ตอนที่ 16 เบอร์โทรศัพท์
ผู้คนเข้าแถวตรงตามระเบียบเฝ้ารอให้ถึงคิวตัวเอง ไอศกรีมลดลงอย่างรวดเร็วด้วยกำลังซื้อมหาศาลคอยจับจ่ายใช้สอย ใช้เวลาไม่นานหลังจากแกรนเข้ามาทำหน้าที่เป็นพ่อค้าจำเป็น เขาสามารถจัดการบริการลูกค้าทั้งหมดจนกระทั่งหลงเหลือคนสุดท้ายในระยะเวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น
ซึ่งคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่นั้นก็คือเด็กสาวที่เขาพึ่งพูดคุยเมื่อครู่ เด็กสาวมัธยมปลายผู้มีจิตใจไร้เดียงสาคอยเป็นเพื่อนคุยแก้เบื่อให้กับเขา แกรนยิ้มถอนถุงมือพร้อมผ้ากันเปื้อนออก
…‘เสร็จสักที’
“…” เหมือนหล่อนจะยังไม่ได้สติกลับมา ยืนสงบนิ่งคนเดียวนอกแถว แววตาเหม่อลอยไม่ได้สติมองค้างกลางอากาศ เสมือนกายอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าร้านไอศกรีมแต่ใจไม่รู้ว่าหายไปไหนต่อไหนแล้ว
หากที่นี่ไม่ใช่ร้านไอศกรีมแต่เป็นบนรถยนต์คงไม่พ้นต้องเกิดโศกนาฏกรรมแน่นอน
“เหม่อลอยอีก ให้ตายสิ สิ่งที่ฉันทำมันยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่ามีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ถึงทำให้หล่อนเหม่อลอยขนาดนี้ แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามสิ่งที่ควรทำในตอนนี้คือ จัดการปัญหาเบื้องหน้าให้เสร็จก่อน” แกรนส่ายหน้าละความสนใจทั้งหมดจากตัวเด็กสาว
เขายังมีสิ่งหนึ่งต้องกระทำปิดท้ายก่อนพาบิวและตัวเองกลับบ้าน
“…” แกรนวางอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมเงยหน้ามองเหล่าลูกค้าทั้งหลาย
“ขอบคุณสำหรับการอุดหนุนในครั้งนี้นะครับ วันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้บริการให้กับพวกท่านทุกคน ขอให้ทุกท่านกลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับ” ไอศกรีมหมดไม่มีเหลือ ทุกคนต่างได้รับไอศกรีมกลับบ้านครบหมดทุกคน หน้าที่สุดท้ายในฐานะพ่อค้าจำเป็นคือกล่าวลาคุณลูกค้าทั้งหลายให้เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย
ทุกคนต่างประทับใจเจ้าพ่อค้าจำเป็นเหลือเกิน
“น้องชาย นายนี่มันโคตรจะเก่งเลย เมื่อกี้ทำได้ยังไง?”
“ไอศกรีมรูปกระต่าย พี่ทำได้ยังไงเหรอ?”’
นอกจากสอบถามยังมีบางส่วนอยากได้รูปเขาอีกต่างหาก
“ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ?” ขายของเสร็จถึงเวลาบุกเข้าถึงตัว แกรนยิ้มแห้งทันทีพอเห็นเหล่าผู้คนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาเสมือนพบเจอหน้าดาราคนโปรด แน่นอนว่าพวกเขาล้วนปลื้มกับฝีมือและเทคนิคในการค้าขายของเขา
จึงเป็นธรรมดาที่คนมากไปด้วยความสามารถและปราศจากท่าทีหยิ่งยโสจะตอบรับด้วยความจริงใจ
“ได้ครับ” แกรนยิ้มรับ
“กรี๊ดดดดด!”
