ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 143 คำแก้ตัวของสมาชิกชมรมวรรณกรรม
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 143 คำแก้ตัวของสมาชิกชมรมวรรณกรรม
—มุมมองของสมาชิกชมรมวรรณกรรม—
“เชิญเข้ามาได้เลย”
ฉันถูกเรียกตัวมาที่ห้องแนะแนวโดยครูทาคายานางิและอาจารย์มิซึอิ ทั้งสองบอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย ตั้งแต่ถูกเรียกตัวมา หัวใจของฉันก็เต้นไม่หยุด จนไม่สามารถจดจ่อกับบทเรียนได้เลย
“ข-ขออนุญาตค่ะ”
เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไป ครูสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน ทั้งสองมีสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด
นี่มันเหมือนการสอบสวนจริงๆ ฉันคิดว่าตอนที่สมาชิกชมรมฟุตบอลถูกเรียกตัวมาคงเป็นแบบนี้เหมือนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งตัวสั่น ถ้าหากมีใครในพวกเราทรยศ หรือถ้าหากมีใครเผลอพูดผิดไปจากที่ตกลงกันไว้ล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้าชมรมวรรณกรรม ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ยังไม่มาโรงเรียนเลย ฉันเริ่มกังวลว่าเขาจะโยนความผิดทั้งหมดมาให้พวกเราแล้วหนีไป
“วันนี้เราจะคุยกันเรื่องของอาโอโนะ เออิจิ เธอก็คงรู้เรื่องที่ชมรมฟุตบอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งอาโอโนะอย่างรุนแรงใช่ไหม?”
ฉันควรทำยังไงดี? ยอมรับไปเลยดีไหม? หรือควรปฏิเสธ?
แต่ถ้าปฏิเสธทันที มันจะดูน่าสงสัยเกินไป เพราะเรื่องนี้ถึงกับเป็นข่าวใหญ่โต และคนในโรงเรียนก็พูดถึงกันทั่ว
“ค่ะ รู้ค่ะ”
ฉันตอบแบบนี้ คิดว่าคงไม่ผิด มันน่ากลัวเหลือเกิน เหมือนกำลังถูกตัดสินอยู่บนแท่นประหาร
“อืม แล้วที่เรียกเธอมาก็เพราะอาโอโนะเคยเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรม พวกเราจำเป็นต้องตรวจสอบทางฝั่งชมรมของเธอด้วย”
หัวของฉันเริ่มว่างเปล่า ไม่สามารถคิดอะไรออกได้
“พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ”
คำปฏิเสธของฉันฟังดูเหมือนถูกแต่งขึ้น
“งั้นหรือ? แต่เรายังต้องฟังเรื่องราวจากฝั่งเธอให้ครบถ้วน มันจะเป็นผลดีต่อเธอเอง”
เหมือนกำลังถูกเตือนว่า “หนีไม่ได้แล้ว”
“เรื่องอะไรเหรอคะ?”
“ก็อย่างแรก หลังจากที่มีข่าวลือแพร่สะพัด อาโอโนะก็ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมชมรมอีกใช่ไหม?”
“ค-ค่ะ คิดว่าเขาคงรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะมาเข้าร่วม”
คำตอบนี้เป็นสิ่งที่พวกเราตกลงกันไว้แล้ว
“เข้าใจละ แล้วในห้องชมรมยังมีของส่วนตัวของอาโอโนะหลงเหลืออยู่บ้างไหม? อย่างเช่นต้นฉบับนิยายที่เขาเขียนไว้สำหรับเผยแพร่ในชมรม หรือหนังสือที่เขานำมา”
คำตอบนี้ก็ถูกเตรียมไว้เช่นกัน
“ค-ค่ะ มีอยู่ค่ะ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
“แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ของพวกนั้นก็หายไปหมดแล้วค่ะ หลังจากที่มีเรื่อง ฉันคิดว่าคงมีคนหยิบไปโดยไม่ได้บอก”
คำตอบนี้ถูกซักซ้อมไว้เป็นอย่างดีในชมรม
“แล้วใครเป็นคนเอาไป?”
“ไม่ทราบค่ะ อาจจะเป็นสมาชิกในชมรม หรือคนภายนอก หรืออาจจะเป็นตัวอาโอโนะเองก็ได้”
“แล้วทำไมถึงไม่แจ้งโรงเรียนล่ะ?”
“เพราะว่า… ฉันกลัวค่ะ ถ้าพวกเราพยายามปกป้องอาโอโนะ ฉันกลัวว่าพวกเราจะโดนกลั่นแกล้งเหมือนกัน ฉันเลยไม่กล้าบอกใคร แต่เชื่อฉันนะคะ ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยค่ะ ใครบางคน… คงทำโดยพลการ”
เมื่อฉันพูดจบ คุณครูถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนพูดว่า “เข้าใจละ วันนี้กลับไปได้แล้ว”
…ฉันได้รับการยกโทษแล้วเหรอ?
ความรู้สึกโล่งใจแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ
สำเร็จจนได้ พวกเราเอาตัวรอดได้แน่ ฉันพูดปลอบตัวเองในใจ แล้วเดินออกจากห้อง
—มุมมองของครูทาคายานางิ—
หลังจากที่นักเรียนออกไป ฉันถอนหายใจหนักๆ
“มันไม่มีประโยชน์เลย สมาชิกชมรมวรรณกรรมพูดเหมือนกันหมดราวกับนัดกันไว้ นั่นก็ยิ่งทำให้น่าสงสัยไปอีก อีกอย่าง ในโทรศัพท์ของอาโอโนะยังมีภาพหน้าจอข้อความที่พวกนั้นเคยส่งด่าทอเขา ถึงพวกเขาจะพยายามลบประวัติในโซเชียลแล้ว แต่ก็สายไปแล้ว”