ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ - ตอนที่ 60
“1000 1010 1020 1030”
เฟฟาดาบไปยังความว่างเปล่า แม้เขาจะหวดไปถึง1000กว่าครั้งด้วยเพียงแค่ข้างเดียว แต่นั้นก็ไม่ทำให้ความเร็วของเขาตกลงเลย การฟาดลงไปแต่ละครั้งนั้นรวดเร็วจนปากของเขาไม่อาจนับมันทันได้
“1900 2000!!!”
เมื่อถึงโควต้าประจำวันเขาก็กลับไปนั้งพักลงที่ต้นไม้ใกล้ๆ วางดาบลงข้างๆ และเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาท่วมร่างกายของเขา
“ขยันจังเลยนะคะ คุณเฟ”
“อ๊ะ..คุณบเรน”
“ขอนั้งข้างๆได้ไหมค่ะ”
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เขากระเถิบไปเล็กน้อยเพื่อเว้นที่ให้กับบเรนนั้ง เมื่อบเรนนั้งลงข้างๆ ก็ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“เป็นเช้าที่อากาศดีจังเลยนะคะ”
“นั้นสินะครับ..”
“จะว่าไปนี้เป็นครั้งแรกเลยนนะคะ ที่เห็นคุณอยู่ตัวคนเดียวทะเลาะกับคุณดาดามาเหรอค่ะ?”
“ไม่ใช่หรอกครับ ปกติดาดาเป็นคนชอบนอนตื่นสายอยู่แล้วละครับ พอวันนี้ไม่มีซ้อมเธอจะนอนจนกว่าจะถึงช่วงสายๆ นั้นแหละครับ”
“ดูเหมือนการขอให้คุณดาดามาฝึกตอนช่วงเช้าคงเป็นอะไรที่สาหัสเกินไปสินะคะ”
“ก็คงงั้นแหละครับ แต่ว่าดาดาเองก็รู้สึกชอบที่ได้อยู่กับพวกคุณนะครับ ถึงปากเธอจะบอกว่าไม่ชอบก็เถอะ”
“เป็นเรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกดีใจหน่อยๆเหมือนกันนะคะ ฉันนึกว่าเธอจะเบื่อหรือรำคาญพวกเราซะอีก”
“ฮ่าๆๆ ไม่หรอกครับ ถ้าดาดาไม่ชอบใครเธอจะไม่ยุ่งกับคนๆนั้นเลย แถมพอดาดาอยู่กับพวกคุณช่วงนี้เองดาดาเองก็ร่าเริ่งขึ้นมาก คงต้องขอบคุณพวกคุณมากๆเลยละครับ”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเราหรอกค่ะ พวกเราเองก็รู้สึกสนุกมากเหมือนกัน ถือว่าต่างคนต่างได้เถอะคะ อ๊ะ ดื่มนี้ไหมค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เขารับแก้วโลหะที่ใส่น้ำจากกระติกจากบเรนไปดื่ม
“อืม..เป็นชาที่มีรสชาติเอกลักษณ์ดีนะครับเนี้ย….”
“เผอิญฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจะติดหวานนะค่ะ ก็เลยใส่น้ำตาลเยอะๆ หลังจากที่ใส่น้ำร้อน รสชาติมันก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น ไม่ทราบว่าถูกปากรึเปล่าค่ะ?”
“มันก็อร่อยดีนะครับ แต่ว่านี้คงเป็นเครื่องดื่มที่ฟุ่มเฟือยน่าดูเลย ให้ผมดื่มแบบนี้จะดีเหรอครับ”
“มันไม่ใช่ของแพงอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ เชิญดื่มได้เต็มที่เลยไม่ต้องเกรงใจ”
“อะ..ครับ”
บเรนรินชาจากกระติกเติมให้กับเฟจนเต็มอีกครั้ง
“จะว่าไป..คุณเฟเนี้ยมีรูปร่างที่ดีกว่าที่คิดนะคะเนี้ย ทั้งๆที่ตัวเล็กขนาดนี้แท้ๆ”
บเรนมองไปที่แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาและหน้าท้องของเขาเองก็ยังเต็มไปด้วยซิกแพ็คที่สวยงามเหมาะกับรูปร่างของตัวเองเป็นอย่างมาก
“พอถูกพูดตรงๆ ผมก็เขินเหมือนกันนะครับเนี้ย…”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี้ค่ะ นี้คือหลักฐานว่าคุณมีความพยามขนาดไหน ควรจะภูมิใจกับมันมากกว่าอายนะคะ”
“ฮ่าๆ นั้นสินะครับ ผมควรจะภูมิใจกับมันสินะครับ”
“ใช่แล้วละค่ะ…”
“หืม? เป็นอะไรไปเหรอครับ”
“เอ่อ..แม้จะฟังดูแปลกๆไปหน่อย แต่ฉันขอจับแขนคุณหน่อยได้ไหมค่ะ?”
