โอ้ยโอ้ยโอ้ย……จบกันจบกัน
ความลับของเธอจะมีคนรู้แล้ว ป่าปี้ต้องมาเห็นเค่อหลานกับลั่วหลิง จะรู้ว่าพวกเขาเป็นลูกของตัวเองไหมนะ?
ทำไมพระเจ้าต้องมาโหดร้ายกับเธอแบบนี้ทำไมต้องทำกับผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ด้วย?
เธอสามารถรู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายมาจากบนโลกใบนี้
“ใช่แล้วค่ะใช่แล้ว ในบ้านของฉันมีความลับที่บอกไม่ได้อยู่”ถังซินเหยาเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว“ดังนั้นประธานเยี่ยได้โปรดปล่อยมันไปเถอะนะคะ คุณรีบไปก่อนเถอะค่ะ ผู้ชายที่ดูดีแบบคุณ ฉันไม่อยากจะทำร้ายคุณจริงๆ”
รีบไปเถอะป่าปี้ ฉันขอล่ะ
ถ้าเป็นตามปกติแล้ว ตามความหลักแหลมของถังซินเหยาแล้วนั้น ยังไงก็ไม่ให้เกิดการกระทำที่โง่เขลาแบบนั้นหรอก
ถ้าเกิดว่าป่าปี้ชอบเค่อหลานกับลั่วหลิงมากจนอยากจะมาแย่งเธอไปจะทำยังไรดี?เธอจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน แต่ว่าเธอไม่ได้มีเงินเท่าป่าปี้ อำนาจก็สู้ป่าปี้ไม่ได้ เธอต้องสู้กับป่าปี้ไม่ได้แน่เลย
ถ้าเกิดว่าป่าปี้ไม่ชอบเค่อหลานกับลั่วหลิงล่ะ จะไปทำร้ายจิตใจของเด็กทั้งสองคนไหมนะ?
มีเสียงเปิดประตูออกมา
ก็……ไม่……ทันแล้ว
เธอไม่ทันได้คิด ทันใดนั้นก็ยื่นมือเข้าไปกอดเอวของเยี่ยจิงเฉินไว้ มืออีกหนึ่งข้างก็ไปปิดตาของเยี่ยจิงเฉิน
“ห้ามมองนะคะ”เธอใกล้จะหมดหวังแล้ว
เยี่ยจิงเฉินยืนมือไปกุมมือของถังซินเหยา และดึงเอามือเธอลงมา
เห็นเงาในประตู เยี่ยจิงเฉินยักคิ้วค่อนข้างมาก ถามว่า“นี่เป็นความลับที่เธอไม่อยากให้ฉันเห็นเหรอ?ไหนยังวางแผนจะฆาตกรรมฉันอีก?
ถังซินเหยาก็หมดหวังไปแล้ว เธอไม่มีความกล้าที่จะไปเผชิญกับโลกนี้แล้ว
ทำยังไงดีนะ รู้สึกว่ายังไงก็จะไม่รักแล้ว
เธอเอาหัวไปกลบอยู่ที่หน้าอกของเยี่ยจิงเฉิน ยิ่งแล้วไปกว่านั้น ก็ตอบไปอย่างไม่สบายใจว่าอืม
ป่าปี้เป็นคนชอบทำให้เรื่องเป็นเรื่องใหญ่ตามคาด เผชิญกับเรื่องแบบนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเงียบได้ขนาดนี้
หรือว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นพ่อของลั่วหลิงกับเค่อหลานกัน?
