ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 77 : ถูกป่าปี้จองตัวไปอีกสิบชาติแล้ว
"อื้อ….." ถังซินเหยารู้สึกหนักๆที่ตาของเธอ ก่อนที่เธอจะหมดสติไป
ก่อนที่เธอจะหมดสติ เธอได้ยิน่าปี้พูดอะไรกับสักอย่าง เพียงแต่เธอได้ยินไม่ชัด
ในความฝัน ความเย็นชาและความเข้าถึงยากของป่าปี้นั้นกลับกลายเป็นว่าสายตาของป่าปี้ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนต่อเธอ และมันก็ยังตราตึงอยู่ในตาของเธอ
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา ถังซินเหยารู้สึกว่าร่างกายของเธอรู้สึกกระอักกระอวนไปทั้งตัว
เธอไร้เรี่ยวแรง เพียงแค่จะลืมตาขึ้นยังไม่มีแรงเลย
ลำคอของเธอก็ปวดมากเหลือเกิน ราวกับว่าเพิ่งโดนมีดเหล็กมายังไงอย่างงั้น ทำให้เธอถึงกับขมวดคิ้ว
แต่แล้วก็มีคนคนนึที่ยกศีรษะของเธอขึ้นพร้อมกับเอาน้ำอุ่นมาให้เธอดื่ม ทำให้เธอรู้สึกว่าลำคอของเธอสบายขึ้นมาบ้างเล็กน้อยจากเมื่อกี้นี้ ราวกับว่าไฟร้อนที่อยู่ในลำคอของธอเมื่อกี้นั้นได้ดับลงไปแล้ว
เธอถอนหายใจอย่างสบายใจครั้งหนึ่งจากนั้นก็หลับต่อไป
แต่เธอรู้สึกได้ว่าริมฝีปากของตัวเองนั้นเจ็บเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแห้งๆตรงปากของเธอ
เธอรู้สึกขมคอเล็กน้อยจึงใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่มีรสออกหวานนิดๆ ถือว่าเป็นการคลายความฝืดให้ปากตัวเองก็แล้วกัน
ดูเหมือนว่าเธอจะเสพติดากรเลียริมฝีปากของตัวเองพร้อมกับรริมมฝีปากขาดซีดนั้นแล้ว
ริมฝีปากสีขาวซีดกับล้นสีแดงนั้นช่างดึงดูดเหลือเกิน
เธอรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่อ่อนหวานและนุ่มนิ่มกำลังงัดกับฟันของเธออยู่ในตอนนี้ เพื่อที่มันจะเข้าไปในโพรงปากของเธอ
ราวกับว่าเธอเดินเข้าไปในทะเลทรายยาวนานเป็นวัน ทั้งหิวกระหายทั้งเหนื่อย และในที่สุดเธอก็พบกับน้ำหวาน
ลิ้นของเธอเกี่ยวพันกับสิ่งนั้นตามสัญชาตญาณของเธอ
ความขมในช่องปากของเธอในตอนนี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความหวานในที่สุด
รสชาติที่หอมหวานนี้ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงรสชาติที่คั่งค้างอยู่ไม่รู้จบ
ตอนที่เธอลืมตาของเธอขึ้น เธอยังคงจำรสชาติความหวานนั้นอยู่
เธอกระดกปากราวกับว่าเธอนั้นยังสามารถจะลิ้มรสหวานนั้น
เธอลืมตาขึ้น เห็นว่าสภาพแวดล้อมรอบๆกายเธอนั้นดูผิดหูผิดตาไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังรู้สึกคุ้นกับที่ที่นี้อยู่เช่นกัน นี่มัน…..ห้องของป่าปี้นี่นา
พระเจ้าช่วย ถังซินเหยารู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที
อีกทั้งยังปวดหัวอีก แต่เธอนึกออกแล้วล่ะ
แม่เจ้า เธอโดนไอ่คนขี้เหร่อย่างเยี่ยจิงซิงแกล้งเธอ ให้เธอไปติดอยู่ในลิฟต์นี่
ตอนนั้นฉันทั้งหนาวทั้งหิว รู้สึกราวกับจะตายอยู่ในนั้นเลยนะ
แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องของป่าปี้ได้ล่ะ มันไม่แปลกๆหรอ?
