ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 3 ความมืดของเพื่อนสมัยเด็ก(NTR)
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 3 ความมืดของเพื่อนสมัยเด็ก(NTR)
—มุมมองของมิยูกิ (เพื่อนสมัยเด็ก)—
ฉันกลายเป็นคนนอนไม่หลับ นั่นก็เพราะเขา…เพื่อนสนิทที่ฉันรักที่สุด เห็นฉันกำลังนอกใจ เขาเห็นทุกอย่าง… ฉันไม่รู้เลยว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาสำคัญที่สุดแท้ๆ
ผ่านมาไม่กี่วันแล้วหลังจากที่เราต้องเลิกกัน ฉันจะหลับไปก็ช่วงเช้ามืด แต่ก็ตื่นขึ้นมาแทบจะทันที ตั้งแต่วันนั้นฉันก็เป็นแบบนี้ตลอดมา
ฉันแอบหวังว่าเรื่องในวันนั้นอาจเป็นเพียงแค่ความฝัน รอให้ฉันตื่นจากฝันร้ายนี้ แล้วกลับไปสู่ชีวิตปกติ แต่ข่าวลือที่รุ่นพี่คนหนึ่งพูดถึง มันกลับกระจายไปทั่วโรงเรียน จนทำให้ฉันต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้าย
ฉันไม่อยากเลิกกับเขา ถ้ารุ่นพี่คนนั้นไม่อยู่ ฉันคงได้วิ่งไปหาเขาและอ้อนวอนให้อภัยแล้ว
ตอนที่เห็นข้อความบนโต๊ะของเออิจิ ฉันก็แทบจะร้องไห้ออกมา แต่ฉันต้องห้ามตัวเองไว้ ฉันจะร้องไห้ไม่ได้
แรกเริ่ม ฉันก็แค่เล่าให้เพื่อนรู้ความสัมพันธ์ของเราที่ดูเหมือนจะไม่คืบหน้า แต่ยังมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เพื่อนของฉันกลับคิดว่าฉันมีปัญหาในเรื่องนี้ วันหนึ่งเธอเรียกฉันไปหาแล้วแนะนำให้รู้จักกับรุ่นพี่คอนโดะที่มีประสบการณ์ในเรื่องความรัก
ถึงฉันจะบอกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก” แต่เพื่อนก็บอกว่า “แหม ไหนๆ รุ่นพี่ก็จะมาช่วยฟังแล้ว ทำไมไม่ลองปรึกษาดูล่ะ รุ่นพี่คนนี้เก่งมากเลยนะ เป็นเอซของชมรมฟุตบอล และยังได้สิทธิพิเศษในการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ไม่บ่อยนะที่จะได้คุยกับคนแบบนี้” สุดท้ายฉันก็ยอมไปนั่งดื่มชาเพื่อฟังเฉยๆ
เขาเป็นคนสุภาพและเป็นผู้ใหญ่ ต่างจากเราที่เป็นแค่เด็กวัยรุ่น ฉันจึงเริ่มรู้สึกประทับใจ
※
“เธอน่ารักขนาดนี้ ใครจะไม่รู้สึกหลงใหลในตัวเธอล่ะ”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันคงเดินหน้าไปนานแล้ว… ล้อเล่นนะ ล้อเล่น”
“อยากดื่มอะไรอีกไหม? เดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้”
“เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากนะ ฉันคิดว่าเพื่อนสนิทของเธอน่าจะรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง”
※
เขาปฏิบัติกับฉันราวกับเป็นเจ้าหญิงและคอยเอาใจใส่ ทำให้ฉันลดความระวังตัวลง
ฉันแลกไลน์กับเขา ปรึกษาเรื่องความรักหลายครั้ง จนถึงขั้นให้เขาช่วยเลือกชุดสำหรับเดท ซึ่งเขาชมฉันและเพิ่มความมั่นใจให้ฉันทุกครั้ง
จากที่เคยปรึกษาเรื่องความรักและไปช้อปปิ้งเพื่อหาเสื้อผ้าสำหรับเดท มันเริ่มกลายเป็นข้ออ้างไปทีละนิด ทีละน้อย สุดท้ายมันก็แทบจะเหมือนการไปเดทกับเขา
