ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - ตอนที่ 1900 นี่คือจุดเริ่มต้น
ใช่แล้ว นี่คือพระราชวังโพไซดอน นี่คือพระราชวังที่ฉินสือโอวสร้างจากคริสตัล
แน่นอนว่าวินนี่ตกตะลึงมาก เพราะว่าเธอจำลักษณะของพระราชวังนี้ไม่ได้เลย มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ!
ก่อนหน้านี้ พระราชวังแห่งนี้เป็นเพียงกำแพงที่มีเศษแก้วมาซ้อนๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่หลังคาของพระราชวัง แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม คริสตัลพวกนี้ได้รับการขัดเงาอย่างระมัดระวัง แม้แต่ที่ก้นทะเลก็ยังถูกทำให้แบนเรียบราวกับเป็นพื้นรองพระราชวัง
พระราชวังใหม่นี้มีขนาดกว้างใหญ่ อย่างน้อยก็กินพื้นที่ไปประมาณสี่ถึงห้าร้อยตารางเมตร พระราชวังนี้มีแบบจำลองมาจากพระราชวังในสมัยโรมัน มีเสาแก้วทรงกลมหนาอยู่แปดเสา มีซุ้มประตูอยู่ที่ด้านบนของเสาพวกนั้น และมีรูปปั้นอยู่ข้างบน รูปปั้นเหล่านี้ราวกับรูปปั้นเทพธิดา พวกเธอสวมเสื้อผ้าไม่เหมือนกัน บ้างก็อุ้มเด็ก ถือพิณ และดาบแตกต่างกันไป แต่ล้วนแล้วแต่มีรูปร่างเหมือนกับวินนี่
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปในห้องโถง โถงนี้มีลักษณะเป็นห้องโถงส่วนกลางที่กว้างแบบ ทางทิศตะวันตกเป็นลานกว้าง ตรงกลางมีรูปปั้นที่ทำจากคริสตัลตั้งอยู่ เป็นรูปปั้นฉินสือโอวที่สวมชุดเกราะกำลังกอดวินนี่จากด้านหลัง รูปปั้นนี้เหมือนจริงเป็นอย่างมาก
ที่ด้านหลังมีเสาสองต้นประดับอยู่ เสาที่อยู่ข้างในนี้มีขนาดเล็กกว่า ถัดไปเป็นห้องโถงใหญ่ ที่ข้างในทั้งบันได หลังคาโดม และเก้าอี้มากมายหลากหลายสี
สิ่งก่อสร้างที่อยู่ในพระราชวังนั้นมีสมมาตรทั้งหมด แต่เรื่องเล่าของสิ่งก่อสร้างนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน เหมือนสร้างขึ้นตามความพอใจ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ไม่ได้มีความยิ่งใหญ่ แต่มีความสวยงาม ละเอียดอ่อน
อันที่จริงแล้วสามารถกล่าวได้ว่าพระราชวังนี้เป็นพระราชวังฉบับเรียบง่าย หากอยู่บนบก บอกไม่ได้เลยว่าพระราชวังที่มีรูปแบบเดียวกันในประเทศจีนจำนวนมากมายจะทำลายความงามของมันมากแค่ไหน แต่เมื่อมันอยู่ในน้ำมันมีค่ามาก และพระราชวังทั้งหลังนี้ทำจากคริสตัล ทำให้มันเหมือนพระราชวังคริสตัลที่อยู่ในทะเลลึก!
เรื่องที่ทำให้วินนี่สับสนก็คือ พระราชวังนี้เปล่งประกายแวววาวได้อย่างไร สิ่งที่ทำให้มันเรืองแสงได้ก็คือเพรียงหัวหอม เจลลี่รูปใบพัด แมงกระพรุนและหมึกเรืองแสงจำนวนมาก
แสงเหล่านี้เปล่งประกายสว่างสไว ทำให้เธอไม่สามารถรู้เลยว่าที่ไหนเป็นก้นทะเล และที่ไหนเป็นผิวน้ำ!
แต่ว่า แม้ว่าพวกมันทั้งหมดจะส่องแสง แต่การทำงานนั้นไม่เหมือนกัน
เพรียงหัวหอมชอบที่จะยึดติดกับบางสิ่งและเติบโตบนนั้น พวกมันปรากฏตัวอยู่ทุกมุมของพระราชวังคริสตัลนี้ จำนวนของพวกมันมากจนนับไม่ได้ เดิมทีฉินสือโอวนำเพรียงหัวหอมเหล่านี้กลับมาจากฟาร์มปลาแห่งที่สามมาเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมันได้รับการพัฒนาจากพลังโพไซดอน พวกมันก็สามารถเปล่งแสงออกมาได้อย่างใจคิด
หมึกเรืองแสงว่ายน้ำไปมาในพระราชวัง โดยเฉพาะบนหลังคาโดม เพราะแบบนี้ทำให้เหมือนกับว่ากำลังมีดาวมากมายลอยอยู่บนหลังคาโดม สวยงามและน่าทึ่งมาก!
