ผมผู้เป็นสตรีมเมอร์ดันถูกติดตามโดยสาวยันเดเระ - ตอนที่ 1 ผมคือสตีมเมอร์
อาลาตาเซียเป็นโลกเวทมนต์ ที่มีอารยธรรมมากมายอาศัยอยู่
ไม่เพียงแต่มนุษย์แต่ยังมีสิ่งมีขีวิตที่เรียกว่าปีศาจอีกด้วย ความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธ์ุนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในโลกของอาลาตาเซียมีสิ่งที่เรียกว่า ”การวัดพลังเวท” อยู่
ซึ่งจะวัดระดับผู้คนในโลกนี้ด้วย หรือพูดอีกอย่างก็คือ โลกที่มีวิทยาการเวทย์สูงยังไง ความแข็งแกร่งเองก็สำคัญเช่นกัน
แน่นอนว่ามีคนเก่งๆ มากมายที่ประสบความสำเร็จด้วยทักษะดาบเพียงอย่างเดียวล่ะนะ ถึงแม้พวกเค้าจะไม่มีพลังเวทเลยก็ตาม
แต่นี่เองก็เป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนียงและยาวนาน คนธรรมดาก็คงยอมแพ้ก่อนจะถึงจุดนั้น
และทั่วไปแล้ว วิถีชีวิตหลักก็คือการเรียนรู้วิชาดาบและเวทมนต์ควบคู่ไปด้วย
เอาล่ะ เรามาพูดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลกนั้นกันดีกว่า
ปีนี้เขาอายุ 17 ปีและเข้าเรียนที่ Royal Academy ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเมืองหลวงของ ซิลทอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร โลเกียส
โดยพื้นฐานแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่อนุญาตให้เฉพาะขุนนางผู้มั่งคั่งเท่านั้นที่จะลงทะเบียนได้ แต่คนธรรมดาสามัญก็สามารถลงทะเบียนได้ขึ้นอยู่กับระดับเวทย์มนตร์ของพวเขา
จึงมีความขัดแย้งเรื่องสถานะอยู่บ้าง แต่เนื่องจากมีบุคลากรอาจารย์ที่มีประสิทธิภาพ จึงไม่ค่อยมีความขัดแย้งมากนัก
“…ง่วงจังเลยน้า”
เค้าหาวขณะสวมชุดนักเรียนสีขาวของโรงเรียน
ชื่อของเขาคือ คานาตะ มีผมสีดำและดวงตาสีเข้มซึ่งหาได้ยากในโลกนี้ ใบหน้าที่ไม่โดดเด่นเป็นพิเศษ และร่างกายที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป
ในโลกนี้ นามสกุลมีอยู่เฉพาะสำหรับชนชั้นสูง แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่านามสกุลสำหรับคนธรรมดาสามัญ
อีกอย่างนึงก็คือ คานาตะ เป็นคนธรรมดาสามัญเพราะเขาไม่มีนามสกุล แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาจึงเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติแห่งนี้
“เราก็อยู่ที่นี่มาตั้งนาน ที่นี่ไม่เหมือนโลกเดิมของฉันเลยจริงๆเลยนะ ”
เค้าพูดถึงชาติที่แล้วของเขา
ใช่แล้ว เขาคือคนที่กลับชาติมาเกิดและได้เกิดใหม่ในโลกนี้อย่างกะทันหัน
ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์ในโลกเก่าของเขา แต่มีเวทมนตร์อยู่ในโลกใหม่นี้ และเมื่อได้รู้ถึงเรื่องนั้นเค้าก็ตื่นเต้นอย่างมาก
หลังจากได้สัมผัสประสบการณ์การกลับชาติมาเกิดในอีกโลกหนึ่งซึ่งเป็นพล็อตสุดนิยมจนถึงทุกวันนี้ เขามีพลังที่สามารถกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบเลยล่ะ
นั่นคือ “พลังเวทย์มนตร์อันไร้ขีดจำกัด” ของเขา และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถเข้าสู่สถาบันแห่งนี้ได้แม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดาสามัญก็ตาม
พลังเวทย์มนตร์ที่ไร้ขีดจำกัด ใช่แล้วเขาร่างกายของเขามีพลังเวทย์มนตร์ที่ไม่สิ้นสุด
อันดับพลังเวทย์มนตร์ถูกกำหนดจากบนลงล่าง: SSS, SS, S, A และอื่นๆ จนถึง F ที่ต่ำที่สุด
อย่างไรก็ตาม เขายังตระหนักว่าพลังเวทย์มนตร์อันไร้ขีดจำกัดนี้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ดังนั้นเขาจึงปรับพลังที่เค้าและใส่เข้าไปเมื่อวัดพลังเวทย์มนตร์ของเขา และผลลัพธ์ก็คือ S
“ไอ้สามัญชน ทำแกไม่ไสหัวไปสักทีละ?”
