ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 80 : หม่ามี้ ผมจะปกป้องหม่ามี้เอง
แต่เรื่องที่ทำให้ถังซินเหยาไม่คาดคิดเลยก็คือจากที่ป่าปี้เป็นคนร้ายๆกลายเป็นคนสุภาพบุรุษและไม่ได้จะจูบแบบที่เคยเป็นแล้วน่ะสิ
โอ้ย…….แอบผิดหวังนิดนึงนะเนี่ย
หึ! เธอไม่ได้หวังให้ป่าปี้จูบเลยเถอะ
เยี่ยจิงเฉินเม้มปาก พร้อมกับยิ้มด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาข้างๆหูถังซินเหยา ลมหายใจอุ่นๆของเยี่ยจิงเฉินกระทบกับผิวของเธอด้วยความรู้สึกที่คลมเคลือทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย
ถังซินเหยาได้ยินเสียงของเยี่ยจิงเฉินใช้น้ำเสียงทุ่มและอ่อนโยนกระซิบข้างหูของเธอ : "เธอจำวันที่ฉันมาช่วยเธอ แล้วจะคำถามที่เธอถามฉันได้มั้ย?"
ถังซินเหยารู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดระหว่างเธอและถังซินเหยาจนทำเอาเธอหน้าแดงระเรื่อไปถึงต้นคอของเธอ
แม่เจ้า สิ่งที่เธอรับมือไม่เคยได้เลยคือความอ่อนโยนของป่าปี้ที่ทำให้เธอรู้สึกเสียอาการมากกว่าที่ป่าปี้จูบเธอเสียอีก
แต่ว่าที่ป่าปี้ไปช่วยเธอเมื่อคืน เธอถามอะไรป่าปี้ไปนะ?!
ถังซินเหยาครุ่นคิด เธอได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปมั้ยนะ!
แต่สิ่งที่เธอไม่ควรจะพูดที่สุดก็ถูกป่าปี้ตัดคำไปแล้วนี่นา ยังไม่ได้พูดอะไรเลย……งั้นก็……
ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ ดวงตาของถังซินเหยาก็เป็นประกายขึ้นมา
ไอคิวและความจำของเธอนี่เยี่ยมจริงๆเลย แค่โดนเยี่ยจิงเฉินสะกิดนิดหน่อยก็นึกขึ้นได้แล้ว
QAQ เธอนึกออกแล้วล่ะ
ถังซินเหยายังจำตอนที่ป่าปี้มาช่วยเธอออกจากลิฟต์ได้ ตอนที่ป่าปี้เดินเข้ามาหาเธอ ร่างสูงใหญ่ของเขาที่ทับอยู่บนตัวของเธอและอยู่ตรงหน้าของเธอ สำหรับเธอแล้วราวกับพระมาโปรดเลยล่ะ
ดังนั้น ณ ตอนนั้นเธอเลยนึกถึงคำพูดของเทพจื่อเซี่ยที่พูดกับจื่อจวินเป่าว่า : "คนที่ฉันรักเขาเป็นฮีโร่ สักวันนึงเขาจะขี่เมฆมาขอฉันแต่งงาน"
ในตอนนั้นเธอถึงกับเหม่อพร้อมกับถามป่าปี้ไปว่า : "ใช่ที่ฉันถามว่าคุณจะขี่เมฆมาแต่งงานกับฉันมั้ยคะ ?"
แม่เจ้า โอ้ยให้ตายเถอะ เธอโดนครอบงำด้วยนางเอกในวรรณกรรมอะไรตอนนั้นนะ? แล้วยังถามคำถามเลี่ยนๆแบบนั้นอีก
"เธออยากรู้คำตอบมั้ย? เยี่ยจิงเฉินถามเธอต่อ"
"……."
ถังซินเหยากลืนน้ำลาย เธอไม่รู้เลยว่าในตอนนี้เธอควรจะพยักหน้าหรือส่ายหน้าดี!
ถังซินเหยาตัวแข็งทื่อ รอยยิ้มเจื่อนๆปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเธอ
แล้วถ้าป่าปี้ตอบว่ายินยอมที่จะแต่งงานกับเธอล่ะ เธอควรจะตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธนะ?
