าใจว่าตัวเองโดนเอาเปรียบได้ยังไง
แกรนกัดปากตัวเองเรียกสติ
…‘แม่ง!’
“…” เห็นคุณชายหนุ่มเงียบ
เลขาบิวรีบถามต่อทันที
“คุณชายโกรธรึเปล่า?” ยังไม่ยอมเลิกราหล่อนขยับเข้ามาใกล้แสดงท่าทีประจบเอาใจ
“อย่าเงียบแบบนี้สิค่ะ ฉันใจคอไม่ดี~” น้ำเสียงอ้อนวอนขอให้ยกโทษ มันช่างไม่ดีต่อหัวจิตหัวใจเขาเหลือเกิน หากใครคนอื่นมาได้ยินเข้าคงไม่พ้นต้องโดนหลอมละลายจิตใจจนโอนอ่อนยอมความหล่อนไปในที่สุด
น่าเสียดายที่เขาไม่อาจปล่อยผ่านได้เด็ดขาด
…‘เธอกล้าเอาเปรียบฉัน ฉันก็จะเอาเปรียบเธอเหมือนกัน’
“จูบฉัน”
“คะ?”
“จูบฉัน เธอกล้าจูบ เธอต้องโดนหักเงินเดือน หักเงินเดือนครึ่งหนึ่งจำนวน 1 เดือนเต็ม” แกรนปั้นหน้าแข็งกล่าวขึ้นมากะทันหันเกี่ยวกับบทลงโทษครั้งนี้
“หักเงินเดือนของฉัน?” บิวเอียงคอไม่เข้าใจ
“ฉันจะหักเงินเดือนเธอโทษฐานเล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา ลูกน้องที่ไหนกล้ามาจูบเจ้านายโดยอย่างยิ่งกับเวลางานแบบนี้ด้วยมันยิ่งหนักหน่วงเข้าไปใหญ่ หากใครคนอื่นมาเห็นเข้าอาจกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี จนนำมาสู่ความเสียหายทางภาพลักษณ์ของบริษัท ถ้าไม่โดนลงโทษให้เป็นแบบอย่างกฎระเบียบคงเป็นเพียงกระดาษใบหนึ่งไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป”
“…” บิวพอจับแนวทางได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นปม
“ถ้ายังมีครั้งต่อไปฉันก็จะหักอีก หักจนกว่าเธอจะไม่มีเงินเหลือเลยคอยดู บอกไว้ก่อนเลยนะว่าครั้งนี้ฉันเอาจริง อย่าได้มาขอโทษ ขอให้ฉันละเว้น เพราะฉันไม่มีทางละเว้นให้ใครหน้าไหนที่ทำผิดกฎระเบียบเด็ดขาด” เล่นงานโดยตรงไม่ได้ก็เลยอาศัยกฎระเบียบเข้ามาช่วยเหลือ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
หักเงินเดือน หักไปเถอะ หล่อนยังมีเงินเหลืออีกเยอะแยะ
…‘ไร้เดียงสาจนน่าหัวเราะ’
“หักไปเลยค่ะ เงินเดือนน่ะ ฉันยินดีให้หัก หากมันแลกกับการได้จูบแก้มประธานบริษัท ผู้ชายที่ผู้หญิงนับแสนนับล้านต้องการปีนขึ้นเตียงสักครั้งในชีวิต ฉันว่าค่าตอบแทนส่วนนี้ช่างเล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับรางวัลที่ได้รับ” เมดสาวไม่นำพาคำขู่ทั้งยังทำราวกับมันเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งที่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินจากปากของชายหนุ่มผู้เป็นนาย
แกรนนิ่งเงียบทันทีที่ได้ยิน
“…”
“มองอะไร?” เห็นสายตาแหลมคมแฝงไปด้วยอารมณ์มันทำให้หัวเขาเย็นวาบ
“ถ้าฉันยอมให้คุณเอาเงินเดือนไปทั้งหมด คุณจะยอมให้ฉันจูบไหม?” ข้อเสนอถูกหยิบยื่นให้กับแกรน การรุกครั้งนี้ของหญิงสาวมันเริ่มหนักหน่วงมากขึ้น
จนเขาต้องออกปากห้ามเด็ดขาด
“ไม่!”
