ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 162 ทาคายานางิ ปะทะ ทาจิบานะ
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 162 ทาคายานางิ ปะทะ ทาจิบานะ
—มุมมองของทาจิบานะ หัวหน้าชมรม—
ฉันเผลอตะโกนปฏิเสธเออิจิออกไปเสียงดังลั่น ทำไมกันนะ? ทั้งที่ฉันควรจะใช้ประโยชน์จากเขาเพื่อเอาตัวรอดแท้ๆ
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมี “เส้นแบ่ง” ที่ไม่สามารถข้ามได้อยู่ในใจ
ตอนมัธยมปลาย ฉันเคยคว้ารางวัลจากการประกวดวรรณกรรมระดับประเทศ และคะแนนสอบทดลองเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นดั่งบันไดสู่การเป็นนักเขียนมืออาชีพของฉัน ก็อยู่ในเกณฑ์ A ที่มีโอกาสผ่านถึง 80% ชีวิตฉันเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ฉันเชื่อว่าตัวเองมีทั้งพรสวรรค์และความสามารถที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงได้
…จนกระทั่งฉันได้พบกับอาโอโนะ เออิจิ
หลังจากบทสนทนาเมื่อครู่นี้ ฉันก็ยิ่งแน่ใจว่าตัวเองพ่ายแพ้ต่ออัจฉริยะอย่างเออิจิโดยสิ้นเชิง
…ถ้าเกิดฉันสามารถเอาตัวรอดจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้ แล้วอะไรจะเหลือให้ฉัน?
อาจเป็นไปได้ว่าฉันยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ได้ และเขียนนวนิยายได้พอใช้ แต่ฉันจะสามารถเดบิวต์ในฐานะนักเขียนได้หรือเปล่า? และถ้าเดบิวต์ได้จริง ฉันจะก้าวขึ้นเป็นนักเขียนมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จได้ไหม?
ก่อนหน้านี้ ฉันเชื่อมั่นว่าค่อยๆ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ สักวันก็จะไปถึงจุดนั้นได้
…แต่ตอนนี้ ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะสู้กับคนอย่างอาโอโนะ เออิจิ หรือคนอื่นๆ ในระดับเดียวกันได้อีกแล้ว
ฉันรู้สึกเหมือนกลายเป็นซากศพเดินได้ ความฝันและอนาคตที่เคยเปล่งประกายกลับกลายเป็นสีดำสนิท ฉันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
ฉันเคยคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์พิเศษทางการเขียน มีความสามารถพอที่จะควบคุมคนอื่นได้ตามใจ แต่ตอนนี้…ฉันกลับต้องมานั่งถามตัวเองว่าทำไมถึงตกต่ำมาถึงจุดนี้
เสียงเปิดประตูห้องพยาบาลดังขึ้น คนที่เข้ามาคือคุณครูมิซึอิ และ…คุณครูทาคายานางิ ที่ปรึกษาของเออิจิ
คุณครูคนนี้เป็นผู้รับผิดชอบคดีการกลั่นแกล้งครั้งนี้ พูดอีกอย่างคือ เขาคือศัตรูของฉัน
แต่ดีล่ะ ฉันเองก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน
“ทาจิบานะ สภาพเธอไม่ค่อยดี ถ้าไม่ไหวก็พักก่อนได้ แต่พอจะให้ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถามมาได้เลย จะถามตรงนี้ใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้ว ลองเล่ามาในแบบที่เธอสบายใจเลยก็ได้”
บทสนทนาเริ่มต้นอย่างธรรมดา แต่ฉันไม่อยากเสียโอกาสควบคุมสถานการณ์ ดังนั้น ฉันจึงเป็นฝ่ายเริ่มเกมก่อน
“หนูไม่มีปัญหาค่ะ แถมยังได้ยินมาจากเพื่อนในชมรมด้วยว่าคุณครูทำเหมือนพวกเราคือคนร้าย ทั้งที่ความจริงเราเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาของของเออิจิไป หนูยอมรับว่าเราอาจเชื่อข่าวลือจนพูดจาแย่ๆ ใส่เออิจิไป แต่พวกเราก็รู้สึกผิดแล้วค่ะ”
ฉันแสดงท่าทีเหมือนอยากให้เรื่องจบโดยเร็ว คุณครูทาคายานางิแค่ยิ้มบางๆ
“เข้าใจแล้ว แต่เรื่องนี้สำคัญมาก ฉันจำเป็นต้องสอบถามทุกคนที่เกี่ยวข้อง ยังไงช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะ”
…เจ้าเล่ห์ไม่เบา ดูภายนอกเหมือนคนใจดี แต่กลับซ่อนความเจ้าแผนการเอาไว้ ฉันรู้ว่าเขาเคยเล่นบทแบบนี้ตอนสอบสวนชมรมฟุตบอลมาแล้ว
ไม่ใช่ครูธรรมดาแน่ๆ ฉันเคยตรวจสอบประวัติของเขามาก่อน เขาเป็นนักหมากรุกมือสมัครเล่นที่เก่งกาจ เคยชนะการแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัยและแม้แต่นักหมากรุกอาชีพบางคนก็ยังแพ้ให้เขา แถมยังเคยเป็นที่ปรึกษาชมรมหมากรุกในโรงเรียนเก่าและพาทีมชนะระดับประเทศ
…เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ
“แน่นอนค่ะ จะถามอะไร เชิญเลย”
ฉันพยายามใช้คำพูดและท่าทีควบคุมสถานการณ์ เพื่อเตรียมนำเขาไปสู่คำตอบที่ฉันต้องการ
“งั้น…เธอพอจะสงสัยใครที่อาจเป็นคนเอาของของเออิจิไปไหม?”
…ตามที่คาดไว้ เขาเริ่มด้วยคำถามนี้
“หนูคิดว่าคนจากชมรมฟุตบอลหรือคนที่เกี่ยวข้องน่าจะเป็นคนทำค่ะ”
“แล้วนอกจากนั้นล่ะ?”
คุณครูทาคายานางิถามต่อ ฉันยิ้มเบาๆ
…ขอโทษด้วยนะคะ ครู ฉันเตรียมแผนสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว
“หนูไม่อยากสงสัยเพื่อนในชมรมเลยค่ะ…แต่มีสองคนที่หนูคิดว่าอาจเกี่ยวข้อง”