ตอนที่ 18 ฉันจะหึงมาก
ฝีเท้าทั้งสองก้าวไปด้วยความรวดเร็ว หนึ่งผู้ลาก หนึ่งผู้ถูกลาก แกรนถอนหายใจยอมให้บิวได้ทำตามใจชอบหากไปกวนไม่รู้จักเวลาอาจโดนลงไม้ลงมือเป็นของแถม ถ้ายังไม่อยากเจ็บตัวสมควรเก็บปากตัวเองให้แน่น
หลังจากเห็นว่าห่างมาพอสมควรแกรนก็กล่าวขึ้นมาทำลายความเงียบงัน
“นิ เมื่อไหร่จะปล่อยฉันสักที เราถอยห่างมาไกลมากแล้วนะ”
“…”
“บิว? ปล่อยเถอะ”
“ยังไม่ถึงรถ” บิวกล่าวเสียงเรียบ
“กะจะไปทั้งสภาพแบบนี้จนถึงรถเลยเหรอ?” กว่าเดินถึงรถมันต้องใช้เวลาพอสมควร เกิดต้องอยู่สภาพนี้ต่อไปแกรนอาจกังวลจนหายใจวายตาย เกิดหล่อนโดนกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกจนเผลอบีบแขนเขากลายเป็นเศษเนื้อขึ้นมา
รับรองว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกโปกฮาแน่นอน
“…”
“ฉันถามเธอนะ เธอก็ช่วยตอบหน่อยได้ไหม?”
“…นายต้องอยู่ในสภาพนี้ไปจนถึงรถ” บิวเหลือบมองชายหนุ่มด้วยแววตายากจะคาดเดาอารมณ์ ก่อนจะกระชับกอดแขนเขาแนบแน่นจนแทบหลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว
คำสั่งประกาศิตสั่งการเรียบร้อยทั้งยังไม่ปล่อยผ่านให้ขัดขืน
“…ห้ามขัดขืนเด็ดขาด”
“ให้ฉันต้องอยู่ในสภาพโดนลากดึงไปมาแบบนี้ ไม่เอาด้วยหรอก เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผิด” แกรนพยายามสลัดให้หลุดลอด ติดตรงพละกำลังเขามันช่างอ่อนแอเหลือเกินเรียวแขนตัวเองถูกกอดเอาไว้แนบแน่นไม่มีขยับเลยแม้แต่น้อย
บิวขมวดคิ้วปลดปล่อยกลิ่นอายดำมืด
“เข้าใจผิด? มีอะไรต้องให้เข้าใจผิด”
“เธอจะทำตัวเป็นแฟนฉันไปถึงไหนเนี่ย เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ทิ้งระยะห่างไปหลายต่อหลายเมตรคงไม่มีความจำเป็นต้องเล่นละครอีก อย่างน้อยเขาก็ยังไม่เห็นความจำเป็นจากการกระทำของหล่อน
แต่หล่อนหาได้ฟัง
“เป็นสิ” ยังดื้อดึงไม่เลิกรา
“เป็นเมดสาวกับเจ้านาย” แกรนต่อบททันที
“มันก็ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ระดับหนึ่ง พอใช้ทดแทนกันได้”
“ตรรกะบ้าบออะไรของเธอเนี่ย” แกรนปวดหัวจนแทบอยากลงไปนอนดิ้นพื้นตาย แต่หล่อนหาได้สนใจยังเดินหน้าตาเฉยทำราวกับสิ่งที่ตัวเองกล่าวออกไปนั้นคือความจริง ความจริงที่ยากจะเปลี่ยนแปลง
ปล่อยให้หล่อนได้ทำตามใจตัวเองต้องการ แต่มันต้องไม่เกินเลยกว่าเขาจะรับได้ แน่นอนว่าเมดสาวก็เข้าใจจึงไม่ได้ขยับลากพาเขาไปไหน นอกจากลากกลับไปยังรถหรูที่จอดห่างไม่ไกลมากนัก
“เดินมาตั้งนานก็แล้ว ซื้อไอศกรีมก็แล้ว ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วมั้ง? บอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าฉันจะไม่ไปไหนกับเธออีกในค่ำคืนนี้ ต้องกลับบ้านเท่านั้น พรุ่งนี้เรายังต้องไปทำงานทำการอีก”
“ไม่มีปัญหา ตั้งแต่แรกเริ่มฉันก็ไม่ได้อยากจะพานายไปไหนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่านายต้องไปส่งฉัน ไปส่งฉันถึงบ้าน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสัญญาที่นายได้ให้ไว้กับฉัน” บิวกล่าวเด็ดขาดไม่ยอมให้อ่อนข้อไปมากกว่านี้
“ไม่อนุญาตให้บ่ายเบี่ยงเด็ดขาด”
“ครับ แต่อย่ามางอแงทีหลังนะ”
“…ได้” ตลอดระยะเวลาเดินทั้งหมดหล่อนปิดปากเงียบสนิทไม่คิดพูดจาอะไรกับเขา บรรยากาศมันช่างน่าอึดอัดใจเหลือเกิน มากจนแกรนไม่คิดเก็บปากตัวเองอีกต่อไป
“อะไร? …งอนเหรอ?”
