ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 103 ปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมชั้น
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 103 ปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมชั้น
—มุมมองของเพื่อนร่วมชั้น (มุราตะ)—
เมื่อฉันตื่นเช้า เปิดทีวีดูรายการข่าว ก็เห็นข่าวของคุณพ่อของรุ่นพี่คอนโดะถูกพูดถึงในรายการ
ภาพลักษณ์ที่รุ่นพี่คอนโดะเคยภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อของเขา พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวดี รายงานข่าวอันโหดร้ายก็เปิดเผยความจริงออกมา
ว่าคุณพ่อของรุ่นพี่คอนโดะ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ได้ใช้ตำแหน่งของตัวเองกดดันโรงเรียนและครอบครัวของเหยื่อ เพื่อปกปิดปัญหาการรังแกและการใช้ความรุนแรงที่ลูกชายของเขาก่อขึ้น
แต่กลับกลายเป็นว่าเสียงบันทึกสนทนาระหว่างเขาและทางโรงเรียนหลุดออกมา
เหยื่อที่ถูกทำร้าย เป็นนักเรียนที่เคยได้รับรางวัลจากการช่วยชีวิตคนอื่น และในโลกออนไลน์ เขากลับถูกโจมตีด้วยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง
รวมถึงเหตุการณ์ในตอนเช้า ที่คุณพ่อของรุ่นพี่คอนโดะข่มขู่ผู้สื่อข่าวจนพวกเขาต้องถอยกลับ
ตอนนี้เขากลายเป็นนักการเมืองที่เสื่อมเสียโดยสมบูรณ์
เสียงบันทึกสนทนาระหว่างคุณพ่อของรุ่นพี่คอนโดะกับผู้อำนวยการโรงเรียน ถูกเปิดเผยออกมาในรายการทีวี
—บันทึกการสนทนา—
“ฟังดูแล้ว คุณนี่ดูเหมือนจะชอบยกตัวเองจนพูดอะไรที่เกินเลยออกมา คุณรู้ไหมว่าตัวเองเป็นสมาชิกสภาเทศบาล หน้าที่ของคุณคือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน แต่กลับทำเรื่องน่าละอายด้วยการบีบให้โรงเรียนปกปิดเรื่องที่ลูกชายของคุณก่อขึ้น นี่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าเงินเดือนของคุณมาจากภาษีของประชาชน?”
“แล้วคุณรู้ไหมว่าถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปจะกระทบชื่อเสียงของโรงเรียนขนาดไหน? ความเป็นธรรมก็สำคัญ แต่ไม่ใช่ถ้าจะทำให้โรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานต้องเสื่อมเสียเพราะคุณ”
“ถ้าชื่อเสียงของโรงเรียนมันเปราะบางถึงขนาดนี้ จะไปภาคภูมิใจในมันได้อย่างไร? ชื่อเสียงที่แท้จริงของโรงเรียนคือการสร้างอนาคตให้นักเรียนทุกคน ไม่ใช่การปกป้องสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การปกป้อง”
“ในฐานะครู การปกป้องนักเรียนสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด และการยอมรับความผิดพลาดก็เป็นหน้าที่ของเรา ไม่ใช่การปกป้องคนที่ทำผิดกฎหมายโดยอ้างว่ารักลูกของตัวเอง”
—สิ้นสุดบันทึกการสนทนา—
คำพูดของผู้อำนวยการโรงเรียนกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ รายการข่าวยังรายงานปฏิกิริยาจากโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์
“ผู้อำนวยการสุดยอดมาก ปกติใครจะกล้าพูดแบบนี้กับนักการเมือง”
“แม้จะมีเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้น แต่โรงเรียนแบบนี้ทำให้รู้สึกวางใจได้”
“ไม่คิดว่าโรงเรียนจะออกมายืนหยัดแบบนี้”
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการศึกษาที่แท้จริง”
“รู้สึกซาบซึ้งเลย”
พ่อแม่ของฉันพยักหน้าเห็นด้วย
“นี่มันโรงเรียนของลูกไม่ใช่เหรอ? มีครูดี ๆ แบบนี้ก็ดีใจแล้ว”
แม่พูดออกมาอย่างธรรมดา นั่นคือปฏิกิริยาปกติที่คนทั่วไปควรจะมี แต่ฉันกลับรู้สึกแตกต่าง
ทำไมฉันถึงรู้สึกซาบซึ้งเหมือนคนอื่นไม่ได้? เพราะฉันเป็นคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้…
ฉันกลัว กลัวมากที่เรื่องการรังแกของอาโอโนะคุงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้
ฉันเองก็เคยส่งข้อความแย่ ๆ ใส่เขาในโซเชียล ฉันเคยช่วยพวกผู้ชายในทีมฟุตบอลเขียนคำด่าบนโต๊ะของเขา
ในสายตาของคนภายนอก ฉันคงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับคอนโดะและพ่อของเขา
ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรจริงจัง ก็แค่เล่นไปตามน้ำ เพราะทีมฟุตบอลผู้ชายทำให้ดูเหมือนว่าการลงโทษอาโอโนะคุงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ฉันไว้ใจมิยูกิ ฉันสนิทกับพวกในทีมฟุตบอลที่ชวนไปเที่ยวคาราโอเกะบ่อย ๆ แต่สำหรับอาโอโนะคุง เขาเป็นแค่คนที่ดูจืดชืด
ฉันไม่เคยรู้เลยว่าข่าวลือเรื่องที่เขาใช้ความรุนแรงมันไม่จริง
เสียงข้อความดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันเป็นข้อความจากมิกะ เพื่อนในห้องเดียวกัน
“เรื่องใหญ่แล้ว! เรื่องการรังแกคราวก่อน พวกในทีมฟุตบอลถูกสั่งพักการเรียนแล้ว! รุ่นพี่ปี 2 กับปี 3 เกือบทั้งทีมโดนพักการเรียน มีข่าวลือว่าบางคนอาจถูกไล่ออก! เราจะโดนด้วยหรือเปล่า…”
ข้อความนั้นทำให้ฉันตัวชา…