ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 218 วันที่ฝนตก
—มุมมองของอิจิโจ ไอ—
“ปล่อยฉันลงตรงนี้”
ฉันบอกคุโรอิให้หยุดรถก่อนถึงร้านอาโอโนะคิทเช่น แม้ยังมีระยะอีกพอสมควรกว่าจะถึง
“แต่จากตรงนี้ต้องเดินไปอีกไกลนะครับ”
ฉันรู้ดี แต่ฉันต้องการเวลาสักนิดเพื่อจัดการกับความรู้สึกในใจ ก่อนจะกลับไปยังสถานที่ที่อบอุ่นนั้น
“ขอเถอะค่ะ ฉันอยากสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย และตั้งสติ”
“เข้าใจแล้วครับ”
ฉันก้าวลงจากรถช้า ๆ สัมผัสได้ถึงอากาศที่ยังคงร้อนอบอ้าวเหมือนฤดูร้อน
ท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง ทุกคนรอบตัวเดินกันอย่างมีความสุข มีเพียงฉันเท่านั้นที่เดินด้วยใบหน้าหม่นหมอง
พ่อผู้เคยใจดี กับพ่อในวันนี้ ช่างแตกต่างจนเหมือนเป็นคนละคน ฉันกลัวว่าตัวเองจะต้องอยู่เพียงลำพัง ฉันไม่อยากโดดเดี่ยว ฉันจึงมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ฉันมั่นใจว่าจะมีคนต้อนรับฉันด้วยความอบอุ่น
แต่เพื่อไม่ให้ใครเป็นห่วง ระหว่างทาง ฉันต้องปรับความรู้สึกของตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้
รีบสิ กลับมาเป็นตัวเองเร็ว ๆ
ความรู้สึกสับสนทำให้ฉันเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า
หยดน้ำฝนเริ่มตกลงมา เปียกเส้นผมของฉัน
“อ๊ะ ฝน! รีบไปสถานีกันเถอะ!”
หญิงสาวข้าง ๆ ส่งเสียงเบา ๆ อย่างตกใจ ฉันเห็นพนักงานออฟฟิศเปิดร่มพับจากกระเป๋า
แย่ล่ะ ฉันลืมเอาร่มมา แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ฝนกลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยฉันไว้
เพราะมันช่วยซ่อนใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาให้ฉันได้
เดินไปร้องไห้ไป โดยไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมองเห็น
ฉันเหมือนเด็กที่ถูกโลกทั้งใบทำร้าย
ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้?
ฉันเป็นลูกที่ดีมาโดยตลอด ไม่เคยทำให้พ่อแม่เดือดร้อน ฉันยอมอดทนเพราะพวกเขาต่างก็ยุ่งวุ่นวาย ฉันพยายามหนักมากเพราะอยากให้พวกเขาภูมิใจ แต่ทำไมฉันถึงต้องถูกกลั่นแกล้ง? ทำไมฉันถึงต้องอยู่ห่างจากพ่อที่ฉันอยากให้อยู่ข้าง ๆ?
ความรู้สึกในใจระเบิดออกมา ความมืดเริ่มก่อตัวในใจของฉัน
หัวใจที่เคยสงบหลังจากได้พบกับรุ่นพี่กลับสั่นไหวอีกครั้ง
ฉันอยากเจอเขา… อยากเจอเขา… อยากเจอเขา…
ในวินาทีที่ฉันอ้อนวอนในใจ ฝนที่ตกหนักกลับหยุดกระทบตัวฉัน
เสียงฝนกระทบกับผ้าร่มอยู่เหนือหัว ทำให้ฉันรู้ว่ามีใครบางคนกางร่มให้
ฉันหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว เห็นคนที่ฉันรักที่สุดยืนอยู่ตรงหน้า เขามองฉันด้วยสีหน้ากังวล มืออีกข้างถือถุงใส่ของที่ซื้อมาจากร้าน
“ทำไมถึงมาเดินตากฝนแบบนี้ล่ะ?”
“รุ่นพี่… ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่คะ?”
“แม่บอกว่าเราน่าจะขาดผักกาดหอมสำหรับสลัดเลยให้ฉันออกมาซื้อเพิ่ม ตอนนี้กำลังจะกลับ”
เขายังอยู่ในชุดนักเรียน ไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เป็นภาพที่ฉันคุ้นเคยดี
“อย่างนี้เอง”
ราวกับเด็กหลงทางที่เจอพ่อแม่ ฉันเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ความโกรธที่ฉันมีต่อพระเจ้าหายไปเมื่อฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอเขาในเวลานี้
ทุกครั้งที่เราเจอกัน มันเหมือนถูกกำหนดไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เธอร้องไห้หรือเปล่า?”
คำถามนั้นทำฉันสะดุ้ง
“ไม่ได้ร้องค่ะ ก็ฝนตกนี่ไง”
คำแก้ตัวของฉันไร้เหตุผลจนเขาหัวเราะออกมา แล้วตอบกลับมาด้วยคำเดียวกันกับที่ฉันพูดเมื่อครู่ว่า “อย่างนั้นเหรอ”
เขารู้อยู่แล้วว่าฉันไปกินข้าวกับพ่อวันนี้ และคงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอาเถอะ ไปที่บ้านฉันก่อน เดี๋ยวจะเป็นหวัดแบบนี้ ทานข้าวมาแล้วใช่ไหม?”
“ค่ะ ทานแล้ว”
“งั้นก็ไปดื่มชาอุ่น ๆ กันเถอะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนฉันเผลอตอบกลับไปว่า “ค่ะ”
ภายใต้ร่มคันนั้น ฉันรู้สึกว่าตัวเองที่กำลังจะพังทลายกลับมามั่นคงอีกครั้ง
เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ แม้มันจะเปียกฝนในไม่ช้า แต่น้ำใจของเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกดี
“เหมือนวันแรกที่เราเจอกันเลยนะคะ วันนั้นก็ฝนตกเหมือนกัน แล้วฉันก็ยืมผ้าเช็ดตัวจากรุ่นพี่”
“ใช่ ตอนนั้นเธอยังไม่แต่งตัวสวยเท่านี้เลย แต่ชุดนี้แพงใช่ไหม? จะดีเหรอ?”
“แพงค่ะ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นค่าเรียนรู้” ฉันพูดอย่างดื้อ ๆ แต่แล้วก็จามออกมาเพราะความหนาว
เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้ฉันทันที
“ฉันช่วยอะไรไม่ได้มาก นี่คือทั้งหมดที่ฉันทำได้”
เขาพูดอย่างเขินอาย
“แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้วค่ะ”
ฉันรับไออุ่นและกลิ่นหอมจากตัวเขา พลางยิ้มอย่างมีความสุข แล้วเราสองคนก็เดินไปด้วยกันอย่างช้า ๆ