“ใช่แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนโทรมๆอย่างแกหรอก”
เนื่องจากเขาเป็นคนธรรมดาสามัญ จึงเป็นเรื่องปกติที่นักเรียนชนชั้นสูงจะพูดแบบนี้กับเขา
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ที่นี่มีบุคลากรอาจารย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงไม่ไปเลยเถิดไปกว่านี้ แต่…การเลือกปฏิบัติที่หยั่งรากลึกในระดับนี้เป็นเรื่องปกติ
“ก็ไปบอกอาจารย์เองสิ พูดกับฉันยังไงเหมือนฉันจะสนใจแหละ ”
“หนอยย…”
“อวดดีนังนะ!!”
และเห็นได้ชัดว่าพวกนักศึกษาชนชั้นสูงเนี่ยมีจุดเดือดต่ำ
ในแง่หนึ่ง ขุนนางก็เป็นตระกูลสายเลือดที่ถูกเลือก ดังนั้นฉันเดาว่าเขารู้สึกเหมือนความภาคภูมิใจของเขาถูกทำร้ายโดย คานาตะ ซึ่งเป็นเพียงสามัญชน
ทั้งสองเข้าหาคานาตะโดยไม่พูดอะไรสักคำ
คานาตะคิดว่านี่อาจจะต้องลำบากสักหน่อย แต่มีเสียงน่ารักดังขึ้นเพื่อหยุดยั้งพวกเขา
“ทำอะไรอยู่น่ะ”
“…”
“ท่านมาเรีย…”
สาวสวยก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างห้าวหาญ
ผมสีทองของเธอแกว่งไกวและดวงตาสีฟ้าของเธอ ซึ่งบ่งบอกถึงเจตจำนงอันแข็งแกร่ง แทงทะลุกลุ่มนักเรียนชนชั้นสูง
ใบหน้าของเธอสวยงามมาก และเรือนร่างที่โค้งมนของเธอก็เปล่งประกายไปด้วยเสน่ห์ทางเพศ
เด็กหญิงคนนี้ชื่อมาเรีย อาตาลาซิส และเธอเป็นเจ้าหญิงคนที่สาม ซึ่งเป็นสมาชิกของราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักร
นักเรียนชั้นสูงต่างหลงใหลในมาเรีย แต่พวกเขาก็ก้มลงไปทันทีด้วยความกลัวเมื่อจ้องมองที่สายตาอันแข็งแกร่งของเธอ
“ที่เค้าเข้าเรียนสถาบันนี้ได้ จะขุนนางหรือสามัญชนก็ไม่เห็นสำคัญ สามัญชนคนอื่น ๆ เข้าร่วมที่นี่เพราะพวกเขามีคุณสมบัติ เลิกยัดเยียดความภูมิใจโง่ๆของพวกนายให้คนอื่นได้แล้ว”
“ครับ”
“……”
มาเรียดุพวกเขาและนักเรียนชนชั้นสูงก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยวเหตุนี้ คานาตะซึ่งเป็นคนธรรมดาสามัญจึงมักได้รับการช่วยเหลือจากมาเรีย
ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ เธออยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้นำประชาชน
ด้วยเหตุนี้ไม่ว่ายังไง เธอก็มองผู้คนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้อย่างเท่าเทียมกัน
“ขอบคุณครับ ท่านมาเรีย”
คานาตะเคยพูดแบบนั้นกับนักศึกษาชนชั้นสูง แต่อย่างที่คาดไว้ เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งกลายเป็นคนในราชวงศ์ คานาตะก็เปลี่ยนวิธีพูดในทันที
เนื่องจากความทรงจำจากชาติที่แล้ว การแลกเปลี่ยนในปัจจุบันจึงไม่ใช่การเล่นแบบเด็กๆ แต่ คานาตะ ยังคงระมัดระวังเพราะเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเป็นศัตรูกับราชวงศ์
“ไม่เป็นไรหรอก แต่เธอก็รู้ใช่ไหมว่า พูดแบบนั้นไปจะทำให้พวกเค้าโกรธน่ะ”
ฉันก็รู้อยู่หรอก แต่มันน่ารำคาญน่ะสิ
“ทำไมคนต้องทะเลาะกันเพราะเรื่อง สถานะทางสังคมต่างกันด้วยละเนี่ย อยากให้พวกเค้าฟังท่านสตีมเมอร์กันบ้างนะ”
“เมื่อกี้พูดอะไรรึป่าวครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอก งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ โอเคไหม?”