“ได้เลยครับ”
“ขอเสียมารยาทสักหน่อยนะคะ”
บเรนใช้มือของเธอจับไปบริเวณต้นแขนของเฟและบีบมันเบาๆ
“เป็นกล้ามเนื้อที่ดีนะคะ แค่สัมผัสเบาๆก็รู้ได้เลย ว่าคุณฝึกฝนมามากถึงขนาดไหน”
เธอใช้มือลูบไปตามต้นแขนของเขาด้วยความเพลิดเพลิน โดยหารู้ไม่ว่าการที่เธอทำแบบนี้มันทำให้เฟรู้สึกใจเต้นแรงมากยิ่งขึ้น
“จะเป็นอะไรไหมค่ะ? ถ้าหากฉันอยากจะจับหน้าท้องของคุณด้วยนะ”
“ดะ..ได้ครับ!!”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เธอเปลี่ยนตำแหน่งจากบริเวณแขนของเขาไปที่หน้าท้อง ทำให้ใบหน้าของบเรนยิ่งเข้ามาใกล้เขายิ่งกว่าเดิม กลิ่นหอมดอกไม้จากเส้นผมของเธอทำให้ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันอยากจะสัมผัสตอนปกติมากกว่า”
“จะลองพยามดูครับ…”
เขาค่อยๆสูดลมหายใจเข้าไปและถอดมันออกมาเป็นจังหวะ และค่อยๆทำจิตใจให้สงบลง จนกล้ามเนื้อที่เกร็งค่อยๆคลายตัว
“ขอบคุณมากค่ะ แค่นี้ฉันเองก็พอใจแล้วละคะ”
“……..”
“คุณเฟคะ?”
เฟไม่ตอบอะไรกับบเรนตอนนี้เขากำลังทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบจนถึงขั้นแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ จนไม่อาจรับรู้ถึงเสียงของบเรนที่กำลังเรียกเขาเลยแม้แต่น้อย
“คุณเฟคะ!! ได้ยินฉันรึเปล่าค่ะ!! คุณเฟ!!”
“…..”
เธอพยามตะโกนให้เสียงดังขึ้นแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ตอบสนออยู่ดี ไม่ว่าเธอจะทำยังไงก็ตาม
“…เป็นอะไรของเขากันเนี้ย…ชีพจรก็ปกตินี้น่า ถ้าหากเรียกแล้วไม่ตอบคงต้องแบกเขากลับเมืองแล้วสินะ”
เธอจึงค่อยๆ เข้าไปใกล้ๆหูของเขาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“คุณเฟค่า~!!!!”
“เหวอ~!!”
เฟร้องออกมาด้วยความตกใจและรีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลนจนสะดุดขาของตัวเองและล้มลงทับร่างของเบรนที่อยู่ข้างๆเขา
“…….”
“……”
หน้าของสองทั้งคนใกล้กันมากจนจมูกแทบจะชนกัน หัวใจของเขากลับมาเต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่สงบให้มันสงบไปไม่นาน
“มันหนักนะคะคุณเฟ ท่าเป็นไปได้ช่วยถอยไปหน่อยได้ไหมค่ะ?”
“อ๊ะ!! ขอโทษครับ!!!”
เขารีบถอยไปทันทีหลังที่บเรนพูดจบ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทางฉันก็ผิดเองที่ไปตะโกนใส่หูคุณ จนทำให้คุณตกใจซะขนาดนั้น”
เธอค่อยๆตั้งหลักและกลับมานั้งตรงที่เดิมอีกครั้ง
“คุณบเรนเสื้อของคุณมัน…”
“เสื้อของฉันเหรอค่ะ….”