"ตื่นแล้วหรอ? รู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกมั้ย?" เสียงอันคุ้นเคยดังมาถึงหูของเธอ
ถังซินเหยาลืมตาขึ้นก็พบกับป่าปี้ยืนอยู่ตรงหน้า ทำเอาเธอถึงกับตกใจ
อ๋อ ที่จริงแล้วป่าปี้เป็นคนช่วยเธอจากเรื่องเมื่อคืนจริงๆด้วย เธอไม่ได้คิดไปเอง
ตอนนี้เธอยังรู้สึกเจ็บคออยู่เล็กน้อย ริมฝีปากเธอก็รู้สึกแห้งเช่นกัน
เธอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเธอเพื่อให้ริมฝีปากของเธอชุ่มชื้นมากขึ้น
เยี่ยจิงเฉินที่เห็นถังซินเหยาแลบลิ้นออกมาเลียปากแบบนั้นถึงกับหรี่ตามอง
"เรื่องเมื่อคืนขอบคุณมากๆนะคที่มาช่วยฉัน" ถังซินเหยาอดกลั้นความรู้สึกเจ็บคอของเธอพร้อมกับพูดกับเยี่ยจิงเฉินด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
"แทนที่จะขอบคุณคุณฉันด้วยคำพูดจากปากของเธอก็ใช้การกระทำขอบคุณแทนไม่ดีกว่าหรอ" เยี่ยจิงเฉินพูดกับถังซินเหยาพร้อมกับมองไปที่เธอ
เอ่อ……..ป่าปี้ไม่ได้จะให้เธอแต่งงานกับเขาหรอกใช่มั้ย?
อ่า…….ก็ป่าปี้หล่อขนาดนี้ เธอควรจะตกลงดีมั้ยนะ? หรือว่าตกลงดี? ควรจะตกลงมั้ยนะ?
"เอ่อ……แล้วประธาานเยี่ยต้องการอะไรตอบแทนล่ะคะ?" ถังซินเหยาตอบเขาด้วยความเขินอายพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง
"เอาเงินให้เธอมาให้ฉันสักล้านนึงเป็นไง?" เยี่ยจิงเฉินนั่งลงบนเตียง
ให้ตายเถอะ……..คืนเงินล้านนึงให้ป่าปี้เนี่ยนะ? ไหนบอกจะให้แต่งงานด้วยไม่ใช่หรือไงเล่า? ไม่เอาอ่ะ
เลิกฝันได้แล้ว ในเมื่อเงินมันอยู่ในมือเธอแล้วก็ต้องเป็นของเธอสิ ใครก็ห้ามเอามันไป
ถึงป่าปี้จะขี้เมฆลอยมาอยู่ตรงหน้าก็อย่าหวังเลย
รู้สึกเหมือนเตียงยวบไปเกือบครึ่ง เมื่อป่าปี้มานั่งข้างๆเธอบนเตียง
"เงินทองเป็นสิ่งสกปรก ที่ประธานเยี่ยช่วยชีวิตฉันมันเป็นเรื่องของบุญคุณ ถ้าฉันเอาเงินมาให้คุณแทนคำขอบคุณ มันจะดูแย่เกินไปค่ะ มันจะเป็นการลดคุณค่าที่สูงส่งในตัวของคุณได้นะคะ" ถังซินเหยาอธิบายด้วยความชอบธรรมว่าให้เงินมันจะดูเหมือนเป็นการดูถูก ป่าปี้หล่ขนาดนี้ จะพูดแต่เรื่องเงินๆทองๆไม่ได้นะ
"สำหรับฉัน เงินก็แค่การเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเท่านั้นแหละ ไม่มีความหมายอะไรหรอก" เยี่ยจิงเฉินพูดตามวิถีคนรวย
แต่สำหรับคนจนผู้น่าสงสารแบบถังซินเหยาในตอนนี้แล้ว อยากจะใช้เท้าของเธอบี้หน้าอันหล่อเหลาของเยี่ยจิงเฉินเสียจริงๆเลย
ป่าปี้ คุณยังจะกล้าอวดรวยอีกมั้ย
"สำหรับผมจะพันนึงหรือร้อยล้านก็ไม่ได้ต่างอะไรหรอก เงินที่ผมมีใช้เป็นสิบชาติก็ไม่หมด"
ถังซินะเหยา : ………..
เธอคิดผิดงั้นสินะ? ป่าปี้รวยนี่เนอะ มีแต่จะวยแล้วก็รวยแล้วก็รวยขึ้นไปอีก
ป่าปี้ อวดรวยเกินเบอร์มากแล้วนะ
ไหนคนรวยช่วยซับพอร์ตกำลังทรัพย์กันหน่อยสิ
"เงินล้านนึงสำหรับผมมันก็แค่เศษเงินให้ขอทานเท่านั้นแหละ"
ถังซินเหยา : …….
