ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 101 ส.ส.คอนโดะกับรุ่งเช้าที่สิ้นหวัง
- Home
- ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 101 ส.ส.คอนโดะกับรุ่งเช้าที่สิ้นหวัง
—มุมมองของ ส.ส.คอนโดะ—
เช้าวันใหม่มาถึง แต่ฉันไม่ได้หลับเลยสักนิด รอจนดวงอาทิตย์ขึ้นโดยที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้ ความสิ้นหวังเกาะกินอยู่ในใจ
ฉันรู้ว่าพอตะวันขึ้น สื่อมวลชนอาจจะหลั่งไหลมาที่นี่ ฉันต้องรีบหนี แต่ความสิ้นหวังทำให้ร่างกายไม่ยอมขยับ
มีอีเมลจากทนายความส่งมา
‘คุณคอนโดะครับ อย่าพูดอะไรเกินจำเป็นนะครับ ถ้ามีใครถาม ให้ตอบแค่ว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน อย่าพยายามแก้ตัวเองเด็ดขาด’
ข้อความนั้นยิ่งทำให้ฉันหวาดกลัวมากขึ้น ฉันตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าฉันกลายเป็นศัตรูของสังคมไปแล้ว ไม่ไหวแล้ว ต้องหนีไปจากที่นี่ ถ้าฉันพลาด ฉันอาจถูกจับและถูกส่งเข้าคุก ธุรกิจของฉันที่พึ่งพาสัญญากับเทศบาลก็คงพังทลาย
ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะสูญเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง งาน เงิน หรือครอบครัว
ความกลัวที่พุ่งสูงถึงขีดสุดทำให้ฉันรวบรวมพลังลุกออกจากเตียงได้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ฉันเปิดโรงรถออกไปข้างนอก วางแผนว่าจะหลบไปซ่อนตัวในโรงแรมสักแห่ง
ในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าพอจะออกจากบ้าน แต่เมื่อเปิดประตูออกไป สื่อมวลชนหลายคนยืนรออยู่แล้ว
เลือดในร่างกายเย็นเฉียบ
“คุณคอนโดะครับ เกี่ยวกับเสียงที่หลุดออกมานั่นใช่เสียงของคุณหรือเปล่าครับ?”
“คุณคิดจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงครับ?”
“ข่าวลือเรื่องลูกชายของคุณถูกจับกุมเป็นความจริงไหมครับ?”
ฉันพยายามวิ่งหนี แต่ก็ถูกล้อมไว้
“อย่าหนีสิครับ คุณมีหน้าที่อธิบายให้ประชาชนทราบนะ!”
“ถ้าหนีแบบนี้ แปลว่าคุณยอมรับแล้วใช่ไหม?”
“เสียงหลักฐานชัดขนาดนี้ คุณจะโทษเลขาไม่ได้หรอกนะครับ!”
ฉันกลัวจนพูดอะไรแทบไม่ออก แต่พยายามเค้นคำพูดออกมา
“เรื่องของลูกชายกำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนครับ ทนายของผมสั่งไม่ให้พูดอะไร แต่ผมต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนวุ่นวายครับ”
คำพูดแบบนี้ไม่มีทางทำให้พวกเขายอมปล่อยฉันไปได้ การไล่ต้อนยังคงดำเนินต่อ
“แล้วเรื่องที่คุณถูกกล่าวหาว่าข่มขู่ คุณมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ?”
“ส.ส.ที่ข่มขู่ประชาชน ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์นะครับ”(TLN:หรอ?)
“แล้วเรื่องการลาออกล่ะครับ คิดยังไง?”
ฉันตกอยู่ในภาวะสับสน และเผลอพูดอะไรบางอย่างออกไป
“คำพูดนั้นเป็นแค่การเปรียบเทียบครับ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิด แต่ผมได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ ผมจะรับผิดชอบด้วยการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป…”
พูดจบก็รู้ตัวว่าพลาดอย่างแรง คำพูดนั้นเหมือนราดน้ำมันลงในกองไฟ
“แปลว่าคุณจะไม่ลาออกใช่ไหม?”
“จะบอกว่าคำพูดข่มขู่นั่นเป็นการเปรียบเทียบเนี่ยนะ? มันเป็นข้ออ้างที่เลื่อนลอยมาก!”
“คุณคิดว่าประชาชนจะยอมรับคำอธิบายนี้เหรอ?”
ไม่มีทางออกอื่น ฉันวิ่งหนีออกจากที่นั่น
“อย่าหนีสิครับ!”
ความโกรธพุ่งขึ้นจนฉันตะโกนออกมา
“เงียบซะ!!”
เสียงนั้นทำให้พวกนักข่าวหยุดไปชั่วขณะ ฉันรีบเข้าโรงรถ ขับรถหนีไปโดยไร้จุดหมาย
โทรศัพท์ดังขึ้น สายจากพรรคของฉันเอง ข้อความสั่งให้ฉันไปพบทันที แม้คำพูดจะสุภาพ แต่ความโกรธก็ส่งมาถึงได้ผ่านตัวอักษร
ฉันขับรถไปด้วยความกลัวว่าจะถูกทำลายชีวิต ไม่มีทางใดที่ฉันจะปกปิดเรื่องนี้ได้หรอ? น้ำตาไหล ขณะที่ฉันขับหนีเหมือนคนสิ้นหวัง
※
“ดูภาพนี้สิ ดูยังไงก็เหมือนตัวร้ายที่ขี้ขลาดเลย”
“ใช่! ไม่นานข่าวนี้ต้องดังแน่!”
“คำแก้ตัวแบบนั้น เราไม่ต้องเตี๊ยมก็ได้สิ่งที่ต้องการครบถ้วนเลย”
“เอาล่ะ ทีนี้ก็รอผลักดันให้จัดแถลงข่าวขอโทษกันต่อไป!”
ในบรรยากาศของความสำเร็จ พวกนักข่าวทุกช่องต่างร่วมมือกันอย่างกลมเกลียว ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งพวกเขาได้อีกแล้ว
TLN:นอนเต็มอิ่มเลยครับ พึ่งจะตื่นเอง