“ไม่จูบแก้มรอบนี้ แต่จะจูบปากด้วยนะ สนใจรึเปล่าคะ?” หล่อนใช้นิ้วเรียวสัมผัสริมฝีปากตัวเอง ริมฝีปากอวบอิ่มชมพูน่าลิ้มลองมันช่างชวนกระตุ้นตัณหาในจิตใจเหลือเกิน
จนยากจะยับยั้งช่างใจ
“ก็บอกว่าไม่!” แต่เขายังกัดปากปฏิเสธกลับไป
“อะไรกันได้รับจูบจากสาวงามแบบฉันมันไม่ได้หาง่าย ๆ นะคะ”
“เรื่องของฉัน! เธอไม่ต้องมายุ่ง”
“น่าเบื่อจัง ทำตัวเหมือนกับผู้หญิงตัวน้อย ๆ ไร้เดียงสา ทั้งที่คุณเองก็มีประสบการณ์ไม่ใช่น้อย ๆ กับเรื่องเพศตรงข้าม เอาเถอะค่ะ ถ้าเกิดอยากปลดปล่อยเมื่อไหร่ ฉันช่วยได้เสมอ ขอเพียงแค่คุณเปิดปากบอก” นิ้วเรียวอีกข้างหนึ่งย้ายมาเกาคางแกรนเบาบางช่างเป็นการยั่วยุให้ศีลธรรมแตกสลาย
แกรนเบี่ยงหลบไม่ให้จับ
“…” เหงื่อไหลหนึ่งหยดตามโครงหน้าเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าตัวเคร่งเครียดขนาดไหน
“ดูท่าคุณเองก็ต้องการไม่น้อยนะคะ คุณชาย~” พูดตามตรงตอนนี้เรือนร่างหล่อนร้อนวูบไปหมดจนยากจะยับยั้ง เกิดเผลอเล่นต่ออีกหน่อย ยกระดับขึ้นอีกนิด ผลสุดท้ายอาจไปจบที่เตียงนอนหรือไม่ก็โซฟา
ซึ่งมันคงเป็นจุดจบค่อนข้างเลวร้ายสำหรับใครหลายคนโดยเฉพาะกับแกรน
…‘ฉะ ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ’
“…หยุดเลย” น้ำเสียงอ่อนแรงคล้ายกำลังยับยั้งไม่ให้บางสิ่งอย่างมันหลุดลอดออกมาจากรงขัง ถามว่ากลัวไหมถ้าเกิดอีกฝ่ายกระชากหล่อนลากไปกินบนเตียงคงต้องบอกว่าไม่เลยแม้แต่น้อย
เพราะรู้ต่างหากว่าชายหนุ่มไม่กล้าหาญมากพอกระทำ เธอถึงได้หยอกล้อเขาเล่นตลอดเวลา
“…” เลขาบิวยิ้มจ้องมองไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมอีกเพียงจ้องมองและจ้องมองต่อไป
หรือต่อให้มีความกล้าหาญมากพอกระทำลากหล่อนลงเตียง แต่ผลลัพธ์ที่จะตามมาหลังจากนั้นคงยุ่งยากวุ่นวายไปหมดจนไม่อาจใช้ชีวิตปกติสุขได้อีกต่อไป ฉะนั้นต่อให้อยากยังไงจำต้องกดอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้ไม่ให้มันเข้ามาทำลายอนาคตของตน
แกรนหลับตาแน่นถอนหายใจเหนื่อยอ่อน
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันทำไม่ได้ แต่เธอก็ยังเล่นไม่เลิก” แววตาเขาอ่อนแรงอ้อนวอนขอให้ล้มเลิกการกระทำทั้งหมด มันช่างชวนให้หญิงสาวร้อนวูบไปทั่วทั้งตัว
เมดสาวกดมือตัวเองไว้พร้อมเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา
“ฉันแค่อยากช่วยคุณผ่อนคลายนิดหน่อยเอง ไม่เห็นเป็นไรเลย หรือต่อให้สุดท้ายปลายทางพวกเราจะจบกันที่เตียง ฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยินยอมให้คุณเล่นสนุกสักคืนสองคืน ว่าไงค่ะสนใจไหม?” เหมือนว่าตอนนี้เลขาบิวจะเริ่มขาดสติ ขาดการยับยั้งช่างใจไปเป็นที่เรียบร้อย
แกรนกำหมัดแน่นผลักหล่อนให้ถอยหลังไปหลายก้าว
“เล่นมากระวังมันหันกลับมาเข้าตัวเองละกัน” น้ำเสียงเด็ดขาดเย็นชาจับจิตเหลือเกิน ชักดึงสติทั้งสองกลับมาในที่สุดต้องบอกว่าเมื่อครู่เกือบแล้ว เกือบก้าวข้ามเส้นจนไม่อาจกลับมาได้อีกครั้ง
เลขาบิวกลับมายิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยมารยาทอีกครั้ง
“…ขอบคุณสำหรับคำเตือน ฉันจะระวังละกันค่ะ คุณชาย” เมดสาวจดจ้องมองมาที่ประธานหนุ่ม แววตาหล่อนมากไปด้วยอารมณ์ มากไปด้วยความคิดหลากหลายนับสิบนับร้อย จนยากจะมองออกว่าหล่อนถือเอาคำพูดเขาไปครุ่นคิดวิเคราะห์รึเปล่า หรือเพียงฟังให้มันผ่านหูเท่านั้นเอง
แกรนส่ายหน้ากดความคิดไร้สาระให้พ้นออกจากหัวสมอง