วินนี่เดินเข้าไปในพระราชวังใต้น้ำ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปช้าๆ ตกตะลึง! เป็นไปไม่ได้! น่าทึ่ง! สุดยอด!
ในที่สุดเธอก็เดินมาจนถึงหลังคาโดมที่เต็มไปด้วยหมึกเรืองแสง เธออดไม่ได้ที่กอดฉินสือโอว น้ำตาลไหลออกมาจากดวงตากลมโต “พระเจ้า ที่รัก พระเจ้า! ทำไมเราต้องสวมหมวกกันน็อคใต้น้ำด้วยนะ? ฉันอยากจะจูบคุณที่นี่จริงๆ! ฉันรักคุณนะคะ! ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ส่งมอบเขาให้กับฉัน!”
ฉินสือโอวจับเธอเข้ามากอด เหมือนกับรูปปั้นที่อยู่ในห้องโถง เขาตอบกลับเสียงเบาว่า “อันที่จริง คุณคือของขวัญอันล้ำค่าจากพระเจ้า! วินนี่ ผมโชคดีมากที่ได้เจอคุณบนเครื่องบินลำนั้น! ผมคิดว่าตอนนั้น ตอนนั้นพระเจ้ากำลังมองดูผมและคุณอยู่!”
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็สวมกอดกันเงียบๆ อยู่ในพระราชวัง สามเกลอเข้ามาเจอพวกเขากำลังอยู่ด้วยกัน ทำให้พวกมันว่ายเข้ามาอย่างรวดเร็ว บีนเข้ามาเป็นตัวแรก มันใช้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเข้ามาจูบและถูไถทั้งสองคน
ไอซ์สเกตเข้ามาด้วยเช่นกัน มันว่ายไปมารอบๆ ฉินสือโอวอย่างมีความสุข
แต่เพราะสโนว์บอลนั้นตัวใหญ่ มันไม่สามารถเข้ามาในพระราชวังได้ มันทำได้เพียงว่ายน้ำไปมาอย่างร้อนรนอยู่ด้านนอก
ทันทีที่พวกมันทั้งสามตัวปรากฏตัว หมึกเรืองแสงที่อยู่ในหลังคาโดมก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกมันว่ายไปมาด้วยความชุลมุน เพราะแบบนี้แสงจากตัวพวกมันจึงสั่นไหวไปมาอย่างรวดเร็ว ทำให้หลังคาโดมสวยงามยิ่งขึ้น
ฉินสือโอวและวินนี่ว่ายออกมาข้างนอก และเล่นกับสามเกลออยู่ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวกลัวว่าวินนี่จะทนกับน้ำอุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิไม่ไหว จึงพาเธอออกมาจากก้นทะเล
วินนี่ไม่ยอม เธอมองไปที่พระราชวังคริสตัลอย่างอาลัยอาวรณ์แล้วพูดว่า “ฉันอยากอยู่ที่นี่ ที่รักคะ เราอาศัยอยู่ที่นี่กันเถอะ”
“คุณรู้ไหม? ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมีความฝันว่าวันหนึ่งจะมีเจ้าชายมาพบฉัน ขี่ม้าขาว เดินท่ามกลางแสงแดด แล้วพาฉันไปยังพระราชวังของเขา ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ความฝันของฉันจะเป็นจริง อีกทั้งยังเป็นพระราชวังคริสตัลอีกด้วย!”
ปฏิกิริยาที่วินนี่ตอบสนองกลับมาทำให้ฉินสือโอวพอใจเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นมาโดยใช้พลังโพไซดอน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปีที่ผ่านมานี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ!
ความพยายามในการสร้างพระราชวังคริสตัลนี้ ยิ่งใหญ่กว่าการกอบกู้เรือซานโฮเซกับบิลลี่และเบลคเสียอีก!
ก่อนวันเทศกาลเชงเม้ง พ่อของฉินสือโอวมาหาเขา แล้วบอกว่า “เสี่ยวโอว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ไปทำความสะอาดหลุมศพของปู่ย่าตายาย และลุงรองเถอะ ขอบคุณพวกเขาที่อวยพรปกป้องพวกเรา และทำให้พวกเราใช้ชีวิตในต่างแดนได้ดีขนาดนี้ อีกอย่าง เถียนกวาและซีกวาก็ยังไม่เคยไปที่บ้านเลย แม้ว่าพวกเขาจะต้องอยู่ต่างประเทษตลอดชีวิต แต่อย่างไรพวกเขาก็ต้องกลับไปดูบ้านเก่านะ”
ฉินสือโอวพยักหน้า “ครับ ผมจะติดต่อเรื่องเครื่องบิน อีกสองวันพวกเราจะออกเดินทาง”
พ่อแม่ของเขามาอยู่ที่แคนาดานานมากแล้ว น่าจะมากกว่าหนึ่งปีครึ่งแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน!