“พี่ชาย หนูขอด้วย” เด็กสาวอีกหลายคนเข้ามาถ่ายรูปกับเขา
“น้องชาย นายนี่มันสุดยอดจริง ๆ ไปดื่มกับพวกเราไหม?” ยังไม่รวมเจ้าตัวคุณลุงทั้งหลายต้องการลากเขาเข้าไปร้านเหล้า เข้าไปสังสรรค์ต่อยันเช้า อาจเพราะท่วงท่าของแกรนมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร
จึงดึงดูดคนได้ไม่ขาดสาย
“พรุ่งนี้ผมต้องทำงานอีก คงไม่ได้”
“น่าเสียดาย”
ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหมดไม่มีหลงเหลือหลังจากได้ทำตามความปรารถนาของตัวเองเสร็จสิ้น หลงเหลือเพียงเจ้าของร้านสาว เทพธิดาสาว พ่อค้าจำเป็น และอีกคนผู้หนึ่งที่ยืนสงบนิ่งไม่ขยับไปไหนตั้งแต่เขาก้าวเท้าเดินออกไปจัดการปัญหา
…‘ยัยเด็กนี้เหม่อลอยเกินไปรึเปล่าเนี่ย?’
“…” หัวคิ้วเขากระตุกเล็กน้อย
แกรนมาหยุดตรงหน้าสาวน้อยมัธยมปลายในมือเขาตอนนี้ไม่ได้กลับมามือเปล่าแต่กลับมาพร้อมกับไอศกรีม สาวน้อยเสมือนยังอยู่ในโลกส่วนตัวไม่อาจรับรู้ได้ว่าใครกำลังอยู่เบื้องหน้า
จนกระทั่งแกรนยื่นไอศกรีมมาให้
จิก!
“เย็น!” ถ้วยไอศกรีมมาปรากฎเบื้องหน้า
“ยืนเหม่อลอยแบบนี้มันอันตรายนะ” เป็นแกรนที่เอาถ้วยแนบชิดแก้มนุ่มนิ่มของเด็กสาว
“พี่ชาย?”
“ใช่พี่ชายเอง เธอเหม่อลอยจนพี่ขายของจนหมดแล้วนะ ถ้าพี่ไม่เก็บเอาไว้ให้รับรองวันนี้เธอได้กลับบ้านมือเปล่าแน่ พี่ให้ รับไปสิ” ไอศกรีมรูปกระต่ายสองตัวมันช่างน่ารักเหลือเกิน เกินกว่าจะหักห้ามใจตัวเองกลืนกินมันเข้าไป นี่มันเกินกว่าจะเรียกได้ว่าของกิน
มันคือศิลปะ ศิลปะทรงคุณค่า
“ไอศกรีม แถมยังเป็นกระต่ายน้อยด้วย น่ารักจัง นี่มันจะดีเหรอคะ?”
“ดีสิ พี่เอามาให้เราโดยเฉพาะเลยนะ แต่ไม่รู้ว่าตรงกับรสที่เราต้องการรึเปล่า?” แกรนยิ้มอ่อน คำพูดเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมันเข้าไปสะกิดจุดอ่อนนุ่มที่สุดของจิตใจเด็กสาว เด็กสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มพร้อมกัดปากตัวเองรีบพุ่งเข้ามาหาทันทีทั้งยังใช้สองมือจับถ้วยไอศกรีม
ไม่ลืมจับมือแกรนเอาไว้แน่น
“ตรงค่ะ ตรงกับที่หนูกำลังจะสั่งเลย”
“งั้นเหรอ ค่อยยังชั่ว นึกว่าต้องเอาไปเปลี่ยนแล้วซะอีก”
“ต่อให้ไม่ตรงกับที่หนูต้องการ แต่หนูก็ไม่คิดเปลี่ยนหรอก นี่เป็นของที่พี่ชายเอามาให้หนูโดยเฉพาะเลยนะ” แววตานุ่มนิ่มจ้องมองมาที่แกรนคล้ายต้องการประทับเข้าไปในจิตใจ
รอยยิ้มอ่อนโยนเริ่มหดหายลงจนเกือบหายไปจากใบหน้าเด็กสาว
“เสร็จสักที จะได้กลับบ้าน” บิวเดินเข้ามาหา
“บอกให้ไปรอที่รถ”
“ฉันอยากมาอยู่ข้างนาย”
“…” ดวงตาคู่งามของเด็กสาวจดจ้องมองบิวด้วยแววตาแปลกประหลาด