ถ้าป่าปี้คิดว่าเธอคิดเองเออเอง ต่อไปถ้าเธอเจอหน้าป่าปี้ เธอคงจะรู้สึกอึดอัดมากแน่
ไม่รีรอให้ถังซินเหยาตอบคำถามที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบเยี่ยจิงเฉินยังไง เธอเพียงได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของเยี่ยจิงเฉินจนรู้สึกได้ถึงความเซ็กซี่ผ่านทางน้ำเสียงของเขาข้างๆหูของเธอ
ถังซินเหยายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอยู่นาน จนรถของเยี่ยจิงเฉินขับไปจนลับตาแล้วเธอถึงได้สติกลับมา
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นลงแล้วเช่นกัน…..
ตอนที่ป่าปี้มากระซิบข้างหูเธอ เขาพูดว่า : "ถือว่าคำตอบนี้เป็นรางวัลก็แล้วกันนะ ถ้าเธออยากรู้คำตอบก็อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ"
มันหมายความว่าอะไรนะ ?!
เอ่อ……ใครเขาอยากะรู้คำตอบกันล่ะ?
QAQ ป่าปี้กลับมาก่อน เธอผิดไปแล้ว เธออยากรู้จริงๆ
……
ในตอนที่เธอทานข้าวเย็นอยู่นั้น ถังซินเหยาทานอาหารที่เชฟตัวน้อยลั่วหลิงและเค่อหลานลูกๆของเะได้เตรียมไว้ให้ เธอนึกถึงโจ๊กที่เยี่ยจิงเฉินทำให้เธอ เธอก็ยกยิ้มขึ้นมา เธอดูไม่ออกเลยจริงๆว่าเยี่ยจิงเฉินน่ะจะทำอาหารเป็น แล้วก็ทำได้อร่อยมากๆด้วย
ถังซินเหยานึกถึงโจ๊กเมื่อตอนกลางวันขึ้นมา
เค่อหลานใช้มือสะกิดพี่ชาย พร้อมกับใช้มือของเธอชี้ไปทางถังซินเหยาคนเป็นแม่ เค่อหลานมองพี่ชายพร้อมพูดเสียงเบาๆกับลั่วหลิงผู้เป็นพี่ชาย : "พี่คะ พี่ดูหม่ามี้สิคะ ท่าทางแบบนี้หม่ามี้ต้องมีแฟนแล้วแน่ๆเลยค่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้ หนูฟันธง!"
ลั่วหลิงเหลือบมองถังซินเหยาทีกำลังยิ้มน้อยยยิ้มใหญ่อยู่พร้อมกับเม้มปากแล้วตอบน้องสาวด้วยเสียงแผ่วว่า : "อื้อ!"
เค่อหลานทำหน้ามุ่ยด้วยความลำบากใจแล้วพูดว่า : "แต่หนูก็ชอบป่าปี้อยู่ดีค่ะ ถ้าเกิดป่าปี้กลับมาล่ะคะ เราจะทำยังไง?"
ลั่วหลิงหัวเราะพร้อมกับพูดว่า : "บางทีแฟนหม่ามี้อาจจะเป็นป่าปี้ของเราก็ได้นะ!"
"ไม่ใช่ว่าป่าปี้ยังไม่ได้กลับมาจากดาวอังคารหรอคะ? แล้วแฟนของหม่ามี้จะเป็นป่าปี้ได้ยังไงกัน?" เค่อหลานถามอย่างงงๆ
"ป่าปี้อาจจะกลับมาแล้วก็ได้นะ แต่หม่ามี้แค่ไม่ได้บอกเรา!" ลั่วหลิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ทำไมล่ะคะ?" เค่อหลานเคืองใจเล็กน้อย "ทำไมหม่ามี้ไม่บอกเราล่ะคะ?"
"หม่ามี้อยากเซอร์ไพรส์พวกเราไงล่ะ" ลั่วหลิงพูดด้วยสีหน้าเดิมไม่เปลี่ยน
สติสตังของถังซินเหยากลับมาและพบว่าลูกของเธอเลือกทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลิน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไปเลยทันที พร้อมกับพูดกับลูกๆด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : "ฮัลโหลเด็กๆ หม่ามี้ไม่อนุญาตให้หลิงหลิงกับหลานหลานเลือกทนนะคะ"
"หม่ามี้คะ หม่ามี้จำงานกีฬาสีฤดูใบไม้ร่วงด้วยนะคะ" เค่อหลานเชื่อฟังคำพูดของลั่วหลิง และรอคอยงานกีฬาสีที่จะมาถึงนี้มากๆ
ถังซินเหยา : …….
