ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 193 ชมรมวรรณกรรมที่โง่เขลา
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 193 ชมรมวรรณกรรมที่โง่เขลา
— มุมมองของทาคายานางิ —
วันถัดมา
เรื่องของทาจิบานะ ฉันปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนฉันเองก็สอบถามสมาชิกชมรมวรรณกรรมที่เหลือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้วยความที่ข่าวของทาจิบานะแพร่กระจายไปทั่ว สมาชิกส่วนใหญ่ของชมรมยอมรับความผิดโดยง่าย พวกเขาต่างสารภาพถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ตามที่คาดไว้ การกลั่นแกล้งอาโอโนะถูกดำเนินการภายใต้การชี้นำของทาจิบานะ และมีสมาชิกชมรมหลายคนมีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเขาสารภาพว่าทำลายของใช้ส่วนตัวและต้นฉบับงานเขียนของอาโอโนะ คำพูดของพวกเขาทำให้ฉันรู้สึกขมขื่นจับใจ ทำไมมนุษย์ถึงอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้?
เมื่อจิตวิทยาหมู่ทำงาน ทุกคนก็สามารถทำสิ่งที่โหดร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ นักเรียนที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กดีและขยันเรียนกลับกลายเป็นคนที่อ่อนไหวต่อแรงกดดันของกลุ่ม บางทีเด็กพวกนี้อาจกลัวการถูกขับออกจากกลุ่มจนต้องยอมทำตาม
ไม่อยากจะเชื่อเลย…
ทำลายศักดิ์ศรีของผู้อื่น เพียงเพราะคิดว่า “ทุกคนก็ทำกัน”
ทำไมพวกเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นการกระทำที่ขี้ขลาดและไร้มนุษยธรรม? ทั้งที่อยู่ในวัยมัธยมปลายแล้วแท้ ๆ
ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเป็นความล้มเหลวของการศึกษา
แต่ในฐานะผู้ที่มีหน้าที่สอน ฉันไม่สามารถยอมแพ้ต่อความสิ้นหวังนี้ได้
—————
ฉันเรียกมัตสึดะ หนึ่งในสมาชิกชมรมที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์นี้ให้มาพบ
“เข้ามาได้”
ฉันเรียกเธอมาที่ห้องปกครอง โดยมีอาจารย์มิซึอิมาด้วยเพื่อเป็นพยาน
มัตสึดะเข้ามาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ร่างกายของเธอสั่นจนเห็นได้ชัด
“ขอโทษค่ะ…”
เธอพึมพำคำขอโทษเสียงเบาเหมือนเสียงยุงบิน
“คนที่เธอควรขอโทษไม่ใช่พวกเรานะ”
อาจารย์มิซึอิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง มัตสึดะได้แต่ก้มหน้าด้วยความละอาย
“เธอคงรู้ว่าเราต้องการถามอะไร” ฉันเริ่มต้นด้วยคำถามตรงประเด็น
“ชมรมวรรณกรรมของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งอาโอโนะ เออิจิ พวกเธอซ่อนของใช้ส่วนตัวและทำลายต้นฉบับของเขา เธอยอมรับเรื่องนี้ไหม?”
มัตสึดะตัวสั่นจนพูดไม่ออก
“…”
“ฉันได้ยินมาว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับคนในชมรมฟุตบอลอย่างคอนโดะ นี่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดใช่ไหม?”
มัตสึดะยังคงเงียบ
“สมาชิกคนอื่น ๆ ได้ให้การแล้ว ได้โปรดอย่าโกหก”
เธอยังคงสั่นด้วยความกลัว
“เธอมีความแค้นอะไรกับอาโอโนะหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ… แค่ทุกคนรังแกเขากันหมด ฉันเลยทำตาม…”
นั่นแหละ คำตอบที่ฉันได้ยินจากคนอื่น ๆ เช่นกัน พวกเขาบอกว่า “ก็เพราะทุกคนทำ ฉันเลยคิดว่าไม่เป็นไร”
“อย่างนั้นหรือ”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นหัวโจกนะคะ ฉันแค่ทำตามคำสั่งของหัวหน้าชมรมกับคุณคอนโดะเท่านั้น”
คำแก้ตัวแบบนี้ ฉันคาดไว้แล้ว ฉันถึงได้เลือกที่จะสอบถามเธอเป็นคนสุดท้าย
“แต่สมาชิกคนอื่นให้การแบบนี้”
—————
“ไม่เป็นไรหรอก อาโอโนะมันแย่มาก”
“เขาเป็นศัตรูกับผู้หญิง”
“ผู้ชายแบบนั้น ตายไปยังดีกว่า”
—————
ฉันเล่าคำให้การเหล่านี้ให้เธอฟัง ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมอันเลวร้ายของทาจิบานะเริ่มแพร่กระจาย ทำให้สมาชิกส่วนใหญ่ยอมเปิดปากพูด
มัตสึดะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นก็ทรุดลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ฟังให้ดีนะ ไม่มีใครมีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของคนอื่นได้ เพียงเพราะคิดว่า ‘ทุกคนทำกัน’ แล้วจะทำลายศักดิ์ศรีของผู้อื่นได้ นั่นเป็นการกระทำที่ต่ำทรามที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้”
ฉันบอกเธอไปตรง ๆ แต่มัตสึดะกลับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ทำไมกันล่ะ… ฉันเชื่อคนอื่นแท้ ๆ แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้…”
ดูเหมือนเธอยังไม่เข้าใจถึงความหนักหนาของความผิดที่ตัวเองทำ
“ไม่มีข้ออ้างอะไรที่ทำให้การทำร้ายคนอื่นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้”
เธอยังมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์การโจมตีโดยกลุ่มชมรมฟุตบอล ซึ่งเป็นความผิดที่ร้ายแรงที่สุดในชมรมวรรณกรรม
“ไม่จริง… ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย ฉันแค่…”
ฉันไม่อาจทนฟังคำกล่าวโทษตัวเองแบบไร้จุดหมายของเธอได้อีกต่อไป
“เธอเคยคิดไหมว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งจะรู้สึกอย่างไร? โดยเฉพาะอาโอโนะที่ต้องทนรับข้อกล่าวหาเท็จเพราะพวกเธอ?”
มัตสึดะร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น คล้ายกับว่าความหนักหนาของความผิดกำลังถาโถมเข้าใส่เธอโดยไม่มีทางหลีกหนี