ฟังที่จ้าวหลินพูด ฟางเฉงก็มองไปที่สายตาของถังซินเหยา รู้สึกไม่ดีเล็กน้อย
ซวยแล้ว ไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว
นี่คุณพี่คะทำตัวดีๆกับพวกเราหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?!ใครอิจฉาเธอกัน?!
หรือว่าอิจฉาเธอที่ไม่สวยเหมือนตัวเอง ไม่สาว หุ่นไม่ดี หน้าอกไม่ใหญ่ ไม่มีเงินเท่ากับเธอ อิจฉาเธอขนาดนี้จนตอนนี้แล้วเธอยังใช้ไอโฟนสี่เอสอยู่เหรอ?ฉันไม่ต้องไปขายไตตอนนี่ก็เป็นผู้หญิงที่ใช้ไอโฟนหกแล้ว โอเคนะ?
ไม่ว่าทางไหนเธอก็ดีกว่าจ้าวหลิน ยิ่งกว่านั้นที่สำคัญที่สุด เจ้านายของเธอยังหล่อกว่าเจ้านายของจ้าวหลินอีก
แล้วก็ยังมีอันนั้นเรียกว่าอะไรนะผู้ชายเลวๆแบบเฉิงเธอเอาไปก็ดีแล้ว ยังอยากจะแถมเงินให้เธอไปอีก เธอไม่อยากได้ผู้ชายเลวๆแบบนี้หรอก
ยังมีอะไรอีกนะ“ที่สุดแล้วผู้ชายที่เธอรัก คำพูดนี้มันช่างเกินไปแล้วไหม!
เธอไปรักตอนไหน?เธอเองยังไม่รู้เลย โชคดีนะที่จ้าวหลินบอกเธอ
ไม่อย่างนั้นชาตินี้เธออาจจะไม่รู้เลย เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะรักฟาง……คนนั้น……คนนั้น……เขาชื่อฟางอะไรนะ
เหนื่อยเหลือเกิน รู้สึกว่ายังไงก็ไม่ไปรักเขาอีกแล้ว
“ถ้าพวกเธอไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นก็ออกไปได้แล้ว”ถ้าหากยังไม่ไปอีก จะจับพวกคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลบ้านะ
“เธอไล่พวกเราเหรอ?”ฟางอี้เฉิงถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี
บนใบหน้าของถังซินเหยายิ่งกลับยิ้มแย้ม ไปยั่วโมโหโดยที่ฟางอี้เฉิงแทบละสายตาไปไม่ได้ ไม่ได้เจอตั้งกี่ปี ซินเหยาเหมือนกับว่านับวันยิ่งสวยขึ้น
“ใช่ค่ะ พวกคุณพูดไม่ผิด ฉันไล่ให้พวกคุณไป”ถังซินเหยาก็ทำเป็นไม่เห็นสายตาที่ทำให้เธออาจจะอ้วก ยอมรับไปแบบหยิ่งๆ
แย่แล้ว เธอไม่ได้อาศัยเตียนเฟิงกรุ๊ปกินข้าวสักหน่อย ตอนนี้เธอแค่อยากจะหลุดพ้นกับคนไร้ยางอายสองคนนี้
“เธอรู้ว่าเฉิงเป็นคนแบบไหนเหรอ?”จ้าวหลินถามไปอย่างกระตือรือร้น
ถังซินเหยามองจ้าวหลินไปแวบหนึ่งอย่างพูดไม่ออก นังผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ลืมกินยาก่อนออกจากบ้านเหรอ?
เมื่อกี้เธอไม่ใช่ว่าพูดออกไปแล้วเหรอ?ว่าเป็นผู้จัดการใหญ่ของเตียนเฟิงกรุ๊ป
เธอจะไปรู้ได้อย่างไรกันผู้ชายเลวๆแบบเฉิงจะเป็นคนแบบไหนกัน?ถึงแม้ว่าจะรู้ เธอก็ไม่บอกนังผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้หรอก
นอกเสียจาก……เธอให้ค่าที่ปรึกษา
ถังซินเหยายังไม่ทันตอบ จ้าวหลินก็ทำหน้าอย่าภูมิใจ ทนไม่ได้ที่จะพุดออกมา“เฉิงของฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่อันหรันของตระกูลลู่ อันหรันเป็นว่าที่คุณผู้หญิงของบริษัทเยี่ยหวาง ประธานเยี่ยของพวกเธอเป็นน้องเขยของเฉิง เธอมีสิทธิอะไรไม่ให้เฉิงไปเจอน้องเขยของตัวเอง”
อ๋อ?ที่แท้ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่อันหรัน
ลู่อันหรันมีลูกพี่ลูกน้องและน้องสะใภ้แบบนี้ เธอก็รู้สึกเห็นใจลู่อันหรันขึ้นมาแล้ว
เชอะเชอะ……ก็ไม่รู้ว่าจ้าวหลินจะภูมิใจขนาดนี้
ผู้ชายที่ใช้เส้นสาย หรือว่านี่เลยทำให้เธอรู้สึกเหนือกว่าเหรอ?