บเรนก้มหน้าไปมองที่เสื้อของตัวเองตอนนี้เสื้อของเธอเปื้อนน้ำชาที่หกออกมาตอนที่ถูกล้มทับ ทำให้ชุดสีขาวของเธอบางขึ้นจนเผยให้เห็นชุดชั้นในเหลืองลายจุดน่ารักของตัวเอง
“อ๋อ..ช่างมันเถอะค่ะ ยังไงซะ ก็เห็นแค่ชุดชั้นในอยู่แล้ว แถมหน้าอกฉันก็ไม่ได้มีมากมายอะไร เพราะงั้นไม่น่ามีปัญหา ถ้าคุณอยากจะมองมันฉันก็ไม่ใส่ใจมากนักหรอกคะ”
“ช่วยใส่ใจหน่อยสิครับ คุณบเรน!!! คุณเป็นผู้หญิงนะครับ!!!”
เฟพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และยื่นเสื้อของตัวเองไปให้กับเธอ
“สำหรับพระเอกสายฮาเร็มกินพืชอย่างคุณต้องมีปฏิกิริยาอย่างงี้เป็นเรื่องปกติสินะคะ ทั้งที่เป็นสถานการณ์ซุปเปอร์ลักกี้เซอร์วิสที่หาได้ยากในชีวิตจริงแท้ๆ ทิ้งมันไปง่ายๆ แบบนี้จะดีเหรอค่ะ?”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ!! ช่วยกรุณารับเสื้อนี้ไปซักทีเถอะ!! ถือว่าผมขอร้องละ!!”
“อ๋อ…อย่างงี้นี้เอง ท่าเรื่องนั้นไม่เป็นไรแล้วละคะ เพราะงั้นหันกลับมาเถอะคะ”
“งั้นเหรอครับ แบบนี้ค่อยโล่งใจขึ้นมานะ–นี้คุณทำอะไรของคุณครับเนี้ย!!!”
บเรนถอดเสื้อของตัวเองออกและพันมันเอาไว้ที่บริเวณหน้าอกจนดูเหมือนกระโจมอกขนาดย่อม
“ก็คุณมีปัญหาก็เพราะมองเห็นชุดชั้นในของฉันไม่ใช่เหรอค่ะ? ฉันก็เลยแก้ปัญหาง่ายๆ โดยเอาเสื้อมาพันไว้แทน ทีนี้คุณก็ไม่เห็นชุดชั้นในของฉันแล้วนะคะ”
“แบบนี้มันแทบจะไม่ต่างจากเดิมเลยนะครับ!! ขอร้องละช่วยใส่เสื้อตัวนี้ทีเถอะครับ!!”
“เป็นคนที่เรื่องมากกว่าที่คิดนะค่ะ คุณเนี้ย”
บเรนหยิบเสื้อของเฟไปใส่อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณเฟ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฟจึงค่อยๆใช้หางตาเหล่ไปที่บเรนเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าเธอใส่เสื้อของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาจึงค่อยหันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้ง
“คุณบเรนเนี้ย..ดูเป็นคนที่ใจกล้ามากกว่าที่คิดนะครับ..”
“จริงๆ ก็ไม่ได้ใจกล้ามากอะไรหรอกคะ ถ้าถูกผู้ชายคนอื่นมองฉันก็คงอายม้วนไปแล้วละคะ แต่หากเป็นคุณต่อให้เห็นตอนถูกเปลือยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกค่ะ”
“คุณบเรน..”
“ยังไงซะคุณมันก็พวกกินพืชบ่มีไก๋อยู่แล้ว ขนาดมีสาวน่ารักอยู่ข้างๆ ยังไม่มีปัญญาทำอะไรเลย สำหรับฉันที่เป็นเพียงคนรู้จักเพียงไม่กี่วันคุณคงไม่กล้าทำอะไรกับฉันหรอกคะ”
“นะ..นั่นสินะครับ…”
“จะว่าไปทำไมคุณถึงมาซ้อมที่นี้ละคะ? ถ้าอยากจะฝึกซ้อมก็ใช้สนามของพวกเราก็ได้นี้ค่ะ?”
