จริงๆแลเวขาสามารถเรียกผู้รักษาความปลอดภัยกลับไปที่บริษัทได้ แต่หากเขาไม่ไปดูให้เห็นด้วยตาของเขาเองเขาคงจะวางใจไม่ได้
ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมาก เยี่ยจิงเฉินรีบเปิดปะตูรถแล้วขับรถออกไปที่บริษัททันที
และในขณะนั้นลู่อันหรานกลับมาจากห้องน้ำและเตรียมที่จะขึ้นรถพอดี
"เดี๋ยวฉันจะให้คนไปส่งเธอนะ วันนี้ฉันมีเรื่องจะต้องไปจัดการ ขอตัวกลับก่อน" เยี่ยจิงเฉินลดกระจกรถลงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาโดยไม่ได้ปล่อยให้ลู่อันหรานขึ้นรถมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่อันหรานเมื่อได้ยินสิ่งที่เยี่ยจิงเฉินพูดในตอนนั้นก็ค่อยๆหุบลงราวกับสายลมในฤดูใบไม้ร่วง
เยี่ยจิงเฉินไม่ได้ขออนุญาตลู่อันหรานแต่อย่างไร แต่เป็นเพียงการบอกกล่าวให้เธอรับรู้เพียงเท่านั้น
ดังนั้นเขาจะไม่ได้รีรอปฏิกิริยาของลู่อันหราน เขาก็ได้ออกรถไปก่อนเสียแล้ว
เมื่อเยี่ยจิงเฉินถึงบริษัท เขาไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน แม้แต่ผู้รักษาความปลอดภัยสักคนก็ไม่มี
เขาโทรศัพท์หาหัวหน้าผู้รักษาความปลอดภัย เพื่อให้ทีมงานรักษาความปลอดภัยกลับมาที่บริษัท
อากาศหนาวขนาดนี้ เมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ติดอยู่ในลิฟต์คนนั้น เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าสถานการณ์ในลิฟต์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
และเขาก็ไม่ได้รอให้ผู้รักษาความปลอดภัยมาถึง ตัวเขาก็เริ่มออกตามหาอีกคนทันที
เขาไม่รู้เลยว่าถังซินเหยาติดอยู่ในลิฟต์ชั้นไหน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขึ้นไปดูทีละชั้นๆเท่านั้น
ลิฟต์เสีย ไฟที่บริษัทก็ดับ เขาจึงทำได้แค่ขึ้นทางบันได
"ถังซินเหยา เธออยู่ในนั้นมั้ย? ถังซินเหยา….."
ถังซินเหยาในตอนนี้แทบจะไม่รู้ว่าหนาวมากเพียงใดแล้ว รู้แค่เพียงว่าตอนนี้ร่างกายของเธอไม่มีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่เลย
โทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ในมือก็ได้ร่วงไปอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ เพราะมือของเธอแข็งจนถืออะไรไม่อยู่แล้ว
เธอได้ยินเสียงอันคุ้นเคยที่ดังขึ้น ถังซินเหยาคิดว่าตัวเองจะหนาวตายในนี้และเสียงนั้นมันเป็นเหมือนแค่ภาพหลอน
เธอได้ยินเสียงของป่าปี้อีกครั้ง เธอต้องหลอนไปเองแน่ๆเลย
ตอนนี้ป่าปี้ออกเดตใต้แสงจันทร์ที่แสนโรแมนติกอยู่กับลู่อันหรานผู้เป็นที่รักของเขานี่นา จะมาตามหาเธอที่บริษัทได้ยังไงกัน
เธอได้ยินเสียงป่าปี้ก่อนจะตายแบบนี้ มันใช่หรอ
ไม่ใช่ว่าเพราะเธอควรจะอาลัยอาวรณ์ลั่วหลิงกับเค่อหลานหรอกหรอ?
"ถังซินเหยา เธออยู่ข้างในรึเปล่า ตอบฉันหน่อย"
น้ำเสียงของป่าปี้ดูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เสียงของเขาช่างเซ็กซี่ถึงจะแหบไปนิดนึงก็เถอะ
ถึงมันจะเป็นสิ่งที่เธอคิดไปเอง แต่เธอกับป่าปี้ทำสงครามประสาทกันอยู่นี่ ป่าปี้จะมาสนใจเธอทำไมกัน
"ถังซินเหยา ถังซินเหยา เธออยู่ข้างในนั้นมั้ย?"