ครั้งนี้พวกเขาไม่ต้องเข้าประเทศผ่านบริษัทอเมริกันเอ็กซเพรสแล้ว ฉินสือโอวเป็นหุ้นส่วนของบอมบาร์เดียร์ และลงทุนในบอมบาร์เดียร์มาอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นผู้ถือหุ้นคนสำคัญ ดังนั้นเมื่อเขาต้องการกลับบ้าน คณะบอมบาร์เดียร์ก็จะเตรียมเครื่องบินสุดหรูให้กับเขา
เครื่องบินที่บอมบาร์เดียร์เตรียมไว้ให้เขาคือเครื่องบิลโกลบอลห้าพัน ในปัจจุบันเครื่องบินลำนี้เป็นหนึ่งในเครื่องบินเจ็ตพาณิชย์ที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลกลำหนึ่ง ราคาของมันเกือบสี่สิบล้านดอลลาร์แคนาดา!
ครอบครัวของฉินสือโอวทุกคนขึ้นเครื่องบินลำนี้ เครื่องบินลำใหญ่ส่งเสียงคำรามดังออกมา เถียนกวาและซีกวากอดกันพลางร้องไห้ออกมา วินนี่ทำได้เพียงปลอบพวกเขาเท่านั้น
ฉินสือโอวนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขาอยากจะแกล้งเด็กน้อยทั้งสองคน แต่เมื่อเครื่องบินเพิ่มความสูงขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็รู้สึกหนักอึ้ง เขามึนหัว และรู้สึกแย่ขึ้นเรื่อยๆ ขารีบหลับตาลงและจับที่วางแขนแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง
เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอาการป่วยทางอาการเวียนหัวและกลัวความสูงแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
ไม่นาน เขาก็รู้สึกถึงมือที่เปียกและเย็นเล็กน้อยแตะเข้าที่หน้าผากของเขา
“เป็นอะไรไปคะ คุณยังกลัวความสูงอยู่อีกเหรอ?” เสียงนุ่มและไพเราะดังขึ้นที่ข้างหู เสียงนี้เป็นเสียงที่เขาคุ้นเคย หลายปีมานี้ เขาได้ยินเสียงนี้ทุกวัน เสียงของผู้เป็นที่รักของเขา
จากนั้น ฉินสือโอวก็รู้สึกถึงมือเล็กเลื่อนจากหน้าผากไปกุมมือของเขาแทน วินนี่บีบมือฉินสือโอวเบาๆ แล้วพูดว่า “ผ่อนคลายนะ ที่รัก หายใจเข้าลึกๆ มา หายใจเข้าออกตามที่ฉันบอกนะ และคุณลองดูนึกว่า ตอนนี้คุณอยู่ในเรือลำหนึ่ง เรือโคลงเคลงเล็กน้อย นั่นก็เพราะว่าคลื่นซัดเข้ามายังเรือของเรา ลองนึกภาพว่า บนหัวของคุณเป็นท้องฟ้าสวยงาม รอบๆ ตัวคุณเป็นทะเลสีคราม…”
“ที่รัก ผมรู้สึกคลื่นไส้!” ฉินสือโอวพยายามที่จะคิดถึงภาพท้องทะเล แต่มันไม่ค่อยได้ผลนัก
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา พ่อแม่ของฉินสือโอวหัวเราะอยู่ข้างๆ เขา เถียนกวาและซีกวาที่เริ่มหยุดร้องไห้แล้วก็หัวเราะเยาะเขาเช่นกัน
วินนี่ก็แอบหัวเราะออกมาเบาๆ เธอเข้าไปกอดเขาและกระซิบบอกรักเขาเบาๆ ที่ข้างหู กลิ่นหอมอันคุ้นเคยลอยเข้ามาในจมูกของเขา เป็นหอมของดอกไม้ในงานเทศกาลบ๊ะจ่างที่บ้านของเขา
กลิ่นแห่งความสง่างาม และหวานหอมยังคงอยู่เหมือนเดิม
ฉินสือโอวลืมตาขึ้นช้าๆ เขาเห็นดวงตาของวินนี่ที่มองเขาอย่างอ่อนโยน และก้อนเมฆสีขาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
เมฆสีขาวทอดยาวไปไกลจนสุดลูกหูลูกตา
ก่อนที่ความเร็วเช่นนี้จะหายไป เขายังมีเวลาอยู่ ครั้งแรกที่เขาจับมือทั้งสองข้างนี้เป็นครั้งแรก เส้นทางแห่งความลึกลับของชีวิตก็พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น
ตอนนี้ นี่ก็ยังคงเป็นจุดเริ่มต้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ต่างออกไป ก่อนหน้านี้คือจุดเริ่มต้นของวัยรุ่น ต่อจากนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตวัยกลางคน…
ลาก่อน ช่วงวัยเยาว์ของฉัน!
ลาก่อน เวลาในช่วงวัยเยาว์!
ลาก่อน ผู้คนที่คอยมาสร้างความวุ่นวายให้ฉันทุกคืน!
ลาก่อน เกาะแแฟร์เวลของฉัน!
………………………….
Related