ทำยังไงดี เธอยังหาผู้มารับบทเป็นแฟนกำมะลอของเธอได้เลยนะ จะร้องไห้!
ตอนกลางคืนเค่อหลานและลั่วหลิงเข้านอนไปก่อนแล้ว ถังซินเหยาหยิบยาที่เยี่ยจิงเฉินให้เธอออกจากกระเป๋า
เธอมองแก้วน้ำอุ่นพร้อมกับกินยาเข้าไป
เมื่อเธอหันหลังกลับมาเธอก็เจอกับลูกชายของเธอลั่วหลิงเดินลงบันไดมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้องเธออยู่
"หลิงหลิงมีอะไรรึเปล่าคะ? พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนไม่ใช่หรอ? ลูกควรเข้านอนได้แล้วนะคะ" ถังซินเหยาวางแก้วลงก่อนจะรอยยิ้มหวานพูดกับลูกชายของตัวเอง
ลั่วหลงเดินเข้าไปหาถังซินเหยาพร้อมกับมองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
"โดนใครที่บริษัทแกล้งมาหรอครับหม่ามี้" จู่ๆลั่วหลิงก็ถามถังซินเหยาขึ้นมา แต่น้ำเสียงที่พูดประโยคนั้นสามารถครอบงำผู้ฟังได้
ลูกชายเรา ยิ่งโยยิ่งเหมือนเยี่ยจิงเฉินเข้าไปทุกวันแล้วนะ
"ปะ……เปล่า……เปล่าครับหม่ามี้" ถังซินเหยามองสายตาคู่นั้นของลูกที่เหมือนกันกับเยี่ยจิงเฉินมองมาที่เธอทำเอาเธอถึงกับรู้สึกผิด : "ไม่ได้โดนรังแกหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หม่ามี้จัดการได้ ไม่ต้องห่วงนะคะ ไปเข้านอนได้แล้ว"
"ถ้าหม่ามี้โดนรังแกมาจริงๆ หม่ามี้อย่าปิดบังเลยนะครับ ผมจะปกป้องหม่ามี้เองครับ" ลั่วหลิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ถังซินเหยา : ……..
"หลิงหลิง หม่ามี้รู้ค่ะ ว่าหลิงหลิงเป็นเด็กดีเชื่อฟังหม่ามี้ คิดจะปกป้องหม่ามี้แล้ว หม่ามี้รักหนูที่สุดเลย จุ๊บๆ" ถังซินเหยากอดลั่วหลิงผู้เป็นลูกชายพร้อมกับหอมแก้มนุ่มๆของลูก
ลั่วหลิงไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ สีหน้าของเขาก็ยังคงเรียบนิ่งเช่นเดิมแต่หูของเขาขึ้นสีแดงไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
หืม…….ลูกชายของเธอเนี่ยน่ารักที่สุดเลย
โดยเฉพาะสีหน้าที่ทำเป็นเย็นชาแต่จริงๆแล้วกำลังเคอะเขินอยู่
ลั่วหลิงกลับไปยังห้องของตัวเอง สองมือของเขาหยิบเอาแล็บท็อปของตัวเองที่ซื้อด้วยเงินอั่งเปาที่ได้มา
ใบหน้าเล็กของเขาเย็นชา มือของเขากดแป้นพิมพ์ในจอแล็ปท็อปอยู่ สิบนิ้วของเขากดจออย่งรวดเร็ว
หลังจากผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง ใบหน้าของเขายกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
ลักยิ้มบนแก้มบุ๋มของลั่วหลิงโผล่ขึ้นมาทำให้หน้าของเขาดูเป็นเด็กน้อยกว่าเดิม ทำให้เขาดูอ่อนโยนและน่ารักมากขึ้นกว่าเดิม
คนในโลกใบนี้ จะไม่มีใครสามารถมารังแกพวกเขาสามแม่ลูกได้อีกแล้วล่ะ
เดี๋ยวลั่วหลิงคนนี้จะจัดการให้ดู ฮึ!!!