ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 197 สองคนในโรงหนัง
หนังเริ่มฉาย วันนี้เป็นภาพยนตร์สั้น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เหมือนครั้งก่อน ฉันตั้งใจจะจองที่นั่งล่วงหน้า แต่ก็ถูกอิจิโจซังขัดไว้
“ครั้งก่อนพี่เป็นคนเลี้ยง ครั้งนี้ถึงตาฉันค่ะ”
ทันทีที่เราตกลงนัดกัน เธอก็ก้มหน้ากดสมาร์ทโฟน จองที่นั่งทุกอย่างเรียบร้อย
“ถ้าอย่างนั้น ขอบคุณสำหรับตั๋วนะ เดี๋ยวป๊อปคอร์นกับเครื่องดื่มฉันจัดการเอง”
เธอไม่ยอมให้ฉันจ่ายค่าตั๋ว จึงตกลงกันว่าฉันจะเป็นฝ่ายซื้อขนมแทน
“รุ่นพี่นี่นะ…”
“ก็นะ ให้รุ่นน้องเลี้ยงหมดมันก็เกินไปหน่อย”
เธอยิ้มอย่างมีความสุข ฉันเลือกป๊อปคอร์นคาราเมลกับชาเย็นใส่น้ำเชื่อม 1 ช็อต เป็นสิ่งที่เธอเลือกครั้งก่อน ฉันจำได้ว่าเธอชอบคาราเมล และเป็นคนที่ชอบดื่มชาแทนกาแฟ การไปคาเฟ่ด้วยกันหลายครั้งทำให้ฉันรู้ว่าเธอชอบขนมหวานที่มีผลไม้หรือซอสคาราเมล
“รุ่นพี่จำรสนิยมของฉันได้หมดเลยนะคะ…”
“หรือว่าคราวนี้อยากลองอย่างอื่น?”
“ไม่เลยค่ะ ดีใจต่างหากที่รุ่นพี่จำได้ รุ่นพี่นี่เก่งนะคะ ทำให้ผู้หญิงดีใจโดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะการสอนของคุณแม่หรือเปล่าคะ?”
แม่ฉันเคยสอนมาแบบนั้นจริง ๆ แต่ฉันก็ได้แค่ยิ้มเขิน ๆ
“อีกอย่าง ฉันก็ชอบเซ็ตคู่นี้นะคะ ครั้งก่อนเห็นว่าพี่ลังเลเลยเลือกเซ็ตครึ่ง ๆ แต่คราวนี้ดูมั่นใจขึ้น”
เธอช่างสังเกตจริง ๆ ไม่แปลกเลยที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนหญิงที่ฉลาดที่สุดในโรงเรียน
ต่างจากเซ็ตครึ่ง ๆ เซ็ตคู่จะเพิ่มขนาดป๊อปคอร์น 50% แต่เลือกได้แค่รสเดียว และฉันก็มั่นใจว่าอิจิโจซังที่ชอบของหวานสามารถกินหมดแน่นอน
การเลือกเซ็ตคู่นี้ได้แสดงถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของฉันด้วย การออกเดทกับรุ่นน้องสาวที่ไม่ใช่แฟนแล้วต้องเลือกเซ็ตคู่หรือที่นั่งคู่รักไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียนชายมัธยมปลาย
“ได้เวลาเข้าโรงหนังแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันอดใจไม่ไหว ขอชิมก่อนหนึ่งเม็ด”
เธอพูดพร้อมหยิบป๊อปคอร์นคาราเมลหนึ่งเม็ดใส่ปาก ใบหน้าที่เปื้อนความสุขแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความเขิน
“รุ่นพี่คะ ไปกันเถอะนะคะ เดทดูหนังแบบจริงจัง ฉันตั้งตารอเลยค่ะ”
เธอกอดถังป๊อปคอร์นใบใหญ่ไว้แน่นก่อนจะเดินเข้าประตูโรงหนังไป ฉันจึงรีบตามไป
—————
ความงดงามของภาพบนจอทำให้ฉันเผลอจ้องอย่างลืมตัว
หนังเรื่องนี้มีฉากฝนตกเยอะ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกหม่นหมอง ตรงกันข้าม มันกลับถ่ายทอดความงามของธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง
“สวยจัง…”
ฉันเผลอหันไปมองอิจิโจซัง เธอกำลังมองจอด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
ในขณะที่เรื่องราวดำเนินเข้าสู่จุดสำคัญ ตัวเอกทั้งสองต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่หลวง ฉันตั้งใจจะจมดิ่งไปในเรื่อง แต่กลับรู้สึกเย็นที่หลังมือ
นิ้วมือเล็ก ๆ ของอิจิโจซังกำลังแตะมือฉัน
มือของเธอดูบอบบางราวกับจะแตกหักได้ง่าย
อิจิโจซังคงอินกับเรื่องราวในหนังที่ตัวละครพยายามต่อสู้กับชะตากรรมที่โหดร้าย
ฉันมองเธอ เธอเหลือบมองกลับมาอย่างกังวล แต่ในแววตานั้นยังเต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่น
‘ได้โปรด อย่าปล่อยมือฉัน’
แม้เธอไม่ได้พูด แต่สายตาของเธอเหมือนตะโกนคำนี้ออกมา
ฉันจึงพยักหน้าช้า ๆ ด้วยความมั่นใจ
มือข้างขวาของเธอถูกฉันจับไว้แน่น ความเย็นของมือเธอค่อย ๆ อุ่นขึ้น
‘ขอบคุณนะคะ รุ่นพี่’
แม้ไม่มีเสียง แต่ฉันรับรู้ได้ว่าเธอคิดเช่นนั้น
เราสองคนจับมือกันจนกระทั่งหนังจบ ไม่มีใครปล่อยมืออีกฝ่ายเลย