“แล้วพี่สาวคนสวยคือใคร?” ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่พอได้เห็นบิวครั้งแรกหล่อนก็รู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายค่อนข้างเดือดดาลกับการได้เห็นตนเข้าใกล้ชิดแกรน แน่นอนไม่ใช่เพียงอีกฝ่ายที่คิด หล่อนเองก็หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นบิวเดินเคียงคู่กับแกรน
ดวงตาสาวน้อยมัธยมหรี่ลงหลายระดับ
“เธอเป็น—”
“แฟนเขา” บิวแทรกเข้ามาไม่ปล่อยให้แกรนตอบ
“…” เด็กสาวนิ่งไปเลย
ท่าทีเย็นชาแปรเปลี่ยนไปรวดเร็วราวกับสลับใบหน้าอื่นเข้ามาทดแทน
“ฉันเป็นแฟนเขาค่ะ พวกเรามาเดทกันก่อนจะกลับไปต่อที่ห้อง” สายตาเปล่งประกายเหลือบมองมาที่แกรน
“ใช่ไหมคะ? ที่รัก~” บิวยิ้มอ่อนตรงเข้ามากอดแขนข้างหนึ่งเอาไว้แน่น หากมองเข้าไปให้ดี มองเข้าไปให้ลึกจะเห็นว่าแขนของแกรนสั่นสะท้านคล้ายกำลังต่อต้านสุดขีด
น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย
“แฟน?!”
…‘เป็นเรื่องแล้วไง’
“…” แกรนคิ้วกระตุกทันทีสัมผัสได้ถึงหายนะ
เรี่ยวแรงกอดรั้งแขนเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งยังเพิ่มต่อไม่มีหยุดปล่อยเอาไว้แขนเขาคงต้องบอกลา
…‘ตอบกลับไป บอกให้นังจิ้งจอกตัวน้อยได้รับรู้ว่าพวกเราเป็นอะไรกัน’
“จริงไหมแกรน? พวกเราเป็นแฟนกัน?” พระเจ้าช่วยเห็นสีหน้าบิวเข้าไป บวกกับแขนที่ชาเพราะเลือดไม่ไหลไปหล่อเลี้ยง คงมีแต่จะต้องตอบกลับไปตามน้ำเท่านั้น หากตอบเป็นอื่นอาจกลายเป็นศพลอยคออยู่กลางแม่น้ำ อีกทั้งเจ้าเรียวแขนเขาข้างที่กำลังโดนจับสัมผัสได้ถึงพละกำลังมหาศาลพร้อมบดขยี้แขนให้กลายเป็นเศษเนื้อ
หนักสุดคงไม่พ้นต้องเป็นดวงตาหล่อน
…‘น่ากลัวเป็นบ้า’
“ปะ ประมาณนั้นแหละ”
“…” เด็กสาวจ้องมองสลับสับเปลี่ยนไปมาระหว่างแกรนกับบิว
รอยยิ้มผุดขึ้นมา
“งั้นเหรอคะ พวกพี่ทั้งสองคนเหมาะสมกับมาก พี่สาวต้องรักษาพี่ชายเอาไว้นะ พี่ชายเขาเป็นคนดีมากหากไม่ติดว่าพี่ชายมีเจ้าของอยู่แล้ว หนูก็อยากลองจีบดูสักครั้ง” สาวน้อยยิ้มแย้มอวยพรให้ทั้งสอง
“เหรอ–”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน พี่สาวสัญญาเลยว่าจะรักษาเขาเอาไว้อย่างดี ไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนเข้าถึงตัวได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นน้องสาวโปรดวางใจปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่สาวเถอะ ส่วนน้องสาวก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกลับบ้านกลับช่องไป” บิวเองก็ไม่น้อยหน้าตอบกลับเสียงมั่นใจ แสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าสถานภาพหล่อนกับเขาตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนสนิท แต่เป็นแฟนหนุ่มแฟนสาว
แกรนยิ้มแห้งขัดขืนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“…”
“กลับกันเถอะ”
“ไม่เดินเล่นต่อ?”
