เหยียนฉีอยู่ในแวดวงบันเทิง เรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้เธอไม่มีทางไม่รู้
"ใจของคนมันยากแท้หยั่งถึง ก็เป็นเพราะว่าลูกชายคนโตเกิดเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ขึ้น คนนอกถึงได้จับตาดูยังไงหล่ะ ถ้าเยี่ยแจว๋ไม่ทำอะไรสักอย่าง เยี่ยจิงซิงจะยืนหัวโด่อยู่ในบริษัทได้หรอ คงไม่มีใครมองจิงซิงอยู่ในสายตาหรอก เยี่ยแจว๋ก็เหลี่ยมใช่ย่อย ใช้เรื่องนี้เพื่อที่จะมาแสดงอำนาจของตัวเองให้คนอื่นได้เห็น เพราะงั้นจิงเฉินเลยต้องลงจากตำแหน่ง และเป็นได้แค่ผู้ปิดทองหลังพระอยู่หลังจิงซิงเท่านั้น" ตอนที่ซินเหยาพูดสัมผัสได้ถึงความโศกใจอยู่เล็กน้อย นี่เป็นเรื่องของคนอื่น จะไปยุ่งทำไมขนาดนั้นล่ะ ซินเหยายิ้มกลบเกลื่อนและพูดกับเหยียนฉีว่า : "อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนรวย เล่นบทละครน้ำเน่าไว้เยอะมั้ง เธอก็น่าจะเข้าใจดีหนิ"
เหยียนฉีเพียงแค่มองบน
"นิสัยอย่างจิงเฉินที่จะปล่อยให้พี่ชายได้ตำแหน่งไปงั้นหรอ? มันแปลกไปหน่อยหรือป่าว ฉันกลับคิดว่าเขามีแผนที่จะมาทำให้พี่ชายและพ่อของตัวเองแพ้ราบเป็นนาบกลองมากกว่า" และพูดขึ้นต่อว่า "เขาเข้ามาจัดการงานในบริษัทก็หลายปีแล้ว ฉันเดาว่าอำนาจทุกอย่างของเยี่ยหวงมากกว่าร้อยละเจ็ดสิบอยู่ในมือเขาหมดแล้ว เขาเป็นสุนัขจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์มาก ไม่สามารถมีใครมาแหย่เขาได้ง่ายๆหรอก"
ซินเหยาพูดขึ้นเสียงดังลั่นและยกนิ้วโป้งให้ฉีฉีและพูดว่า "ฉีฉี เธอพูดถูกต้องที่สุด"
ลั่วหลิงกับเข่อหลานยังเด็กอยู่ นอกจากซินเหยาแล้ว ไม่มีใครที่รู้ว่าเบื่องลึกเบื่องหลังของเด็กสองคนนี้คืออะไร
เพราะงั้นซินเหยาเลยไม่ได้พูดเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวตระกูลเยี่ยให้ฟังเลย ถึงแม้ว่าลูกน้อยของเธอจะฉลาดขนาดไหน แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นเด็กอยู่
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างเมามันอยู่นั้น ลั่วหลิงก็เอียงหัวแอบฟังอยู่อย่างเงียบๆ
เข่อหลานเห็นสีหน้าของพี่ชายที่ดูเคร่งเครียด
ลั่วหลิงขมวดคิ้วขึ้น จับตะเกียบของตัวเองอย่างแน่นมาก
ข้าวแค่มื้อเดียว เข่อหลานกินได้อร่อยถึงขนาดนี้เชียวหรือ
ลั่วหลิงยังดี ไม่ต้องให้ใครมาเป็นห่วง
มีพ่อแม่คนเดียวกันชัดๆ กินข้าวหม้อเดียวกันตั้งแต่เล็ก ถ้าเทียบความสุขุมของลั่วหลิงแล้วล่ะก็ เข่อหลานแพ้แบบราบคาบ
กินเยอะจนท้องป่องขึ้นมาขนาดนั้น แต่เธอก็ยังทนได้อยู่อีก
ซินเหยาหายาย่อยอาหารให้เธอ และกอดเธอไว้นวดๆท้องให้
เข่อหลานที่กำลังซบอยู่ในอกของซินเหยา ดูเป็นเด็กดีและดูน่ารักมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และพูดขึ้นว่า "หม่าม๊า ตัวของหม่าม๊านุ่มมาก หอมอีกต่างหาก หนูชอบที่หม่าม๊ากอดหนูไว้แบบนี้"
"ได้สิ ถ้าหม่าม๊าว่างหม่าม๊าจะกอดหนูทุกวันเลย" ซินเหยาพูด
หลังจากที่ลั่วหลิงกินเสร็จก็เอาถ้วยไปล่าง และเดินเข้าห้องของตัวเองไป
ลั่วหลิงเปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเอง มือสองข้างอันเล็กบินไปบนคีบอร์ดอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษครับ ผมคิดไม่ถึงว่าคลิปของจิงซิงที่ปล่อยออกไปจะทำให้บริษัทและคุณต้องเจอกับเรื่องแย่แบบนี้" หน้าของลั่วหลิงอยู่ภายใต้แสงสลัวๆของโน๊ตบุ๊ค มันดูเกร็งเล็กน้อย สายตาก็ดูโศกไปนิด
ถ้าหากเวลาที่เขาโตขึ้นไป จะต้องแกร่งกว่าใครบางคนแน่ๆ
หลังจากที่จิงเฉินเห็นข้อความที่ส่งมา ก็ขมวดคิ้วขึ้น
ไม่รู้เลยว่าคนที่ส่งมาเป็นใครกันแน่ มีเป้าหมายอะไร จิงเฉินรู้สึกสงสัยมากว่าใครส่งมา
และพิมพ์ตอบกลับไปว่า "คลิปพวกนั้นคุณเป็นคนปล่อยเองหรอ?"