“มันเป็นการฝึกฝนร่างกายเลยทำให้เหงื่อผมออกเยอะมากกว่าปกติ ผมกลัวว่าท่าพวกผู้หญิงอย่างพวกคุณได้กลิ่นเหงื่อของผู้ชายอย่างผมจะหงุดหงิดเอาได้นะครับ”
“อะไรกันค่ะ เรื่องแค่นี้เอง เรื่องกลิ่นตัวพวกฉันเองก็มีเหมือนกันนั้นแหละค่ะ อีกอย่างกลิ่นของคุณเองก็ไม่ได้เหม็นอะไรมากมาย ถ้าเอาไปเทียบกับกลิ่นตัวของหัวหน้ามินาโตะละก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยละค่ะ”
“เอ่อ..คุณมินาโตะกลิ่นตัวแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“นั้นสินะคะ พูดออกไปตรงๆคงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เอาเป็นว่าถ้าหัวหน้าถอดรองเท้าออกเมื่อไหร่ละก็…นรกมาเยือนแน่นอนค่ะ”
“อะ..ฮ่าๆ..งั้นเหรอครับ..ละ..แล้วคุณบเรนมาทำอะไรแถวเหรอครับ”
“ฉันมาหาของป่ากินนะคะ มันเป็นของที่หาได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ฉันก็เลยตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อมันหามันโดยเฉพาะเลยละค่ะ”
“เห~ ของป่างั้นเหรอครับ ท่าทางจะเป็นของโปรดคุณเลยนะครับ ถึงขนาดตื่นตั้งแต่เช้ามืดเลย ผมเองก็ชักอยากจะเห็นแล้วสิ”
“ถ้าไม่รังเกียจรับไปสักตัวไหมค่ะ?”
“สักตัว? อ๋อ ของป่าที่ว่านั้นคงหมายถึงพวกสัตว์เล็กๆสินะครับ แต่จะดีเหรอครับ นี้เป็นของโปรดของคุณเลยไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็จับมาได้เยอะกว่าที่คิดด้วย แบ่งให้คุณสักหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกคะ”
บเรนหยิบหนอนยักสีแดงที่มีขนาดตัวเกือบเท่าฝ่ามือออกมาจากตะกร้าและยื่นไปให้เฟ
“เอ่อ..นี้คืออะไรเหรอครับ คุณบเรน”
“นี้คือตัวอ่อนของผีเสื้อดูดเลือดค่ะ มันชอบอาศัยอยู่ตามซากไม้ผุเก่าๆในช่วงฤดูหนาว ตอนกลางคืนมันจะเริ่มออกจากที่ซ่อนเพื่อออกล่าแมลงที่กำลังจำศีลในฤดูหนาวเป็นอาหารและจะกลับรังในตอนช่วงเช้า มันนับว่าเป็นตัวอ่อนของแมลงที่มีรสชาติดีที่สุดในวงศ์ตระกูลเดียวกัน แถมยังกินดิบๆได้ด้วย ในด้านสารอาหารเองก็นับว่าไม่เลวเหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายหนักๆอย่างคุณมาเลยนะคะ”
“……งะ..งั้นเหรอครับ…อ่า…นั้นสินะครับ แต่ตัวมันใหญ่ขนาดนี้ผมเองก็กินมันไม่หมดหรอกครับ แถมยังเป็นของหายากประจำฤดูซะด้วย ผมว่าคุณควรเก็บเอาไว้กินเองจะดีกว่านะครับ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะแบ่งครึ่ง–“
“ขอโทษที่โกหกครับ!! มันกินมันไม่ไหวจริงๆครับ!!”
เฟรีบหยุดบเรนที่กำลังฉีกกร่างของหนอนยักเป็นสองท่อนเพื่อแบ่งมันให้กับเขา
“งั้นเหรอค่ะ..ถ้างั้นคงช่วยไม่ได้สินะคะ”
“ก๊า~!!!”