“อ๋อ”ถังซินเหยาพูดน้ำเสียงนิ่งๆ พูดว่า“ที่แท้พวกคุณกับว่าที่พี่เขยพี่สะใภ้ประธานของพวกเราสินะ?”
……
ฟางอี้เฉิง……
จ้าวหลิน……
ถังซินเหยา……
ความเงียบก็ได้เข้าปกคลุม ถังซินเหยาทำสีหน้าปกติ รอยยิ้มบนหน้ายังคงอยู่ตลอด
สีหน้าของฟางอี้เฉิงกับจ้าวหลินดูเหมือนว่าจะเหมือนกับจานสี เปลี่ยนสีแบบไม่หยุดเลย
ฉันไป ไม่คิดเลยว่าคนไร้ยางอายสองคนนี้จะมีความชำนาญแบบนี้ ดูแล้วพวกเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร
“ซินเหยา ฉันยังรักเธอนะ อย่าเป็นแบบนี้เลย”ฟางอี้เฉิงก็เอาถังซินเหยาเข้าไปในอ้อมกอด กอดถังซินเหยาไว้อย่างแน่น ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดอยู่ด้วยกัน ดูแล้วดูใกล้ชิดกันมาก
“เลขาถัง นี่เธอทำงานแบบนี้เหรอ?เวลาทำงานนี่มาลวนลามกันเหรอ?”
เสียงที่เย็นชา ที่ไม่มีใครรู้ ราวกับว่าเป็นเสียงของปีศาจร้ายดังขึ้นมา
ไอ้หยา ซวยแล้ว……ไม่ต้องสืบเลยก็โจมตีคนไร้ยางอายนั้นสำเร็จ
ยังไงเธอก็ต้องเล่นงานฟางอี้เฉิงคนน่าเกลียดให้ตายไปเลย
น่าดีใจนัก เพราะในตอนที่เธออยากจะตีเขาให้ตายนั้น ในที่สุดเธอก็คิดออกว่าแฟนคนแรกของเธอชื่อฟางอี้เฉิง
เธออยากจะทำลายฟางอี้เฉิง แต่ว่าเธอนั้นสักยภาพของเธอมันมีขีดจำกัด
เธอผลักไสป่าปี้ไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ เพราะว่าป่าปี้หล่อ แต่ว่าตอนนี้ฟางอี้เฉิงทำไม่ถูกจริงๆ กลายเป็นคนน่าเกลียดแบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะผลัก……ไม่……ออก นี่มันเหลือจะอดจริงๆ นี่มันน่าอัปยศอดสูจริงๆ
“เลขาถัง นี่เธอทำงานแบบนี้เหรอ?เวลาทำงานนี่มาลวนลามกันเหรอ?”
ถึงแม้ว่าเสียงจะเย็นชา แต่ว่ากลับไม่สามารถปกปิดเสียงที่เซ็กซี่นี้ได้
มาได้จังหวะพอดี เธอกดไลค์ให้ป่าปี้รัวๆเลย
ป่าปี้ รีบมาช่วยเธอเร็ว เธอโดนผู้ชายน่าเกลียดคนหนึ่งรังแกแล้ว ฮือฮือฮือ
ถังซินเหยาได้ยินเสียงของเยี่ยจิงเฉิน ก็เหมือนกับว่าได้กินผักโขมเข้าไป ก็มีแรงขึ้นมาเลย เธอผลักฟางอี้เฉิงออกไป อีกนิดเดียวก็เกือบจะล้มลงไปแล้ว
“ประธานเยี่ย นี่คือประธานฟางและเลขาจ้าวเป็นลูกพี่ลูกน้องและพี่สะใภ้ในอนาคตของคุณ บอกว่าอยากเจอคุณ คุยเรื่องการร่วมมือกันกับเยี่ยหวางและเตียนเฟิงกรุ๊ป”ถังซินเหยาวิ่งหนีไปอยู่หลังของเยี่ยจิงเฉิน พูดความหยิ่งของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
เรียกกันโดยทั่วไปว่าแอบ……กระ……ซิบ……
ป่าปี้ คนไร้ยางอายสองคนนี้น่ากลัวมาก คุณต้องปกป้องผู้หญิงที่อ่อนแอบอบบางคนนี้ด้วยนะฮือฮือฮือ!