หลังจากเดทครั้งที่สาม เรานั่งอยู่ริมทางข้างฝั่งที่มองเห็นพระอาทิตย์ตก เขาก็จูบฉัน ฉันที่เริ่มมีความรู้สึกกับเขา ไม่ได้ขัดขืนอะไร และเปิดใจยอมรับเขา จากนั้นฉันก็ตกอยู่ในวังวนแห่งความปรารถนา
สิ่งที่ตั้งใจจะให้เออิจิ กลับถูกแย่งไปโดยรุ่นพี่อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าฉันรู้สึกผิด แต่…
“มิยูกิจังไม่ผิดหรอก คนที่ไม่ทำอะไรคือเขาต่างหากที่ผิด”
“ความผิดเป็นของผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องต่างหาก”
คำพูดเหล่านั้นเหมือนเปิดทางให้ฉันทำในสิ่งที่ผิดได้ ฉันเริ่มเสพติดความรู้สึกผิดนี้จนกลายเป็นเครื่องปรุงที่ทำให้การเจอกับเขามีรสชาติ ฉันเริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองที่แอบไปเจอกับเขา แต่มันก็ถูกกลบไปด้วยความเอาใจใส่ของเขา ฉันคงเป็นเหยื่อที่ดีของเขา
แม้ฉันจะรู้สึกตัวว่าถูกเขาหลอก แต่ฉันก็ไม่สามารถถอนตัวจากความสัมพันธ์นี้ได้
※
“นี่ วันที่ 28 สิงหาคม ชมรมฉันว่างพอดี ไปเที่ยวกันไหม?”
“แต่ว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของเขา…”
“งั้นไม่เป็นไร ฉันจะไปชวนคนอื่นแทน”
“อะไรนะ…”
“ก็เข้าใจนะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ฉันรู้สึกว่าตัวฉันแทบจะไม่มีอยู่ในใจเธอเลย เธอเอาแต่ให้ความสำคัญกับเออิจิ ฉันก็เหนื่อยแล้วล่ะ ฉันอาจไม่ควรพูดแบบนี้ แต่เราควรจบความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดนี้เถอะ มันคงจะดีกับเราทั้งคู่”
※
ฉันยังจำข้อความนั้นได้ วันที่ฉันยกเลิกเดทวันเกิดของเออิจิ ข้อความที่กลายเป็นทางแยกในชีวิตของฉัน
สุดท้าย ฉันเลือกไปหาเขาแทนเออิจิ
คิดว่าเออิจิคงจะเข้าใจ คิดว่าถ้าฉันขอโทษ เขาคงยอมให้อภัย แต่กับรุ่นพี่ ฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีก มันทำให้ฉันตัดสินใจที่ผิดไปเพราะความกลัวจนต้องไปพึ่งพารุ่นพี่
ฉันใช้ความสัมพันธ์ที่เคยแน่ใจว่าจะอยู่กับเออิจิ เพื่อนสนิทของฉันมากว่า 10 ปี แน่ใจว่าจะได้แต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกัน แต่มันก็มีเสียงในใจว่า
“ถ้ารุ่นพี่หายไป ฉันก็จะมีแค่เอจิผู้ชายคนเดียวที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ? แค่นั้นเองเหรอ?”
ความปรารถนาและความภูมิใจในตัวเอง ความต้องการที่อยากจะเป็นผู้หญิงที่มีตัวเลือกหลายๆ ทาง มันทำให้เออิจิต้องเจ็บปวด และการรักษาหน้าของฉันเองก็ผลักเขาไปสู่ความสิ้นหวังมากขึ้น
ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจลบเลือนมันกำลังกัดกินจิตใจของฉัน
TLN: เพราะงั้น จะทำอะไรคิดดีๆนะครับ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