หนอนยักร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดในขณะที่ร่างของมันกำลังถูกบเรนกัดกินไปถึงครึ่งหนึ่ง มันกรีดร้องและพยามดิ้นไปได้สักพักร่างของมันทั้งหมดก็หายเข้าไปในปากของบเรนทั้งหมด เสียงกลืนของบเรนนั้นดังชัดเจน และบริเวณรอบๆปากของเธอนั้นยังมีคราบสีเขียวเหนียวเหนอะเต็มไปหมด ทำให้เฟที่เห็นภาพอันสยดสยองถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“………”
“เป็นอะไรไปค่ะ? คุณเฟ”
“ปะ..เปล่าครับไม่มีอะไรครับ”
“เหรอค่ะ? ท่างั้นฉันขอตัวก่อนส่วนเรื่องเสื้อฉันจะเอากลับไปซักแล้วคืนให้พรุ้งนี้นะคะ”
“เดี๋ยวครับรอก่อน!!”
“??”
“หน้าของคุณเปื้อนคราบเลือดแมลงตะกี้นะครับ”
“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไรซักอีก เดี๋ยวพอมันแห้งเดี๋ยวมันก็หายไปเองแหละค่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
“ไม่ได้นะครับ ปล่อยไว้แบบนี้มันดูไม่ค่อยดีหรอกครับ อยู่นิ่งๆสักพักเดี๋ยวผมเช็ดให้นะครับ”
เขาใช้ผ้าที่นำติดตัวมาด้วยเช็ดไปบริเวณรอบๆปากของบเรนจนคราบสีเขียวนั้นหายไปจนหมดเกลี้ยง จึงค่อยเก็บผ้านั้นกลับเข้าไปในกระเป๋าดั้งเดิม
“………เป็นคนเจ้าชู้โดยธรรมขาติจริงๆนะคะ คุณนะ”
“เมื่อกี้พูดอะไรนะครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ ไม่มีอะไรไรหรอก เอาไว้เจอกันที่เมืองนะคะ”
“เดี๋ยวครับคุณลืมขวดน้ำชา–“
“อันนั้นฉันยกให้ค่ะ!! เขิญดื่มได้ตามสบายเลยนะคะ!!”
บเรนวิ่งจากไปโดยทิ้งกระติกน้ำชาแบบพกพาเอาไว้ให้เฟดื่มแก้กระหาย
“เป็นอะไรของเธอกันนะ..ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลยนี้น่า….”
เมื่อพูดจบเขาก็ยกกระติกน้ำชาที่บเรนทิ้งไว้ให้ขึ้นมาดู แต่ก็พบเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น กระติกน้ำชาที่มันควรจะอยู่ในมือเขาตอนนี้ได้หายไปเรียบร้อยแล้ว
“อุแหวะ หวานเป็นบ้านี้มันชาอะไรกันวะ เสียดานใบชาเป็นบ้า”(ภาษาต่างแดน)
จู่ๆก็มีเสียงบ่นที่แสดงความไม่พอใจออกมาจากด้านหลังของเฟ เมื่อหันกลับไปก็พบกับชายคนหนึ่งกำลังนั้งอยู่บนกิ่งของต้นไม้ และกำลังถือกระติกน้ำชาของบเรนไว้อยู่
“แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอก ชาห่วยๆเช่นนี้ มันก็เหมาะกับคนเช่นเจ้าแล้วละ”
เขาโยนกระติกชากลับคืนมาให้กับเฟและก่อนที่เขาจะจับมันไว้ได้กระติกก็ถูกแยกเป็นสองส่วน น้ำชาที่อยู่ในกระติกกระจายเปรอะเปื้อนร่างของเขา
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าเชียวมันเหมาะกับมากจริงๆด้วย!!! ให้ตายสิ ข้านี้มองไม่ผิดเลยจริงๆ!!”(ภาษาต่างแดน)
“…เจ้าเป็นใครและต้องการอะไร ถึงมาหาเรื่องข้ากัน”(ภาษาต่างแดน)
“นอกจากจะกลายเป็นพวกไร้ค่าที่ไร้ซึ่งปราณแล้ว เจ้ายังความจำเลอะเลือนเช่นเดียวกับพวกคนแก่อีกรึไง หลิว เฟย์”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปรู้ชื่อของข้ามาจากไหน แต่ข้าคิดว่าข้าไม่รู้จักเจ้าหรอกนะ เจ้าหัวขโมย”
“ชิ!! เจ้านี้มันน่าหงุดหงิดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลย”
เขากระโดดลงมาจากต้นไม้และหยิบดาบของเฟย์ที่วางไว้ใต้ต้นไม้ขึ้นมาดูอย่างถี่ถ้วน
“หืม~ เป็นดาบที่ดีนี้ ทั้งรูปร่างและน้ำหนักใกล้เคียงกับดาบของพวกเราเลย”
ดาบของเฟที่อยู่ในมือของเขานั้นค่อยๆมีรอยร้าวทีละน้อย
“แต่ถึงอย่างงั้นของเลียนแบบมันก็ยังเป็นได้แค่ของเลียนแบบอยู่วันยังค่ำละนะ”
ใบดาบนั้นแตกละเอียดและร่วงลงสู่พื้น หลงเหลือไว้เพียงด้ามที่ยังคงอยู่ในมือของเขา
“เอ้า คืนให้”
เขาโยนด้ามดาบกลับคืนไปให้กับเฟ และเฟก็รับมันเอาไว้
‘…แม้แต่ดาบของเราก็ทนไม่ได้งั้นเหรอ… พลังของเขาน่าจะอยู่ในระดับปรมจารย์แล้วสินะ ถ้าสู้ตรงๆตอนนี้เราแพ้แน่..’