จ้าวหลินเห็นเยี่ยจิงเฉิน ตาก็เป็นประกายเลย หล่อมากจนขาอ่อนแล้ว เยี่ยจิงเฉินไม่เคยยอมรับให้ใครสัมภาษณ์แต่อย่างใด เธอก็พึ่งจะรู้เอาวันนี้ แท้ที่จริงแล้วประธานเยี่ยจิงเฉินของเยี่ยหวางหล่อแบบมีใครเทียบได้
จริงๆแล้วฟางอี้เฉิงไม่ได้ไม่หล่อ แต่ว่าดูสดชื่นเพียงเล็กน้อย
เทียบกับเยี่ยจิงเฉินที่อยู่ในระดับสูงขนาดนี้ หรูหราที่มีความหมายครอบคลุมว่าหล่อแบบอินเตอร์ ก็คือมีความรู้สึกLowเล็กน้อย
หลังจากที่ถังซินเหยากลับมาใกล้ชิดกับประธานใหญ่ก็ล้วนเป็นเหมือนหนัง ก็ทำให้เปลี่ยนไปเป็นเจ้าเล่ห์ ถึงจะให้กลับไปมองรักแรกที่สดชื่นนั้น เธอก็คงได้แต่สงสัยอยู่ลึกๆ ว่าเมื่อก่อนนั้นตัวเองโง่อะไรกันนะ ถึงเลือกผู้ชายที่ต่ำช้าแบบนี้
เยี่ยจิงเฉินเห็นสีหน้าท่าทางขอเธอที่ไปหลบอยู่ข้างหลังเขา เหมือนต้องการให้ปกป้อง ปาก็คว่ำลงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
เพียงแค่มองไปทางฟางอี้เฉิงและจ้าวหลินด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนลมของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดผ่านใบไม้ที่กำลังร่วงหล่น
“ฉันไม่รู้จักพวกเขา”เยี่ยจิงเฉินพูดออกมาอย่างไร้เยื่อใย
ว้าว ป่าปี้ เท่ห์มากจริงๆ
สีหน้าของฟางอี้เฉิงเต็มไปด้วยความอับอายและความอัปยศ แต่จ้าวหลินกลับหลงใหลอยู่กับการมองเยี่ยจิงเฉิน
มีเพียงแต่ผู้ชายแบบนี้แหละถึงจะเข้ากันได้กับจ้าวหลินได้
“ประธานเยี่ย สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นผู้รับผิดชอบของเตียนเฟิงกรุ๊ป ครั้งที่แล้วที่งานวันเกิดของอันหรัน เพราะว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยเลยไม่ได้ไปเจอกับประธานเยี่ย รู้สึกเสียดายมาก!”จ้าวหลินเหมือนกับเปิดใช้ปลั๊กอิน ไม่ทันไรก็เปลี่ยนเป็นคนใจกว้างขึ้นมา“ครั้งนี้ที่พวกเรามาหาประธานเยี่ยก็เพราะมีโครงการหนึ่งมาแนะนำ หวังว่าประธานเยี่ยจะให้โอกาสกับพวกเรา ให้พวกเราสร้างโอกาสใหม่ขึ้นมา”
คำพูดของจ้าวหลิน ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของเตียนเฟิงกรุ๊ปและลู่อันหรัน
“เอาอะไรมามั่นใจว่าฉันจะต้องการร่วมงานกับเตียนเฟิงกรุ๊ปของพวกคุณ?”เยี่ยจิงเฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไร้เยื่อใย สีหน้าก็ไม่ดีเลย
MANGA DISCUSSION