"ใช่"
"ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น จิงซิงทำอะไรไม่ดีกับคุณไว้หรือป่าว" จิงเฉิรู้สึกอย่างรู้ขึ้นอีก
"เขารังแกคนที่ไม่ควรรังแก"
"ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าเรื่องนี้มันำให้ผมแย่ แล้วจะแก้ไขอย่างไรให้ผม"
"คุณอยากได้อะไร"
"ผมอยากได้เยี่ยหวงกลับมา ให้ผมได้เป็นประธานต่อ ทุกอย่างในเยี่ยหวงต้องกลับมาในมือผม" จิงฉินพูดแกล้งเล่น
ที่จริงทุกอย่างของเยี่ยหวงอยู่ในมือจิงเฉินหมดแล้ว เขาแค่อยากจะแกล้งแฮ็กเกอร์คนนี้เท่านั้น
จิงซิงตอนนี้คงจะคิดว่าเยี่ยหวงเป็นของตัวเอง แต่เขาไม่ได้คิดว่าจิงเฉินเป็นคนให้เขา เขาตอนนี้ก็แค่ช่วยจิงเฉินทำงาน หาเงินให้จิงเฉินเท่านั้น
แสงสลัวๆของไฟ มันบดบังใบหน้าอันนิ่งขรึมของลั่วหลิง แต่มันก็ยังดูอ่อนโยนอยู่
ผ่านไปหลายนาที อีกฝั่งของหน้าจอก็ตอบกลับมาว่า "ได้"
ตอนนี้จิงเฉินรู้สึกตกใจมาก คนที่พูดมันโอ้อวดไม่อายปากจริงๆ
ถ้าเกิดเป็นทุกครั้งจิงเฉินคงจะหัวเราะดังออกมาแล้ว แต่ครั้งนี้อีกฝั่งดูท่าทางจริงจังมาก ถึงแม้ว่าอีกฝั่งจะไม่ใช้คำพูดที่สวยหรู มีแค่คำว่า'ได้'แค่คำเดียว แต่มันทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝั่งมีความจริงใจ
"คุณรู้ไหมว่าคำว่า'ได้'คำนี้มันหมายถึงอะไร" จิงเฉินถาม
"หมายความว่าผมตอบตกลง ผมจะเอาเยี่ยหวงกลับมาให้คุณ" เสียงตอบกลับที่ดูคูลมาก
"นี่มันอาจจะเป็นความคิดที่มโนไปอยู่หรือป่าว คุณคิดได้ไงว่าจะช่วยผมได้"
"ขนขาผมไม่ร่วงสักเส้นก็ทำให้คุณลงจากตำแหน่งได้ไงล่ะ"
คำพูดนี้มันใจกล้ามากจริงๆ ถ้าเกิดว่าของที่เป็นของจิงเฉิน อย่าหวังว่าใครจะเอามันไปได้
แต่ว่าจิงเฉินรู้สึกสนใจไอ้คนที่พูดโอ้อวดนี้ขึ้นมาก สายตาของเขาจ้องไปที่คีบอร์ด กดพิมพ์ลงไปมาอย่างรวดเร็ว หน้าจอตอนนี้เต็มไปด้วยโค้ดรหัสมากมาย
"อย่าเสียแรงเปล่าๆเลย คุณหาผมไม่เจอหรอก"
สายตาที่ดูถูกของจิงเฉินมันลงลดลงมาก หาไม่เจออะไรจริงๆ ที่อยู่IPก็หาไม่เจอ
"ทำไมคุณถึงต้องช่วยผม แค่เรื่องนั้นทำให้ผมแย่งั้นหรอ?" จิงเฉินพิมพ์ส่งกลับไป และยังพยายามอย่างสุดฤทธิ์ที่จะหาที่อยู่IP
"เพราะคุณเป็นป๊ะป๋าผมไงล่ะ เพราะงั้นถึงได้ตอบรับคำขอของคุณ"
จิงเฉินตอนนี้เห็นตัวอักษรต่างๆโผล่ขึ้นมา มือของเขาสั่นหน่อย สุดท้ายหน้าจอคอมก็มีโค้ดต่างๆขึ้นมา สุดท้ายคอมก็ดับไป
ลั่วหลิงรออยู่พักหนึ่ง ไม่เห็นทางนั้นจะมีอะไรตอบกลับมา หรือว่าจะทำให้เขาตกใจเกินไป?
เมื่อได้ยินเสียงเท้าเดินที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลั่วหลิงก็ปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊คลง และจะไปพักผ่อน
ลั่วหลิงไม่ได้ทำให้จิงเฉินตกใจ แต่ทำให้เขาหัวร้อนต่างหาก จิงเฉินไม่รู้เลยว่าคนที่มาแกล้งเขาเล่นคนนี้เป็นใครกันแน่
ลูกชาย? ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกชายที่โตขนาดนี้?
เขาควรจะดีใจนะ ดีที่ฝั่งนั้นบอกมาว่าเป็นลูกชาย
คอมดับไปแล้ว กว่าจะรอเปิดกลับมาได้ เลนส์กล้องของทางนั้นมันก็มืดไปแล้ว คงจะออฟไลน์ไปแล้ว
จิงเฉินงงไปหมด หรือว่าจะเข้านอนแล้ว?
ดูไปที่นาฬิกา ตอนนี้แค่สองทุ่มครึ่งเองนะ แฮกเกอร์สมัยนี้นอนเช้าขนาดนี้ไปแล้วหรอ? ทำเอาขายหน้าพวกแฮกเกอร์คนอื่นไหม?
MANGA DISCUSSION