"อยู่ค่ะ อยู่ อย่าเพิ่งพูดอะไรมากได้มั้ยคะ ฉันรำคาญแล้วนะ" ถังซินเหยาตอบกลับอย่างหมดความอดทน
ให้ตายเถอะ เสียงดไปแล้ว
ถึงป่าปี้จะเป็นปีศาจแต่ป่าปี้ช่วยเงียบสักพักได้มั้ยนะ
เธออยากเป็นสาวสวยที่นั่งเงียบๆ
เยี่ยจิงเฉินรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเหมือนเสียงของถังซินเหยาออกมาจากลิฟต์ ในใจของเขาค่อนข้างกระวนกระวาย เสียงของเขาก็สั่นมากๆในตอนนี้
"ถังซินเหยา เธออยู่ข้างในมั้ย?"
"ค่ะ คุณหยุดเสียงดังก่อนได้มั้ยคะ ให้ฉันอยู่เงียบๆสักพักได้มั้ย?"
"เธอโอเคใช่มั้ย ไม่ไดด้เจ็บตรงไหนใช่มั้ย"
"ไม่ค่ะ ฉันแค่จะหนาวตายแล้วเท่านั้นเอง"
แน่นอนว่าามันเป็นแค่ภาพลวงตาที่ป่าปี้ทำตัวเย็นชามาโดยตลอด แต่วันนี้ทำไมเขาถึงได้จู้จี้ขนาดนี้กันนะ?
"เธออดทนก่อนนะ ฉันจะหาวิธีพาเธอออกมาให้ได้"
"อื้อ" ถังซินเหยาตอบไปอย่างขอไปที
ต้องเป็นความแค้นที่สูงสุดฤทธิ์ก่อนตายของเธอแน่ๆที่ทำให้เธอเห็นภาพหลอนว่าป่าปี้มาช่วยเธอ
แค่เห็นว่ป่าปี้มาช่วยเธอจากภพหลอนของเธอ แค่นี้เธอก็ให้อภัยป่าปี้ไปหมดแล้วล่ะ
เยี่ยจงเฉินจับๆคลำๆไปในความมืด และแล้วเขาก็เจอท่อนเหล็กจากห้องรักษาความปลอดภัย พร้อมกับกลับขึ้นไปที่ชั้นยี่สิบอีกครั้ง
เขาใช้ท่อนเหล็กสอดเข้าไปที่ช่องเชื่อมระหว่างประตูลิฟต์และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะงัดมันให้้ออกจากกัน
เยี่ยจิงเฉินถอเสื้อสูทบนร่างกายของเขาออก พร้อมกับดึงแขนเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาขึ้นมาถึงข้อศอก เผยให้เห็นลำแขนที่แข็งแรงของเขา เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีของเขาไปกับการงัดลิฟต์ผ่านช่องว่างนั้นจนงัดมันแยกจากกันพอมีช่องว่างให้เห็นคนข้างในได้ แต่เพราะเขาใช้แรงมากเกินไปจึงทำให้เขาหอบ
"ถังซินเหยา ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?" เยี่ยจิงเฉินถามถังซินเหยา
ถังซินเหยาคิดว่าตัวเองกำลังจะตายแล้วจึงตอบไปว่า : "จะให้เป็นยังไงล่ะคะ หนาวจะตายอยู่แล้ว"
เยี่ยจิงเฉินรีบหยิบเสื้อสูทของเขาที่เขาโยนทิ้งไปเมื่อสักครู่ยื่นให้ถังซินเหยาผ่านช่องที่เขางัดไปพร้อมกับพูดกับเธอว่า : "เธอไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด เอาเสื้อของฉันไปคลุมก่อนนะ อดทนอีกนิด ฉันจะช่วยเธอออกมาเอง"
ให้ตายเถอะ…….ทำไมป่าปี้ในภาพหลอนของเธอถึงได้เป็นคนที่อบอุ่นขนาดนี้นะ
นี่มันอะไรกัน ตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วนะ
"อื้อ ถึงแม้จะเป็นแค่ภาพหลอน แต่เห็นว่าคุณตั้งใจมาช่วยฉันขนาดนี้แล้ว ฉันอภัยให้คุณค่ะ" ถังซินเหยาควบคุมร่างกายอันเยือกเย็นของตัวเองพร้อมกับหยิบเสื้อนั้นขึ้นมา
เธอหยิบเสื้อมาคลุมอย่างตัวสั่นเทา บนเสื้อนั้นยังมีความอบอุ่นและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของคนเป็นเจ้าของอีกด้วย