“เปล่า ฉันไม่ได้งอนสักหน่อย” เห็นกันอยู่ว่างอนแต่ไม่เลือกพูดออกมาตามตรง แสดงอาการออกมาขนาดนี้ยังไม่บอกงอนอีกเหรอ เขาเป็นคนนะไม่ใช่ก้อนหินนะจะไม่ได้รับรู้อารมณอีกฝ่าย
แกรนยิ้มหัวเราะพยายามแนบชิดเรือนร่างหล่อน
“ไม่ได้งอนแล้วทำไมต้องเงียบแบบนี้ละ ไม่สมกับที่เป็นเธอเลย”
“แค่ไม่มีอะไรอยากจะพูดมันก็เท่านั้นเอง”
“งั้นเรามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวหน่อยไหม?”
“…”
“เมื่อกี้คุยกับใคร?” อาศัยนิสัยแข็งกร้าวของหล่อนโดยเฉพาะกับอารมณ์พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ การที่หล่อนสามารถหักห้ามอารมณ์พร้อมเปิดปากพูดคุยกับปลายสายได้โดยไม่มีอะไรแปรเปลี่ยนให้เห็นชัดเจน
บ่งบอกว่าปลายสายย่อมไม่ใช่คนปกติธรรมดาต้องเป็นระดับที่หล่อนไม่อาจเสียมารยาทได้แน่นอน
…‘ใครกันที่ทำให้บิวยอมลงให้’
“นายสนใจด้วย?”
“สนใจสิ”
“คุยธุระปกติธรรมดาไม่เห็นน่าสนใจ”
“ไม่น่าสนใจ ทำไมคุยตั้งนาน” แกรนจับจ้องมองเข้าไปในดวงตาไม่คิดปล่อยผ่าน หากหล่อนเปิดเผยพิรุธมาแม้แต่นิดเดียวเขาจะเดินเกมส์เข้าหาต่อ บิวยังคงรักษาท่วงท่าเมยเฉยต่อไป
ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้สืบสาน
“อยากรู้?”
“อยากสิ”
“คนนอกไม่จำเป็นต้องรู้ อีกอย่างฉันจะคุยกับใครไม่เห็นต้องบอกนาย”
“นั้นสินะ เธออยากจะคุยกับใคร ฉันคงห้ามไม่ได้หรอก” นอกจากไม่โมโหแกรนยังยิ้มหัวเราะสนุกสนาน ในเมื่อหล่อนสามารถกระทำได้ เขาเองก็ต้องกระทำได้เฉกเช่นเดียวถ้าวัดในมาตรฐานเดียวกันนะ
หัวคิ้วหล่อนขมวดเป็นปม
“…”
“แล้วถ้าฉันอยากจะไปคุยกับคนอื่นบ้างละ โดยเฉพาะกับเด็กสาวตัวน้อยคนเมื่อกี้”
“…ต้องดูก่อนว่านายมีความสามารถรึเปล่า?”
“ล้อเล่นน่า” เขายังไม่อยากตายเร็วขนาดนั้นสักหน่อยทำไมต้องไปหาเรื่องด้วย
แกรนยังกล่าวต่ออีกด้วยว่า
“ฉันเห็นหน้าเธอเคร่งเครียดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เลยอยากจะถามนิดหน่อยเผื่อจะสามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้ แต่ในเมื่อเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ฉันคงต้องเงียบปากไปละนะ น่าเสียดายนึกว่าจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือหญิงสาว ทำตัวเป็นวีรบุรุษสักหน่อย” แน่นอนว่าการหยอกล้อครั้งนี้ไม่ได้ทำเพราะตามใจชอบอย่างเดียว เขาต้องการดูว่าขีดจำกัดความอดทนของหล่อนตอนนี้อยู่ที่ตรงไหน ตรงไหนที่มันพร้อมระเบิดใส่อารมณ์เต็มที่
บิวนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนยอมเปิดปากพูดออกมา
“เกี่ยวกับงานมหกรรมที่บริษัทพวกเรากำลังจะจัดกันน่ะ”
“มีปัญหา?”