“หรือว่านายอยากจะอยู่ต่อ” แววตาแหลมคมบีบบังคับไม่ให้ตอบเป็นอื่น เกิดตอบเป็นอื่นจนเผลอไปเหยียบกับระเบิดเข้า ชีวิตดวงน้อยของตนอาจปลิวหายไปก็ได้ โดยเฉพาะกับช่วงเวลาแบบนี้แกรนรับรู้ได้ทันทีว่าต้องเอาใจหล่อนให้มาก
อย่าไปทำให้หล่อนต้องขุ่นเคือง
“มะ ไม่ กลับก็ได้ กลับกันเถอะ” แกรนพยักหน้าเห็นชอบว่าง่าย
“…” ขณะกำลังจะเดินทางกลับ
โทรศัพท์เจ้ากรรมของเมดสาวพ่วงตำแหน่งเลขาดังขึ้นเสียก่อน โทรมาในเวลาไม่เหมาะสม หล่อนเตรียมระเบิดอารมณ์ใส่พาลไม่ไว้หน้า แกรนยิ้มแห้งถอยห่างไปหลายก้าว
“ใครมันโทรมาอีกเนี่ย!” พอหล่อนเห็นว่าใครโทรมาก็เก็บอาการทั้งหมด
เหลือบมองชายหนุ่มพร้อมส่งสัญญาณว่าห้ามทำอะไรเด็ดขาด ส่งสัญญาณเสร็จสิ้นหล่อนกลับไปพูดคุยธุระกับปลายสายต่อปล่อยให้ชายหนุ่มคุณชายยืนคนเดียวท่ามกลางลมหนาว
ช่วงเวลานั้นเองที่ร่างหนึ่งกระโดดเข้ามาในสายตาเขา
“พี่ชาย~”
“…” แกรนขมวดคิ้วเห็นเด็กสาวใช้นิ้วแตะริมฝีปากตัวเองบอกให้เขาเงียบ
ก่อนรู้สึกได้เลยว่ามีของบางอย่างถูกยัดใส่ในมือ ระหว่างบิวกำลังพูดคุยโทรศัพท์แกรนอาศัยจังหวะนั้นเองเปิดกระดาษต้องการเห็นของด้านใน ก่อนหัวใจเขาจะถูกจู่โจมด้วยการโจมตีไม่คาดฝัน
“…[อย่าลืมโทรมานะคะ พี่ชาย♥]…” เนื้อความบนกระดาษเปิดเผยให้เห็นเบอร์โทรศัพท์พร้อมข้อความช่วยให้รู้สึกหัวใจสั่นสะท้านเต็มไปด้วยกำลังม้า แกรนเหลือบมองสาวน้อยมัธยมยิ้มโบกมือ
แววตาหล่อนตอนนี้จ้องมองแกรนตาเป็นมันคล้ายต้องการพบเจอหน้ากันอีก
“…กลับบ้านดี ๆ นะคะ พี่ชาย~” กล่าวลาเสร็จพร้อมกระพริบตาส่งตาหวานให้ไปอีกหนึ่งครั้ง
สัมผัสได้ถึงลมหนาวด้านหลัง
“..บรรลัยละ”
“มองอะไร?” เสียงกระซิบดำมืดดังขึ้นด้านหลัง
รีบสติกลับเข้าร่างกายเขารวดเร็ว
“เปล่า แค่น้องเขาจ้องมองฉันตลอดเลย” ชายหนุ่มตีหน้าซื่อเก็บหลักฐานทั้งหมดเข้ากระเป๋า
“ห้ามหันกลับไปมองเด็ดขาด หันกลับมา” บิวขมวดคิ้วกอดแขนเขาเอาไว้แน่น นังจิ้งจอกกล้าอาศัยช่วงเวลาที่หล่อนเผลอตัวเข้าหาแกรนแถมยังใช้น้ำเสียงอ่อนหวานเล่นงานอีกต่างหาก
มันน่าเหลือเกิน น่าจัดการให้หายไปจากโลกใบนี้
“…” แววตาหล่อนดำมืดลงรวดเร็วจนแกรนสั่นสะท้าน
MANGA DISCUSSION