เขามองด้ามดาบที่อยู่ในเมืองของเขา พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก
“เป็นสีหน้าที่ดีนี้ คงรู้ซึ่งถึงความอ่อนแอ่ของตัวเองแล้วสินะ หลิว”
“……..”
“เลือกที่จะเงียบงั้นรึ.. น่าเบื่อเป็นบ้า แต่เอาเถอะ พอรู้ว่าเจ้าอ่อนแอมากถึงขนาดนี้เป้าหมายของข้าไม่ใช่เจ้าอีกต่อไปแล้วละ”
“……”
เขาเดินเข้ามาหาเฟที่คงยืนเงียบไม่ตอบโต้อะไร และค่อยยืนหน้าเข้ามาใกล้ๆเขา
“จริงๆคนที่ข้ามีธุระด้วยคือปีศาจวัว แต่ถ้าเจ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้ข้าจับนังปีศาจจิ้งจอกที่อยู่กับเจ้าไปถวายให้กับฮ่งเต้ก็คงไม่เป็นอะไรสินะ”
“!!!!!”
เฟกำหมัดเอาไว้แน่นและต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเขา แต่ชายคนนั้นก็สามารถหลบได้แบบสบายๆ และถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเจ้าคิดจะแตะต้องนางเจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!!!”
“มันต้องแบบนี้สิ!! ถึงค่อยน่าสนุกหน่อย”
ชายคนนั้นพุ่งเข้ามาเฟและรัวหมัดใส่เฟอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางเฟเองก็ทำได้เพียงแค่ปัดป้องและป้องกันเท่านั้น
“เอ้าๆๆ เป็นอะไรไป!! ไม่เห็นเหมือนที่ปากดีไว้เลย!! มัวแต่ตั้งรับแบบนั้น เจ้าไม่มีวันชนะข้าได้หรอกนะ!!”
“………”
เฟยังคงไม่ตอบอะไรและยังคงตั้งรับหมัดที่ถูกรัวนั้นอย่างต่อเนื่องจนแขนของเขายังมีรอยชำเขียวเต็มไปหมด
“เอ้า!!! รับให้ดีๆละหลิว!!! นี้เป็นของขวัญจากเพื่อยเก่าของเจ้ายังไงละ!!”
หมัดสุดท้ายจากกำปั้นด้านซ้ายถูกปล่อยออกมาโดยหวังที่จะปิดบัญชีเฟอย่างง่ายดาย
“ขอปฏิเสธ”
“!!!!”
เขาตั้งสมาธิและหลบหมัดนั้นอย่างฉิวเฉียดและใช้ศอกสวนกลับไปที่ปลายคางของเขาอย่างแม่นยำ
กึกก!!
แขนของเฟถูกเขาอีกจับเอาไว้ทันทีโดยไม่ปล่อยให้เขาได้ชักกลับไป แรงบีบจากมือนั้นมหาศาลจนได้ยินเสียงของกระดูกของเฟย์กรีดร้องออกมา
“มันเบาไปโว้ย!! ของจริงมันต้องแบบนี้ต่างหาก!!!”
