ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 187 หัวหน้าชมรมที่เต้นรำบนรองเท้าเหล็ก
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 187 หัวหน้าชมรมที่เต้นรำบนรองเท้าเหล็ก
―มุมมองของทาคายานางิ―
ฉันได้รับการแจ้งจากมิตซึดะเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด และบุกเข้าไปในห้องชมรมวรรณกรรมเพื่อเผชิญหน้ากับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ฉันรู้ข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่แล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาจบเรื่องราวที่ยืดเยื้อนี้เสียที ทาจิบานะ
“ไม่! ไม่ใช่! ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด! ฉันถูกมัตสึดะกับมิตซึดะหลอก! ฉันไม่รู้อะไรเลย ฉันแค่โดนลากเข้ามาเกี่ยว!”
ทาจิบานะร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับดิ้นรนปฏิเสธอย่างสิ้นหวัง
มัตสึดะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้แต่ตกตะลึง “หัวหน้าชมรม คุณกำลังพูดอะไรอยู่?” สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความสับสน
ภาพของทาจิบานะในตอนนี้ทำให้ฉันนึกถึงแม่เลี้ยงใจร้ายในนิทานเรื่อง สโนว์ไวท์ ที่ถูกเปิดโปงความผิดทั้งหมด และต้องใส่รองเท้าเหล็กร้อนแดงเต้นรำจนเสียชีวิตในท้ายที่สุด
พฤติกรรมที่ไม่น่ามองของทาจิบานะในตอนนี้เหมือนกับตัวร้ายในนิทานนั้นทุกประการ
มัตสึดะที่ได้เห็นภาพเช่นนี้จะต้องพังทลายลงง่าย ๆ แน่นอน
ทาจิบานะเองก็ดูเหมือนไม่รู้ตัวว่า พฤติกรรมพยายามเอาตัวรอดอย่างสิ้นหวังของเธอนี้กำลังทำลายตัวเองไปทีละน้อย
“เอาล่ะ ใจเย็น ๆ แล้วคุยกันให้เรียบร้อย ทาจิบานะ เธอไปที่ห้องแนะแนว ส่วนมัตสึดะไปที่ห้องพยาบาล”
ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องของทาจิบานะเอง
—————
―ห้องแนะแนว―
“ฉันจะถามตรง ๆ เลย ทาจิบานะ เรื่องการลอบทำร้ายอิเคโนบุ เอริ รวมถึงการที่อาโอโนะ เออิจิ ถูกกลั่นแกล้งเป็นฝีมือของเธอใช่ไหม?”
ทาจิบานะยังดูตกใจไม่หาย แต่เริ่มสงบลงเล็กน้อย
“ไม่ค่ะ เรื่องนี้เป็นเพราะมัตซึดะต่างหาก เธอแค่คุมตัวเองไม่ได้ โรงเรียนเองก็มีส่วนที่กดดันเธอจนเกินไป เธอเริ่มทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่ที่ชมรมวรรณกรรมถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งแล้ว”
นั่นสินะ เธอเลือกที่จะอ้างแบบนี้
“แล้วเรื่องต้นฉบับของอาโอโนะที่ถูกขโมยหายไปอย่างเจาะจงล่ะ?”
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่เกี่ยวค่ะ แต่ถ้าให้เดา ฉันคิดว่ามีคนที่น่าสงสัยสองคนในชมรม”
“หืม?”
“คนแรกคือนักเรียนปีหนึ่ง คุณฮายาชิ เธอไม่มาชมรมตั้งแต่ก่อนที่เรื่องของอาโอโนะจะถูกเปิดโปง น่าสงสัยไหมล่ะคะ?”
“…”
คำพูดของเธอช่างเห็นแก่ตัวจนฉันถึงกับพูดไม่ออก
เธอคงคิดว่าฉันยอมแพ้แล้ว เลยพูดต่อด้วยความมั่นใจ
“ส่วนอีกคนคือมัตสึดะค่ะ ฉันบอกไปแล้วว่าเธอเริ่มมีพฤติกรรมและอาการแปลก ๆ ตั้งแต่ที่โรงเรียนเริ่มสอบสวนเรื่องนี้ คิดดูสิคะ ถ้าไม่มีคนในชมรมคอยช่วยเหลือ มันจะมีใครสามารถขโมยต้นฉบับของเขาได้แบบนั้นล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามปิดปากอาโอโนะและโยนความผิดให้คนอื่น
การแถของเธอนั้นดูเจ้าเล่ห์และมีชั้นเชิงพอสมควร หากเราไม่มีการเตรียมพร้อมมาก่อน คำพูดนี้อาจทำให้สถานการณ์เอียงไปทางเธอก็ได้
“แล้วคำให้การของมิตซึดะล่ะ เธอจะพูดอะไรกับเรื่องนี้?”
“มิตซึดะเองก็มีปัญหากับคอนโดะอยู่แล้ว เขาอาจจะพยายามดึงฉันกับมัตสึดะลงไปด้วยก็ได้ค่ะ เขาเพิ่งพูดเองว่าเขาไม่ได้ถือว่าชมรมฟุตบอลเป็นเพื่อน ดังนั้นคำพูดของคนที่หักหลังเพื่อนได้อย่างง่ายดายแบบนั้น น่าเชื่อถือจริงหรือคะ?”
ช่างเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายที่ดุเดือดจริง ๆ
“โอเค ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอพยายามจะบอกแล้ว”
“ใช่ค่ะ ถ้าคิดจะสงสัยฉันก็เอาหลักฐานมาสิ ถ้าไม่มีล่ะก็ ฉันก็คือเหยื่อที่ถูกใส่ร้ายแบบเดียวกับอาโอโนะเหมือนกันนะคะ และถ้าจะกดดันฉันมากกว่านี้ ฉันก็จะขอใช้สิทธิ์ป้องกันตัวอย่างเต็มที่”
เธอเข้าใจผิดว่าตัวเองได้เปรียบ และพยายามข่มขู่โรงเรียน
แต่สถานการณ์นี้กลับเป็นสิ่งที่ฉันรอคอย
เมื่อคนที่เคยตั้งรับเริ่มโจมตี จะเป็นช่วงที่เขาป้องกันตัวน้อยที่สุด และนี่คือโอกาสที่จะตอบโต้
“แล้วเธอจะอธิบายข้อความสนทนาเหล่านี้ยังไงดีล่ะ? พวกตำรวจเพิ่งกู้ข้อมูลจากมือถือของคอนโดะมาได้ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่เธอคุยกับคอนโดะใน SNS”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทาจิบานะเปลี่ยนไปในทันที เธอซีดเผือดราวกับเห็นผี
เสียงพึมพำเบา ๆ ของเธอที่พูดว่า “เป็นไปไม่ได้…” พร้อมกับตัวสั่นราวกับเต้นรำในจังหวะสุดท้ายของชีวิต บ่งบอกว่าการต่อสู้ของเธอได้จบลงแล้ว…