ป่าปี้นี่ช่างบ้าอำนาจจริงๆเลย
เธอจะเปลี่ยนชื่อเป็นขอทานซะเลยนี่ ดูซิว่าป่าปี้ยังจะรักษาคำพูดมั้ย
"แต่เงินล้านสำหรับคุณแล้วมันคงมีค่าไม่น้อยเลย ดังนั้นก็ตอบแทนผมด้วยเงินจำนวนนั้นก็แล้วกัน" เยี่ยจิงเฉินหยุดพูดไปสักครู่พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากของเขาเผยให้เห็นท่าทีที่เจ้าเล่ห์ของเขา : "ดังนั้นก็เอาเงินล้านนึงมาตอบแทนที่ผมช่วยคุณซะ หรือว่าตัวคุณไม่มีค่าเท่าเงินล้านกันนะ?"
"แน่นอนค่ะว่าไม่" ถังซินเหยายอมรับอย่างไม่อาจปฏิเสธ
ชีวิตของเธอไม่ได้มีค่าเท่าเงินล้านหรอก ป่าปี้ปล่อยเธอไปได้เลย
"เงินก็บอกมาสิ ว่าชีวิตคุณมีค่าเท่าไหนกัน?" เยี่ยจิงเฉินเขยิบมาถามข้างๆหูถังซินเหยา
ถังซินเหยาได้กลิ่นน้ำหอมจาร่างกายของเยี่ยจิงเฉิน จังหวะการเต้นของหัวใจเธอก็รัวขึ้นจนไม่สม่ำเสมอกัน เธอขยับออกพร้อมกับพูดออกไปว่า : "ร้อยนึงค่ะ"
ล้านนึงเธอคงทำใจให้เขาไม่ได้หรอก แต่ถ้าแค่ร้อยเดียวเธอยินยอมที่จะจ่ายอยู่แล้ว
"อ๋อ ถ้าอย่างงั้นฉันให้เธอพันนึง แค่นี้สามารถที่จะซื้อได้สักสิบชาติมั้ย?" เยี่ยจิงเฉินถาม
ถังซินเหยา : ………
ป่าปี้ ป่าปี้นี่เก่งคณิตศาสตร์ใช้ได้เลยนะเนี่ย ตอนเข้าเรียนวิชานี้ป่าปี้คงจะเด็กหัวกะทิเลยป่ะ
"งั้นชีวิตนี้ของเธอในชาตินี้ ชาติหน้า ชาติหน้าของชาติหน้า แล้วก็ชาติต่อๆไปของเธมันเป็นของฉันหมดดแล้วนะ"เยี่ยจิงเฉินยืนแขนของเขากอดเอาร่างของถังซินเหยาเข้ามาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับหายใจแล้วพูดออกมาเบาๆ
ดังนั้นก็หมายความว่า ชีวิตเธอต่อจากนี้อีกิบชาติถูกป่าปี้จองไว้แล้วอย่างงั้นหรอ?!
ทำไมป่าปี้ถึงได้เหนือกว่าใครๆตลอดเลยนะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกลียดป่าปี้ลงเลย
แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาอยู่ดี ก็นี่มันโลกแห่งการมองกันที่หน้าตานี่นา
ใจดวงน้อยของถังซินเหยาเต้นรัวไม่หยุดหย่อน เธอสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและอบอุ่นของป่าปี้ที่ส่งมาถึงเธอ
จองตัวฉันสักสิบชาติอะไรกันเล่า นี่มันประโยคจีบกันชัดๆ
ถ้าเกิดป่าปี้ชอบเธอจริงๆ เธอควรจะตกลงมั้ยนะ หรือว่าควรจะตอบตกลงป่าปี้ไปเลยล่ะ
เยี่ยจิงเฉินที่เห็นถังซินเหยากำมือแน่นจึงพูดติดตลกขึ้นมา : "ดังนั้นเงินของเธอก็คือเงินของฉัน หนึ่งพันเมื่อกี้ฉันก็ไม่ต้องจ่ายให้เธอแล้ว แล้วเงินล้านนั้นเธอก็คืนฉันได้แล้ว แล้วต่อไปฉันก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เธอแล้ว แล้วก็เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาของเธอ ถ้ามีเวลาเธอก็ออกแบบงานจิวเวลรี่ให้เยอะขึ้นกว่าเดิมไง จะได้หาเงินได้เยอะๆ"
ถังซินเหยา : ………….