ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 127 อิจิโจ ไอ
“ถึงผิดพลาดสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”
คำพูดนั้นสะท้อนในใจของฉัน การที่อิจิโจซังทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมาก และในตอนนี้ ความมีสติของฉันก็เริ่มสั่นคลอนแล้ว
เราทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาแล้วก็รู้สึกได้จากการกระทำและคำพูดว่าเราสำคัญต่อกัน หากฉันสารภาพรักไป ตอนนี้เธอคงยอมรับฉันทันที
“ผิดพลาดเหรอ…” ฉันอดยิ้มออกมาจากใจไม่ได้
“คิดเรื่องลามกบ้างไหมคะ?” เธอยิ้มด้วยท่าทางเงียบๆ ที่เหมือนจะปิดบังอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เธอมักจะใช้เมื่อพยายามซ่อนความเขินอาย
อิจิโจซังเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง แต่ในด้านความสัมพันธ์ของมนุษย์ เธอก็มีบางมุมที่ยังเป็นวัยเดียวกันกับคนอื่น เธอพยายามปกปิดมัน แต่ในรอยยิ้มของเธอมักมีความมืดมิดแฝงอยู่ ซึ่งฉันคิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอ
ฉันยังไม่เคยถามเธอเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอเคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าเธอหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องครอบครัวโดยตั้งใจ เธอเปิดเผยเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับตัวเอง แต่จะหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน สิ่งนี้ทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของพ่อที่เคยพูดไว้
“แค่เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว มันก็สามารถทำร้ายเด็กๆ ได้แล้ว”
คำพูดนี้แสดงถึงมุมมองของพ่อที่มาจากการดูแลผู้คนในร้านอาหารและทำงานอาสาสมัคร
—————
ครั้งที่สองที่ได้มาเยี่ยมเธอที่ห้อง รู้สึกว่ามันมีความเหงาอยู่ในนั้น ห้องนั้นมีกลิ่นหอมหวานและมีความรู้สึกที่เป็นระเบียบเกินไปเล็กน้อย ฉันคิดว่าอิจิโจซังคงต้องแสดงบทบาทเป็นอิจิโจ ไอ ที่คนอื่นคาดหวังมาตลอด และห้องนี้ก็คงเป็นผลลัพธ์จากการใช้ชีวิตแบบนั้น
“เป็นชานะคะ ไม่เป็นอะไรไช่ไหมคะ?”
“อืม” ฉันพยักหน้า เหมือนเธอจะรู้แล้วว่าฉันชอบชาชนิดไหน ข้อมูลนี้คงได้จากแม่ของฉัน เพราะเธอคงเตรียมตัวไว้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันมาเยี่ยม เธอจะสามารถบริการได้
อิจิโจซังเตรียมชาและขนมได้อย่างคล่องแคล่ว ฉันนั่งมองเธออย่างตั้งใจ
“มองอะไรเหรอคะ? มันน่าอายนะคะ”
เธอแสดงความเขินออกมาพร้อมพูดอย่างขำๆ ฉันรู้สึกดีใจที่เธอเริ่มผ่อนคลาย
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกดีใจที่ได้เห็นชีวิตประจำวันของอิจิโจซัง”
“ถ้าไม่ใช่ฉัน คงถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศแล้วนะ” เธอยิ้มพลางบ่น
บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่ค่อยๆ หายไป
“รุ่นพี่ยังจำเรื่องที่เราคุยกันเมื่อกี้ได้ไหมคะ?” ขณะจัดเตรียมถ้วยชาแบบโบราณ เธอถามฉันอย่างเจ้าเล่ห์
ฉันทำตัวงงเล็กน้อย “เรื่องอะไรนะ?”
“รุ่นพี่ไม่จำได้เหรอ?” เธอบ่นเล็กน้อย
“คิดว่า ‘สักหน่อย’ ที่ว่า มันคือขอบเขตไหนคะ?”
คำถามของเธอทำให้ฉันเกือบจะสำลักชาออกมา ฉันไม่คิดว่าเธอจะขยับเข้ามาขนาดนี้
“อืม…” ฉันตอบด้วยท่าทีที่พยายามทำให้ตัวเองดูไม่เครียดเท่าไร ทั้งๆ ที่ทั้งสองฝ่ายก็รู้สึกตึงเครียด
“จับมือ? จูบ? หรือว่า…” เธอวางถ้วยชาและค่อยๆ เดินมานั่งใกล้ฉัน ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู
“มากกว่านั้น?” คำถามของเธอทำให้ฉันแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและโอบกอดร่างที่อ่อนนุ่มของเธอ กลิ่นหอมหวานเหมือนน้ำผึ้งลอยขึ้นมา เธอตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะผ่อนคลายตัวลง
อิจิโจซังรับการกอดของฉันเหมือนกับว่าเธอเตรียมใจไว้แล้ว มือบางของเธอลูบไล้หลังของฉันอย่างช้าๆ
ฉันให้คำตอบกับคำถามที่เธอถามก่อนหน้านี้
“ประมาณนี้เหรอ?”
ในอ้อมแขนของฉัน ไม่มีเลยแม้แต่ร่องรอยของสาวไอดอลที่โด่งดังในโรงเรียนหรือสาวที่เก่งกาจในทุกๆ ด้าน สิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันคือแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อ่อนแอและบอบบาง
“อืม” อิจิโจซังยิ้มทั้งที่มีความสุขและเศร้าไปพร้อมกัน เธอซบหน้าลงบนอกของฉัน