“พวกเธอยังคิดจะยืนกอดกันตรงหน้าประตูนี้อีกนานไหม เดี๋ยวอีกไม่นานก็เลิกกัน”น้ำเสียงทีไพเราะสดใส นำพาความความไม่ไว้วางใจมาเล็กน้อย
เสียงนี้มันดูค่อนข้างคุ้นเคย ไม่น่าจะใช่เสียงของลั่วหลิงและเค่อหลาน
ถังซินเหยารีบหันหน้าไปทันที หลังจากนั้นก็เห็นหน้าขาวซีดอยู่
“บ้าไปแล้วเหรอ”เธอร้องโหยหวนในขณะที่ไปกอดอยู่ที่เอวของเยี่ยจิงเฉิน
คิดไปคิดมาถ้าหากตายไปมีป่าปี้ที่หล่อจนถึงขั้นไม่มีเพื่อนที่จะอยู่ข้างๆ ดูเหมือนกันว่าไม่ใช่ว่าจะรับไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้นก็ดึงมาร์กหน้าออก มองไปที่ผู้หญิงที่ใสซื่อไรเดียงสาที่อยู่ในอ้อมกอดของเยี่ยจิงเฉิน(เธอตาบอดเหรอ?เธอกำลังทำท่าแอ๊บแบ๊วอยู่?)พูดอย่างไร้อารมณ์“เสียงดังอะไร หนวกหู หุบปากเลยนะ”
ถังซินเหยาเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยก็เห็นกับหน้าที่สวยงามของชีชี
“ชีชี เธอกลับมาแล้วเหรอ ฉันคิดถึงเธอจะตายอยู่แล้ว”ถังซินเหยาไม่เคยรู้สึกว่าหลัวเหยียนฉีน่ารักขนาดนี้มาก่อน
“ออกไป”หลัวเหยียนฉีพูดออกมาอย่างมีระดับ
ถังซินเหยาก็ไม่ได้ไปคิดเล็กคิดน้อยอะไร ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนมีชีวิตรอดกลับมาอีกครั้ง เธอแทบจะยืนไม่อยู่ด้วยซ้ำ
“ประธานเยี่ย วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะที่คุณมาส่งฉัน ตอนนี้ฉันถึงบ้านแล้ว คุณอยากเข้าไปไหม?”ถังซินเหยาที่ถามก็ค่อยๆออกมาจากอ้อมกอดของเยี่ยจิงเฉินอย่างทำตัวไม่ถูก
เยี่ยจิงเฉินเห็นท่าทางของถังซินเหยาเมื่อครู่นี้รู้สึกว่าน่าสงสัยมาก การกระทำของเมื่อกี้แค่หยอกเล่นเอง แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่าเป็นการลองเชิงดู
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังคงสงสัย แต่ว่าพอนาทีที่เห็นสีหน้าของถังซินเหยาที่ปล่อยมือนั้น เขารู้สึกเศร้าอีกด้วย
“ไม่เป็นไร บริษัทยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอยู่ วันนี้ลำบากเธอมามากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างนิ่งๆ
เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าไอ้นี่บอกว่าไม่ยุ่งไม่เหรอ?
ป่าปี้ คุณเป็นประธานของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ เป็นแบบนี้ทำกับคนอื่นแบบไหนคนอื่นก็จะทำแบบนั้นตอบ เปลี่ยนคำสั่งไปๆมาๆ ไม่กลัวจะโดนยึดตำแหน่งเหรอ?
ปิดประตูไปแล้ว ถังซินเหยาพิงอยู่ที่ประตูไหลลงมาจากประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง
ความรู้สึกของเธอเมื่อกี้นี้เหมือนกับกำลังเล่นบันจี้จั้มอยู่ ตั้งใจที่จะกระตุ้นเธอ
หลัวเหยียนฉีกอดอกอยู่ มองถังซินเหยาอย่างเยาะเย้ย ถามว่า“ทำไม?ป่าปี้ของลั่วหลิงกับเค่อหลานกลับมาจากดาวอังคารแล้วเหรอ?”
