ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 175 เส้นทางสู่ความหายนะ
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 175 เส้นทางสู่ความหายนะ
―มุมมองของหัวหน้าทาจิบานะ―
ฉันติดต่อเพื่อนเก่าสมัยมัธยมต้นไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน เพราะฉันไม่สามารถพึ่งพาคอนโดะแค่คนเดียวได้ จึงมีอีกหนึ่งช่องทางสำรองไว้
“สวัสดี”
เสียงต่ำและน้ำเสียงที่เชื่องช้า
“ทาจิบานะเอง นานแล้วนะ มิตสึดะคุง สบายดีหรือเปล่า?”
มิตสึดะคุงเป็นเพื่อนของคอนโดะคุงตั้งแต่มัธยมต้น สมัยนั้นเขาโดนคอนโดะคุงปฏิบัติเหมือนคนใช้ ดีที่ฉันบันทึกเบอร์เขาไว้เผื่อใช้ได้ในตอนนี้
“อา…อืม”
แน่นอนว่าเขาเองก็ถูกพักการเรียนเพราะเรื่องของชมรมฟุตบอล และเพราะเขาสนิทกับคอนโดะคุงเป็นพิเศษ ตำแหน่งของเขาคงจะลำบากน่าดู ฉันจึงคิดว่าเขาน่าจะถูกฉันปั่นหัวได้ง่าย
“คือว่าฉันมีเรื่องใหญ่จะเล่าให้นายฟัง…นายจำอิเคโนบุ เอริ ได้ไหม?”
“อา จำได้สิ เธอเป็นแฟนเก่าของคอนโดะใช่ไหม?”
“ใช่ เธอนั่นแหละ เธอเหมือนจะคิดแก้แค้นเรื่องที่ถูกคอนโดะคุงทิ้ง เธอเลยตั้งใจจะไปบอกครูเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ น่ะสิ”
“หา!?”
เขาตกใจจนเผลอหลุดปาก
“เธอ…ดูเหมือนว่าพ่อแม่จะตัดขาดจากเธอเพราะเธอเคยคบกับคอนโดะคุง ตอนนี้เธอก็เลยโทษว่าคอนโดะคุงเป็นต้นเหตุของชะตากรรมอันน่าสังเวชของตัวเอง และอยากลากทุกคนลงนรกไปด้วยกัน เธอบอกว่าจะโยนความผิดเรื่องกลั่นแกล้งให้กับพวกเราที่เรียนมัธยมต้นด้วยกัน แล้วตอนนี้ชมรมวรรณกรรมก็กำลังโดนครูสอบสวนเพราะคำโกหกของเธอ…ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ในฐานะหัวหน้าชมรม ฉันไม่สามารถปกป้องสมาชิกชมรมได้เลย”
ฉันแสร้งทำตัวเหมือนคนมีคุณธรรม และพูดปลุกความกลัวในใจเขาให้ลุกลามไปเรื่อยๆ พวกชมรมฟุตบอลที่กำลังกลัวว่าจะถูกพักการเรียนหรือลงโทษหนักกว่านั้นย่อมต้องสั่นคลอน
“แล้ว…แล้วเธอพูดอะไรเกี่ยวกับชมรมฟุตบอลบ้าง?”
“ฉันไม่ได้ฟังรายละเอียด แต่เธอบอกว่า ถ้าต้องลงนรก ก็จะลากคนไปด้วยให้มากที่สุด”
แค่นั้นก็พอจะกระตุ้นความกลัวให้แพร่กระจายได้ ชมรมฟุตบอลที่มีความผิดติดตัวอยู่แล้วต้องยิ่งหวาดวิตก
“บ้าเอ๊ย ถ้าถูกทำแบบนั้น พวกเราคงไม่รอดแน่”
ฉันรู้ดีว่าเขาและพวกไม่มีทางหนีจากความกลัวแบบนี้ ฉันแค่ต้องทำให้พวกเขาอยู่ในกำมือฉัน
“นั่นแหละ ฉันถึงโทรหานาย มิตสึดะคุง เรามาร่วมมือกันหยุดอิเคโนบุซังเถอะ ถ้าไม่ทำอะไร พวกเราคง…”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนสิ้นหวังเต็มที่ ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นที่พึ่งสุดท้าย
“ทำไมถึงเป็นฉันล่ะ…”
เขาแสดงท่าทีลังเล
“ตั้งแต่มัธยมต้น ฉันก็แอบสนใจนายนะ”
ฉันโยนคำพูดเพื่อกระตุ้นความรู้สึกดีในใจเขา พร้อมกับทำให้เขารู้สึกว่าเขาเหนือกว่าคอนโดะคุงที่เขาอิจฉามาตลอด
ทีนี้ก็เหลือแค่ให้ชมรมฟุตบอลลงมือกับอิเคโนบุซัง แบกรับความผิดทั้งหมด…
“โอเค เข้าใจแล้ว”
“งั้นคืนนี้ เรามาคุยกันเถอะ ชวนคนในชมรมฟุตบอลที่นายไว้ใจมาด้วยได้ไหม?”
เขาตอบตกลงทันที ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของฉัน ทีนี้ฉันก็แค่รอให้พวกเขาแสดงละครเรื่องสุดท้าย…
——————————
―มุมมองของเออิจิ―
“เออิจิซังคิดยังไงกับพวกชมรมวรรณกรรมเหรอคะ?”
อิจิโจซังถามด้วยความระมัดระวัง
“ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่น่าสงสารนะ”
ฉันตอบตามตรง
“น่าสงสาร?”
“ใช่ พวกเขาเหมือนจะไม่สามารถมองคนอื่นเป็นคนได้จริงๆ และเพราะแบบนั้น พวกเขาจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แม้ภายนอกจะดูเหมือนทุกอย่างราบรื่น แต่เพราะไม่สามารถเชื่อใจใครได้จริงๆ ทุกอย่างก็เลยเป็นแค่เปลือกนอก”
อิจิโจซังพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง
“ดังนั้น ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่สามารถหาความสุขที่แท้จริงได้ และเมื่อถึงจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็จะไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือพวกเขา”
ฉันเองเคยเจอสถานการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิต แต่ก็ได้ค้นพบสิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่อาจทดแทนได้ ซึ่งพวกเขาคงไม่มีวันเข้าใจ และทางที่เหลืออยู่สำหรับพวกเขาคือเส้นทางที่ลื่นไถลลงไปเรื่อยๆ
“อิจิโจซัง อย่าทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เธอสามารถพึ่งพาฉันได้เสมอเหมือนที่เธอเคยช่วยฉันไว้ ฉันก็อยากจะช่วยเธอเหมือนกัน”
เธอหน้าแดงและตอบกลับมาสั้นๆ “อื้ม”