“กลับไปทำหน้าที่ตัวเองได้แล้ว งานการเยอะแยะเต็มไปหมด ถ้าไม่รีบทำเดี๋ยวจะกลายเป็นดินพองหางหมู” แต่ไม่ว่าแบบไหน แบบใด เขาขี้เกียจเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เลยออกปากไล่ให้กลับไปทำงานตามเดิม
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนยังไม่อยากหยุดแต่ก็ยอมกลับไปทำงานในที่สุด
“น่าเบื่อ~”
ผ่านพ้นไปไม่กี่สิบนาที เข็มยาวและเข็มสั้นบนนาฬิกาเรือนใหญ่มาบรรจบกันที่เลข 12 สัญญาณบ่งบอกว่าได้เวลารับประทานอาหารมื้อเที่ยง ทั้งยังเป็นการรับประทานอาหารร่วมกันของทั้งสองด้วยเพราะฉะนั้นเลขาสาวพ่วงตำแหน่งเมดสาวปรนนิบัติคุณชายย่อมไม่คิดพลาดโอกาส
เมดสาวเหลือบมองก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้เตรียมทำหน้าที่ของตัวเอง
“…”
“เที่ยงแล้วเหรอ?” แกรนพึมพำ
“ค่ะ”
“มื้อเที่ยงเอาเหมือนเดิมใช่ไหมคะ?” เธอถามกลับมา
“…ใช่ เหมือนเดิมแหละ”
“ออกไปได้สักที เกือบหัวใจวายตาแล้วฉัน” พอเลขาสาวผู้งดงามปานเทพธิดาออกจากห้องไป เขาล้มตัวเอาหน้าแนบกับโต๊ะพลางถอนหายใจไปยกใหญ่เอามือตัวเองลูบตำแหน่งที่พึ่งโดนล่วงละเมิด โดนจูบโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
แกรนไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันกับหญิงสาวนิยมชมชอบแกล้งทำให้เขาต้องหัวใจหวั่นไหวตลอดเวลา
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป รับรองว่าแย่แน่ จะแย่มากขึ้นเข้าไปอีกถ้าเธอขาดความยับยั้งช่างใจจนทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ดีไม่ดีอาจเป็นฉันที่พลาดท่าโดนเธอกินไม่เหลือแม้แต่กระดูก ไม่เอา ไม่ได้ ไม่ว่ายังไง ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด” พูดจบสิ้นเขากลับมานั่งทำงานรอให้อาหารมื้อเที่ยงมาเสิร์ฟถึงที่
หลังจากประตูปิดเรียบร้อยใบหน้ายิ้มแย้มเต็มไปด้วยความหวานหยาดเยิ้มจางหายไปหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือ กลายเป็นเย็นชาจับจิตไร้ชีวิตชีวา ใบหน้าที่ไม่ว่าใครเห็นล้วนต้องหลบเลี่ยงไม่กล้าเหลือบมอง ยิ่งถ้าหากมองผสานตาเข้าเมื่อไหร่อาจแข็งค้างยืนนิ่งไปหลายวินาที
เลขาสาวบิวเดินสงบนิ่งเต็มไปด้วยมารยาทสง่างาม
“สวยมาก วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเดิม”
“ฉันเองก็อยากสวยเหมือนกับหล่อนมั้งจัง”
“เลขาบิวจงเจริญ~”
“อยากได้เลขาบิวเป็นแฟนวะ ”
ต่อให้ใครหน้าไหนใช้สายตาจดจ้องมองมาที่ตน คำพูดมากมายนับร้อยพันยังไง หล่อนหาได้สนใจเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่ปรากฏในใจ และต้องการกระทำมากที่สุดในจังหวะช่วงเวลานี้คือนำอาหารมื้อเที่ยงของผู้เป็นนายส่งมอบตรงให้ถึงที่
ระหว่างทางหล่อนตัดสินใจแวะห้องน้ำทำธุระส่วนตัว
“…” ในห้องน้ำปราศจากผู้คนบรรยากาศนิ่งเงียบไร้ซึ่งสุ้มเสียง
สายน้ำไหลอาบข้อมือหล่อนทำความสะอาดจนผิวเรียบเนียนเงางาม สายตาหญิงสาวแหลมคมกร้าวขึ้นหลายระดับเหลือบมองไปทางประตูเล็กน้อย
สายตาหล่อนที่ไม่อาจยินยอมให้ใครหน้าไหนปฏิเสธเจตนารมณ์เด็ดขาด
“…ออกมาเถอะ” ระหว่างกำลังล้างมือเลขาสาวบิวกล่าวเลื่อนลอยไม่ได้ระบุตัวตนชัดเจน เสมือนพูดคุยคนเดียว แต่หลังจากพูดเสร็จประตูห้องน้ำหญิงถูกเปิดออก
นำเข้ามาด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างสัญลักษณ์ของชายฉกรรจ์
“รู้ด้วยเหรอว่าถูกแอบตาม”
MANGA DISCUSSION