ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 129 คู่รักที่มีความสุข
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 129 คู่รักที่มีความสุข
—มุมมองของเออิจิ—
เราสองคนกอดกันต่อไปพักหนึ่ง แล้วค่อยๆ ค่อยๆ แยกจากกัน แม้จะรู้สึกเสียดายกันทั้งคู่
หลังจากนั้น เราทั้งคู่ก็ยิ้มให้กันโดยที่ซ่อนความรู้สึกต่างๆ ไว้ในใจ
“ขอโทษค่ะ แต่ยังไงก็ต้องขอฝากตัวด้วยนะคะ”
เธอยิ้มเขินๆ ความอายทำให้เธอหลบตา การสารภาพรักของผมเมื่อกี้มันไม่เหมือนกับการสารภาพรักแบบปกติเลย
“อืม นั่นสินะ”
ผมพูดตอบไปอย่างเขินๆ ออกมา ถึงแม้ในความคิดปกติแล้ว นี่มันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีความสัมพันธ์กัน แต่มันกลับรู้สึกไม่เหมือนกันในตอนนี้
เธอก็ดูเหมือนจะอายเหมือนกัน
ความรู้สึกแปลกๆ ลอยอยู่ในอากาศระหว่างเราสองคน
ผมดื่มชาร้อนที่เย็นลงแล้ว รสหวานของผลไม้และความขมของชาผสมกันได้อย่างลงตัว มันเหมาะกับอารมณ์ตอนนี้ของผมดี
เธอก็จิบชาไปพร้อมกัน ในจังหวะเดียวกันกับผม ท่าทางของเธอดูมีความสุข แต่เธอยังทำตัวเหมือนคนที่ใส่ใจคนอื่นอยู่เสมอ
“ชาเริ่มเย็นแล้วนะคะ เดี๋ยวฉันไปชงใหม่ให้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่เอาค่ะ ถ้าเรารีบชงใหม่ ก็จะมีเวลาได้คุยกันเพิ่มอีกหน่อยใช่ไหมคะ? ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันอีกสักหน่อยเถอะนะ”
เสียงของเธอทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรง ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเธอแสดงด้านที่เป็นผู้หญิงออกมาแบบนี้ ซึ่งคงจะเป็นเพราะคำสารภาพเมื่อกี้ทำให้เธอเริ่มเปิดใจให้กับตัวตนที่แท้จริงมากขึ้น
“งั้นฉันคงต้องยอมสินะ”
ผมหยิบช็อกโกแลตที่เตรียมไว้บนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งชิ้น ช็อกโกแลตนั้นค่อนข้างขม เป็นรสช็อกโกแลตดำ คิดว่าเธอคงตั้งใจเลือกให้มันเข้ากันกับชานี้แน่ๆ
มันอร่อย แต่ค่อนข้างขมกว่าที่คาดไว้ ผมรู้เลยว่าเป็นช็อกโกแลตที่มีคุณภาพสูง พิถีพิถันขนาดนี้ เธอนี่ก็เป็นสาวที่มีความเป็นผู้ดีมากจริงๆ
ผมเองก็อยากจะเป็นชายที่เหมาะสมกับเธอให้ได้ จะต้องพยายามเขียนนิยายให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อให้เธอได้เห็นและภูมิใจในตัวผม
“รุ่นพี่คะ”
“หืม?”
เธอหันหลังให้กับผมและกำลังเตรียมน้ำชาใหม่ ท่าทางของเธอในขณะนั้นดูสง่างามจนทำให้ผมรู้สึกเหมือนเธอมีความเป็นผู้ดีสูงส่ง
“ฉันรู้ว่าไม่ควรจะพูดแบบนี้ แต่คิดว่ารุ่นพี่คงรู้อยู่แล้วว่าฉันมีเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงเท่าใหร่ เรื่องครอบครัวของฉัน…”
ผมรู้ดีว่าเธอกำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร สงสัยว่าความเศร้าจากเรื่องครอบครัวคงยังทำให้เธอไม่สามารถจัดการกับมันได้อย่างเต็มที่
เธอคงรู้สึกอึดอัดกับมัน แต่ผมก็ไม่อยากบังคับให้เธอพูดในสิ่งที่ยังไม่พร้อม
“ไม่เป็นไร ฉันเคยบอกไปแล้วว่าไม่ต้องรีบ ไม่ต้องกดดัน ถ้าเมื่อไรที่เธออยากพูดก็พูดออกมาได้เลย”
ผมเคยได้รับการสนับสนุนจากเธอมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องอยู่เคียงข้างเธอ
“ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่ใจดีมากเลย ฉันไม่อยากเอาแต่ทำตัวอ่อนแอตอนอยู่กับรุ่นพี่ ฉันอยากอธิบายให้รุ่นพี่เข้าใจจริงๆ ถ้าฉันสามารถอธิบายเรื่องนั้นได้ดีพอ และถ้ารุ่นพี่ยังรู้สึกเหมือนเดิม ถึงตอนนั้น…อยากให้รุ่นพี่พูดกับฉันเหมือนกับที่รุ่นพี่พูดเมื่อกี้ค่ะ”
เธอพูดอย่างจริงจังจนทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนที่หนักแน่นและจริงจังกับความสัมพันธ์ของเรา
“ความรู้สึกของฉันไม่เปลี่ยนแน่นอน เพราะคำพูดเมื่อกี้ไม่ได้มาจากการที่ฉันรักเธอในอดีต แต่เป็นการที่ฉันรักเธอในตอนนี้และในอนาคต”
หลังจากฟังคำพูดของผม เธอก็หันหน้าลงต่ำ
“ขอบคุณค่ะที่พูดคำที่ฉันต้องการฟัง”
เราค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้า
ในครั้งนี้ ผมกอดเธอจากด้านหลัง
เธอไม่ขัดขืน แต่รับการกอดนั้นไว้อย่างอ่อนโยน ความสัมพันธ์ของเรากำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
※
—มุมมองของอิจิโจ ไอ—
หลังจากที่รุ่นพี่เออิจิกลับไปแล้ว ฉันนั่งอยู่ที่หน้าประตู รู้สึกท่วมท้นด้วยความรู้สึกต่างๆ มากมาย ฉันรู้ว่าเราทั้งคู่มีความรู้สึกเดียวกัน นั่นทำให้ฉันไม่ต้องรีบร้อนอีกต่อไปแค่รู้ว่าเรารู้สึกแบบเดียวกัน…
ไม่ใช่เลย
ไม่ใช่แค่การคิดแบบนั้น ฉันต้องปฏิเสธตัวเองที่คิดแบบเห็นแก่ผลประโยชน์
“ฉันได้รับความรักจากผู้ชายชื่ออาโอโนะ เออิจิ”
ความจริงข้อนี้ทำให้ฉันรู้สึกดีมากจนอยากจะร้องออกมา
ฉันอยากจะได้รับความรักจากใครสักคนมาตลอด และตอนนี้ฉันก็รู้แล้ว…ฉันรู้สึกขอบคุณที่เขาทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้
“แต่รุ่นพี่เออิจิ”
ฉันถอนหายใจด้วยความสุข
“ฉันพร้อมที่จะถูกจูบหรือแม้แต่ถูกกดลงไปก็ยังได้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกขอแต่งงาน แบบนี้มันไม่ใช่แค่แค่ความรู้สึกเล็กน้อยแน่ๆ”
ความรู้สึกที่ปะทุออกมาในตอนนี้คือความสุขและความรักที่สมบูรณ์แบบ