“อึก!!”
เขาใช้กำปั้นอีกข้างชกไปที่ของตัวเฟจนกระเด็น แต่ถึงอย่างั้นเขาก็ถูกแขนดึงกลับมาและถูกเตะซ้ำไปที่เดิมจนลอยออกไปกระแทกกับต้นไม้
โชคดีที่เขาไม่ได้หมดสติไปในทันทีเขาจึงรีบลุกขึ้นยืนขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกได้ถึงกระดูกหลายท่อนที่แตกจากการกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง ส่วนแขนของเขาเองก็มีสภาพไม่ต่างกันมากนักเท่าไหร่นัก
“อ้วกกก!!”
เขาสำรอกเลือดจำนวนมากออกมาจากปากของเขา แต่ถึงอย่างงั้นสายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
“เฮ้อ~ น่าเบื่อชะมัด ทำไมเจ้าถึงอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้กันนะ แถมยังมีแค่แขนข้างเดียวอีก คงสู้ลำบากน่าดูเลยนะ หลิว”
“หุบปากไปเถอะ.. แค่แขนข้างเดียวสำหรับเจ้ามันก็พอแล้ว”
“ฮ่าๆๆๆ ยังอุส่าปากดีได้ถึงขนาดนี้ก็ดี!! ข้าจะได้จัดการเจ้าได้อย่างสบายใจหน่อย!!”
“!!!!”
เขาพุ่งเข้ามาเร็วกว่าเดิมจนเฟตอบสนองความเร็วนั้นไม่ทัน หมัดของเขานั้นเล็งไปที่บริเวณอก แต่ก่อนที่มันจะไปถึงมันก็ถูกหยุดไว้เสียก่อน
“โห~ นึกว่าใครซะอีกที่แท้ก็ยาหยีของข้านี้เอง”
“หุบปากเน่าๆของเจ้าไปเถอะ จิน”
“พูดแบบนี้กับคู่หมั้นคนใหม่ของเจ้าจะดีรึไงหยิน”
“ข้าจำไม่เห็นได้ว่าข้าเคยยอมรับเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้านะ จิน”
“เจ้าจะมาคัดค้านอะไรได้นี้คือเรื่องที่พวกผู้ใหญ่ตัดสินใจกันไปแล้ว”
“เจ้ากับข้าก็โตแล้วด้วยกันทั้งคู่ เรื่องความรักเจ้ายังให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจกันอีกเหรอ แถมยังพูดโอ้อวดอย่างภาคภูมิราวกับเด็กน้อยอีก ช่างไม่รู้จักโตเอาเสียเลย”
“นี้เจ้า!!!”
เมื่อเขาโวยวายและพยามจะโจมตี หยินก็ใช้มีดที่ซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อออกมาจี้ไปที่คอของเขาอย่างรวดเร็ว
“อย่ามาอวดดีเจ้ามันก็แค่ระดับปรมาจารย์ระดับ3 ส่วนข้าระดับ9 คิดรึไงว่าเจ้าจะสู้ข้าได้”
“คิดจะเข้าข้างคนทรยศรึไงกัน หยิน สตรีที่สูงศักดิ์เช่นเจ้าไม่สมควร จะมายุ่งกับคนชั้นต่ำอย่างมันเลยด้วยซ้ำ!!”
“ข้าจะทำอะไร มันไปเป็นธุระของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“คิดดีแล้วเหรอว่าเจ้าจะทำแบบนี้”
“คิดว่าข้าล้อเจ้าเล่นรึไงกัน?”
หยินปล่อยจิตสังหารออกมาเต็มที่เพื่อแสดงเจตนาของตัวเองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ชิ!! เรื่องนี้ถึงหูท่านอาแน่ จำไว้เถอะ!!”
จินสะบัดมือของหยินทิ้งและก็โดดหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านพี่เฟย์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าไม่ไรมากหรอก…แค่พักสักคิดว่าน่าจะหาย–“
“ท่านพี่!!!”
หยินรีบประคองร่างที่กำลังจะล้มลงเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เฟได้หมดสติไปอย่างสมบูรณ์แล้ว