“ใช่ พวกเขาต้องการคนที่มีชื่อเสียงมาเป็นแขกรับเชิญ คนที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาใครคนไหนมาแทนคนเดิมก็มีข่าวเสียหาย ไอ้ขยะนั้นมันสร้างเรื่องราวไม่เข้าท่า จนสุดท้ายบริษัทไม่สามารถปล่อยให้มันเข้ามาทำงานใต้สังกัดได้อีก พวกเขาเลยโทรมาขอคำปรึกษาอยากให้ฉันแนะนำคนให้หน่อย” บิวกล่าวรวดเดียวจบ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรงไม่พอใจอีกต่างหาก
ช่วยไม่ได้ละนะใครเขาใช้ให้มารบกวนเวลาแสนสุขของหล่อนกัน
“เหรอ?” แกรนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“…สีหน้าแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง?”
“ไอ้ฉันก็นึกว่าโทรหาผู้ชายคนอื่น ถ้าเป็นผู้ชายจริงบอกเลยนะว่า—” แกรนโอบเอวบางขยับเข้ามาใกล้ตัว เรือนร่างสมบูรณ์แบบแนบชิดกับตน หล่อนกลั้นหายใจไปชั่วขณะเมื่อเห็นผู้เป็นนายเร่งรุกเข้ามารวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้ทำใจก่อน โดยเฉพาะใบหน้าของแกรนขยับเข้าไปใกล้ใบหูกระซิบคำหวาน
“ฉันจะหึงมาก”
“หึ นึกว่านายจะสนใจเด็กนั้นมากกว่าฉันซะอีก” บิวเบี่ยงหน้ากัดปากตัวเอง
“มีคนสวยแบบนี้อยู่ข้างกาย ฉันไม่มีทางสนใจคนอื่นหรอก” เห็นลูกไม้ตัวเองได้ผลแกรนไม่รอช้าเริ่มเดินเกมส์รุกหน้าต่อไม่ปล่อยให้เสียโอกาส หากทำให้หล่อนกลับมาอารมณ์ดีได้อีกครั้ง
ย่อมหมายถึงชีวิตตัวเองปลอดภัยหายห่วง
“เอาเข้าจริงถึงจะไม่เกี่ยวกับข้อตกลงฉันก็พร้อมส่งเธอกลับบ้านอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเอาข้อตกลงมาบีบบังคับเลย หรือต่อจากนี้ทุกวันให้ฉันไปส่งเธอกลับบ้านดีละ เธอคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม? คุณเลขา”
“เก็บปากของนายไปเลย ไม่เอาด้วยหรอกให้นายไปรับไปส่งฉันทุกวัน”
“ทำไมละ?”
“นายก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ” บิวขมวดคิ้วพร้อมกอดแขนชายหนุ่มประธานเอาไว้แนบแน่น แกรนไม่ได้พูดอะไรออกไปเพียงฟังและฟังเท่านั้นปล่อยให้หญิงสาวควบคุมบทสนทนา
ช่วงเวลานี้เขาคือผู้ตามที่คอยประจบเรียวขาแสนสวย ส่วนหล่อนคือผู้นำอิสตรีสูงศักดิ์
…‘พอโกรธก็น่ารักเหมือนกันนะ’
“…”
“ขืนนายไปรับไปส่งฉันทุกวัน จนเกิดข่าวลือแปลกประหลาดอย่างประธานหนุ่มแสนล้านกับเลขาสาวเกิดมีอะไรเกินเลยมากกว่าลูกน้องกับเจ้านาย มีหวังได้ออกข่าวหน้าหนึ่งนานเป็นเดือนแน่” เพียงแค่คิดว่าฝูงนักข่าวพุ่งเข้ามาหาเสมือนฉลาดได้กลิ่นเลือดก็ทำหล่อนปวดหัวแล้ว
ไอ้การตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งเพียงครั้งเดียวเกินพอ
“เธอไม่อยาก” แกรนยิ้มแกล้ง
“กลับกันนายต่างหากที่ไม่อยาก หรือต่อให้นายอยาก ตระกูลของนายคงไม่อยากได้ยินสักเท่าไหร่นัก”
“นั้นสินะ”
MANGA DISCUSSION