พอสีหน้าของถังซินเหยาหยุดชะงักไป ชีชีเกลียดมากๆเลย ไม่น่าพูดถึงเลยจริงๆ(เมื่อครู่นี่ใครเป็นคนพูดกันว่าชีชีน่ารักนะ?ผู้หญิงช่างพูดคนนี้)
“อะไรกัน เธอพูดอะไรนะ?ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย”
“อย่างงั้นก็ได้ งั้นฉันไปถามลั่วหลิงกับเค่อหลานก็ได้”
ถังซินเหยาไปกอดขาของหลัวเหยียนฉีไว้แน่น เกือบจะร้องไห้แล้ว“ขอร้องอย่าถามเลย ตกลงตกลง จริงๆแล้วคนนั้นก็เป็นคุณลุงของลั่วหลิงกับเค่อหลาน จริงๆแล้วป่าปี้ของพวกเขาเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว ฉันกลัวว่าตระกูลของป่าปี้จะมาแย่งเด็กๆไปจากฉัน ดังนั้น……”
“ชีชี คุณต้องช่วยฉันเก็บเป็นความลับนะ”ถังซินเหยารู้สึกขมขื่นมาก คิดไปถึงตอนที่ดูละคร“ฉันกับพ่อของเด็กรักกันมากจริงๆ แต่ว่าเพราะฐานะของฉันมันต่ำต้อยเกินไป ดังนั้นเลยไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เขาบอกให้ฉันรอเขาสองปี รอให้เขาออกมาจากวงศ์ตระกูลได้ พวกเราก็จะไปแต่งงานกันที่ต่างประเทศ แต่ว่ะหว่างพวกเรานั้นมันเป็นไปไม่ได้แล้ว ฉันไปเรียนต่างประเทศ เขาก็มาเที่ยวหาฉัน”
“ตอนที่จากกันนั้น เขาพูดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะแยกจากกัน หลังจากนี้เราจะอยู่ด้วยกัน เธอให้ฉันรอที่บ้านรอเขากลับมา แต่ผลสุดท้ายเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย ฉันคิดว่าตัวเองยังไงก็อยู่ไม่ได้แน่ๆ แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าในเวลานั้นฉันกลับไปตรวจมาว่าตั้งครรภ์ เพื่อลูกแล้ว ฉันก็ต้องคลอดออกมา เมื่อครู่ที่เธอเห็นคุณลุงของเด็กๆ ที่ผ่านมานี้พวกเราพวกเราก็ล้วนไม่รู้การมีชีวิตอยู่ของเด็กๆ”
“ตระกูลเขาพวกเขานั้นใหญ่มาก ฉันกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีลูก คงจะยึดเอาลูกไป ดังนั้นฉันเลยไม่สามารถให้เขาเจอกับเด็กๆได้ ฉันใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง วันนี้ถ้าไม่เป็นเธอ ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องเสียลูกไปแล้วจริงๆ ฮือฮือฮือฮือฮือ ชีชี เธอเข้าใจฉันใช่ไหม?”
“ฉันไม่กล้าบอกกับลั่วหลิงและเค่อลหานมาโดยตลอดว่าป่าปี้ของพวกเขาไม่อยู่แล้ว ดังนั้นเลยโกหกพวกเขาไปว่าป่าปี้ของพวกเขาไปดาวอังคารแล้ว ฉันอยากให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ รอพวกเขาโตขึ้นกว่านี้ ฉันค่อยบอกความจริงกับพวกเขา”
แย่แล้วสิ หลังจากพูดจบ เธอเองนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาเลย
เธอเป็นผู้หญิงที่เยี่ยมยอดมากและยังเป็นแม่ที่ดีเลิศอีกด้วย
เพื่อคนรักที่เสียชีวิตไปแล้ว เธอเลี้ยงลูกทั้งสองคนมาอย่างดี
วันนี้เธอถึงจะพบว่า เดิมทีนั้นเธอไม่เพียงแต่หน้าตาน่ารัก สมองก็ดี และยังเป็นผู้เขียนบทละครฝีมือดีอีกด้วย
ถ้าหากว่าเธอสามารถเป็นผู้เขียนบทได้ คาดว่าละครครอบครัวทุกเรื่องก็คงจะเป็นที่น่าพอใจ
หลัวเหยียนฉีมองที่ถังซินเหยาอย่างรอบคอบ พูดอย่างสงสัยว่า“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย มีความรู้สึกเคยเจออมาก่อน เหมือนกันว่าเคยมีใครบอกมา”
“ฮือฮือฮือ……”มองไปที่ถังซินเหยาก็รู้ว่าซวยแล้ว นางเอกของละครเรื่องนั้นก็คือเด็กสาวก๋ากั่นที่อยู่ใต้มือของหลัวเหยียนฉีนั้นเอง เป็นนักเศรษฐศาสตร์ยังก็รู้สึกได้ว่าต้องเคยเจอมาก่อน“พูดถึงพ่อของลูก ฉันรู้สึกว่าฉันเหนื่อยใจมาก รู้สึกว่ายังไงก็จะไม่รักอีกแล้ว ฉันไปนอนพักผ่อนก่อนนะ ปวดหัวมากเลย”
MANGA DISCUSSION