“เข้าใจแล้ว~”
ด้วยเหตุนี้ คานาตะจึงแยกทางกับมาเรีย และคานาตะก็ตรงไปที่หอพักนักศึกษา
นักเรียนคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ต้องแชร์ห้องร่วมกัน แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คานาตะจะมีระดับเวทย์มนตร์ S แม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาสามัญก็ตาม
เขาก็เลยได้ห้องมาคนเดียว…ไม่ใช่เพราะเค้ามันเป็นคนแปลกๆจนขนาดคนธรรมดายังไม่กล้าขออยู่ด้วยหรอกนะ
“งั้นก็กลับไปทำสิ่งนั้นดีกว่า”
เขาเข้าไปในห้อง ล็อคประตู และเปิดใช้งานเครื่องเทอร์มินัลบนโต๊ะของเขา
มันเป็นอุปกรณ์ทำงานที่มอบให้กับนักเรียนทุกคน แต่เทอร์มินัลอันนี้เป็นอุปกรณ์ที่ คานะตะ ได้ปรับปรุงหลายอย่างด้วยตัวเอง
มันเหมือนกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในโลกเดิมของเขา และด้วยการใช้เทอร์มินัลนี้ เขาจึงสามารถเริ่มสิ่งที่เขาทำเพื่อหาเลี้ยงชีพได้
“ตรงเวลาเปํะ เอาล่ะทุกคน! วันนี้เป็นยังไงบ้าง? เหล่าเด็กและผู้ใหญ่ที่มีงานมีการกันทั้งหลาย เหนื่อยกันรึป่าว”
เมื่อฉันพูดผ่านไมโครโฟนที่วางอยู่ใกล้เครื่องชำระเงิน ตัวอักษรจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพื่อตอบสนองต่อคำพูดของเขา
ใช่ เขากำลังทำสิ่งที่เรียกว่าการสตีมมิ่งยังไงล่ะ
เดิมทีการสื่อสารโดยใช้เทอร์มินัลถูกสร้างขึ้นในโลกนี้ แต่เทคโนโลยีในการส่งคำพูดไปยังผู้คนที่จำนวนมากเช่นนี้ได้ไม่อาจเป็นไปได้
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังเวทย์มนตร์ มันเป็นไปได้ที่จะพยายามครั้งใหม่บนเครือข่ายของโลกนี้ ดังนั้น คานาตะ จึงใช้พลังเวทย์มนตร์อันไม่มีที่สิ้นสุดของเขาเพื่อสร้างเว็บไซต์ เผยแพร่ในโลกแห่งความเป็นจริง
การสร้างเครือข่ายเดียวต้องใช้พลังเวทย์มนตร์จำนวนมหาศาล และโดยปกติแล้วหากไม่มีไอเทมเวทย์มนตร์หรือความช่วยเหลืออื่นใด พลังเวทย์มนตร์จะหมดไปภายในไม่กี่ นาที
อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะคำว่า ‘ไร้ขัดจำกัด’ ของคานาตะเองยังไงล่ะ!