มัน……ทำไมมันเหมือนความจริงจังเลยนะ
"จริงๆแล้วฉันมีความลับที่อยากจะบอกคุณค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังจะตายแล้ว ถ้าเกิดฉันไม่ได้พูด ฉันกลัวว่าชีวิตนี้ฉันจะไม่มีโอกาสที่จะบอกมันกับคุณ"
นี่เป็นแค่ภาพหลอน บอกป่าปี้ไปก็ไม่เป็นไรหรอก เพียงแค่ให้เธอได้ระบายสิ่งที่เธออัอั้นก่อนที่จะตายเธอก็สบายใจแล้ว
"รอเธอออกมาได้ก่อน แล้วค่อยบอกความลับนั้นกับฉันนะ" เยี่ยจิงเฉินพูโด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ถึงแม้ว่าถังซินเหยาจะโอเวอร์เกินไป แต่ที่นี่ไม่ใช่ขั้วโลกเหนือนะ ถึงจะหนาวแค่หนก็ไม่ทำให้ใครตายเพราะทนหนาวข้ามคืนหรอก
แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนล้าของถังซินเหยาในตอนนี้มันกลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในใจขึ้นมา
แม่เจ้า ในที่สุดเอก็รวบรวมความกล้าและตัดสินใจที่จะสารภาพความจริงเรื่องเค่อหลานและลั่วหลิงก่อนที่เธอจะไม่อยู่ แต่……..เขากลับไม่อยากจะฟังมัน เสียใจจัง
เสียงดังโครงครางเกิดขึ้น ประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว
ถังซินเหยาเห็นร่างสูงของเยี่ยจิงเฉินที่ยืนอยู่ในความมืดตรงหน้าของเธอ ถึงจะมองเห็นหน้าของเขาได้ไม่ชัด แต่ถังซินเหยากลับรู้ว่าคนๆนั้นคือเยี่ยจิงเฉิน
ณ ตอนนั้น ใจของถังซินเหยาเต้นแรงมาก ราวกับว่าใจของเธอจะหลุดออกมาเลยทีเดียว
ถังซินเหยานึกถึงเทพจื่อเซียพูดกับจือจวนเป่าภาพยนตร์ไซอิ๋วเลย ที่ว่า : "ฉันคือฉันรักคือฮีโร่ สักวันหนึ่งฉันจะแต่งงานกับเขาท่ามกลางเมฆที่งดงาม"
และเธอก็เห็นว่ามีเมฆลอยอยู่ใต้เท้าของป่าปี้และป่าปี้ก็กำลังมุ่งหน้าทางเธอ
แม่เจ้า ทำไมจู่ๆเธอถึงรู้สึกโชคดีขนาดนี้กันนะ?
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาช่วยเธอแล้ว"
เยี่ยจิงเฉินเดินข้าไปหาเธอแล้วรวบเอาร่างบางที่เยือกเย็นของถังซินเหยาเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง พร้อมกับพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นที่สามารถทำให้ใจละลายได้กับเธอ
ถังซินเหยาฝังใบหน้าของเธอเข้าในอ้อมกอดของเยี่ยจิงเฉิน จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและกลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของป่าปี้ช่วยทำให้ความกังวลความกลัวของเธอค่อยๆหายไป
ความอบอุ่นที่ป่าปี้มีให้เธอในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความอบอุ่นจากร่างหายอย่างเดียว แต่รวมถึงใจของป่าปี้ที่เย็นชามากๆนั้นก็ค่อยๆอบอุ่นอ่อนโยนขึ้นมา
การที่เธอได้อยู่ในอ้อมอกของเยี่ยจิงเฉินแบบนี้ทำให้เธอมีความสุขจริงๆ
"คุณขี่เมฆมาขอฉันแต่งงานแล้วใช่มั้ยคะ?" ถังซินเหยากอดเอวหนาของเยี่ยจิงเฉินพร้อมกับกระซิบพูดอยู่ข้างๆหูของเขา
MANGA DISCUSSION