“วันนี้ฉันเห็นเหตุการณ์ที่แย่มากๆมาด้วยล่ะ ขุนนางและสามัญชนะทะเลาะกันอีกแล้ว ดูเหมือนว่าความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างในสถานะทางสังคมจะยังไม่หายไป แต่ทุกคนไม่ควรทะเลาะกันแบบนี้เลยน้า ควรจะดีกันไว้จะดีกว่า ทำไมกัน?”
นี่เป็นคำแถลงวัตถุประสงค์ของสิ่งที่ คานาตะ เคยประสบมาก่อนหน้านี้ และมีคำตอบมากมายสำหรับคำเหล่านั้น
คานาตะยิ้มกับคำตอบมากมายที่เด้งขึ้นมา คิดว่าเขาคือคนที่โด่งดังเพราะคำพูดอันไม่มีที่สิ้นสุดที่ส่งถึงเขา
ความบันเทิงจากการสตรีมซึ่งไม่มีในโลกนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวที่เข้าถึงเทอร์มินัลได้
ปัจจุบันนี้ความจริงก็คือแม้แต่บุคคลสำคัญในประเทศต่างๆ ตลอดจนบุคคลธรรมดา เช่น กษัตริย์และเจ้าหญิง ก็ยังตั้งตารอการสตีมมิ่งนี้อยู่เลย
แม้ว่าเค้าจะใช้ชื่อคาตานะก็ได้ แต่ชื่อที่เขาใช้ในสตรีมคือสตีมเมอร์
ก็ไม่ได้โม้น แต่ในว่า ชื่อ สตีมเมอร์ ในโลกอื่นนี้มีอิทธิพลอย่างมาก
เนื่องจากพลังเวทย์มนตร์ของเขาไม่เคยหมดไปไม่ว่าเขาจะพูดนานแค่ไหน แต่ละประเทศก็อยากจะเป็นพันธมิตรกับเค้า ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าบางคนต้องการจะหยุดการสตีมมิ่ง พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้เว้นแต่พวกเขาจะนำพลังเวทย์มนตร์มากกว่า คานาตะ ล่ะนะ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในโลกนี้ ไม่มีใครมีพลังเวทย์มนตร์มากไปกว่าคานาตะที่มีพลังเวทย์ มนตร์ไร้ขีดจำกัดอีกแล้วล่ะ
ดังนั้นจึงไม่มีใครหยุดการสตีมมิ่งนี้ได้
(ไม่เคยคิดเลยว่าความคิดที่จะถ่ายทอดผลงานตัวเองในโลกนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้)
ถึงกระนั้น คานาตะก็พอใจเพราะเขาสามารถเป็นสตรีมเมอร์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเคยชื่นชอบในโลกเดิมของเค้า
“ถ้าอย่างนั้นเรามาอ่านข้อความที่เราได้รับจากทุกคนในวันนี้กันดีกว่า”
ปัจจุบันเขายังคงสตีมมิ่งเพื่อนำความบันเทิงมาสู่ผู้คน
นี่เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้มีพลังไม่สิ้นสุด
แต่ยังไงก็ตาม แม้ว่าเขาจะมีพลังเวทย์มนตร์แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาไม่เคยโอ้อวดมันเลย เขาไม่สนใจที่จะเป็นฮีโร่ เขาไม่สนใจที่จะเป็นนักรบ เขาแค่ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าสนุก
มีผู้คนมากมายที่หลงใหลในการสตีมมิ่งของเขาและชะตากรรมของพวกเขาเปลี่ยนไป บ้างก็ได้รับการช่วยเหลือจากเขา เขายังไม่รู้ว่าเขาจะกลายเป็นความหวังของคน มากมาย
เขายังไม่รู้ว่าผู้คนที่เรียกว่าผู้ศรัทธาของ สตีมเมอร์ จะปรากฏตัวในโลกของ อาลาตาเซีย
ชีวิตของชายผู้ ต่อมากลายเป็นสตีมเมอร์ ในตำนาน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
TL:มันว่างอะ เลยลองแปลนิยายดู