ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 60 ชายหล่อที่สามารถล่มชาติล่มเมือง
รู้สึกว่าคำพูดของจิงเฉินครั้งนี้มันดูมีมูลสารเยอะอยู่นะ
"วันนี้จิงซิงออกจากโรงพยาบาล งานท่วมหัวอย่างไอ่แก่นั่นก็สามารถเจียดเวลาออกไปรับลูกชายเขาได้ ในตระกูลเยี่ยนี้ มีแค่เขาแหละที่มีสิทธิพิเศษแบบนี้" เมื่อจิงเฉินพูดจบ ก็ดื่มเหล้าที่อยู่ในมืออึกเดียวหมดแก้ว
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือป่าว แต่รู้สึกว่าน้ำเสียงด้านในของป๊ะป๋ามันมีความทุกข์ขมขื่นซ่อนไว้อยู่
หรือป๊ะป๋าจะเป็นประธานที่ขาดความรักความอบอุ่น?
"คือว่า….." ซินเหยามีความลังเลก่อนจะถามขึ้นว่า "เงินหนึ่งล้านนี้เป็นค่าปิดปากฉัน แล้วค่าที่ฉันดื่มเหล้ากับคุณเมื่อกี้ล่ะคะ?"
จิงเฉินหันมามองเธอและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "แล้วที่ฉันเป็นคนเอาเงินมาให้เธอจากไอ่แก่นั่นมันไม่ใช่ค่าตอบแทนหรอ?"
ป๊ะป๋า ทำไมคุณหน้าหนาจริงๆ?
นี่มันเป็นเงินที่ท่านประธานใหญ่ให้ ถึงแม้จะไม่ใช่คุณเป็นคนเอามาให้ ก็ต้องมีคนอื่นเอามาให้อยู่ดี
งั้นแสดงว่าป๊ะป๋าไม่ทำตามที่พูดไว้สิ?
ผู้ชายตระกูลเยี่ยมันขี้งกถึงขั้นไหนเขียวนะ? รวยซะขนาดนั้น ถ้าเอาเงินทั้งหมดออกมาคงจะเอามาพันรอบโลกได้10รอบ
ผู้ชายตระกูลเยี่ย : …..
ซินเหยาเสียแรงไปเยอะมากกว่าจะส่งจิงเฉินที่เมาหัวราน้ำเดิมโซซัดโซเซถึงบ้าน
เธอให้จิงเฉินเอามือของตัวเอาพาดไปที่ไหล่ของเธอ มือข้างหนึ่งจับไว้มือของจิงเฉินที่อยู่บนไหล่ ส่วนมืออีกข้างก็พาดกอดไปที่เอวอันแน่นแข็งของจิงเฉิน และเดินขึ้นห้องไป
แม่เจ้า ความจริงป๊ะป๋าผอมขนาดนี้เลยหรอ?
ใส่ไว้สูท ไหล่ที่ค่อนข้างเล็ก เรือนร่างและขาที่ค่อนข้างยาว เป็นหุ่นโอปป้าจริงๆ
ทำไมป๊ะป๋าถึงหนักขนาดนี้!?
เหมือนกับกำลังแบกภูเขาอยู่ มันจะทำให้เอวของเธอแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆแล้ว
แม่เอ้ย คราวหน้าถ้าเลิกงานนะ เธอจะปิดมือถือทันที ปิดทันที
ถ้ายังจะรับโทรศัพท์จากเขาอีก ตัดมือทิ้งเลย
กว่าที่จะเอาตัวของจิงเฉินขึ้นไปถึงบนห้องนอนได้นั้นมันไม่ง่ายเลย จากนั้นก็ปล่อยตัวเขานอนราบไปที่เตียง
ทุบนวดไปที่เอวของตัวเอง ซินเหยารู้สึกตัวเองไม่ไหวแล้ว
เน็กไทตอนนี้ของจิงเฉินหายไปไหนไม่รู้แล้ว กระดุม3เม็ดบนก็หลุดออก ทำให้เห็นถึงไห้ปลาร้าและหน้าอกที่สุดจะแน่นและเซ็กซี่เย้ายวน ภาพนี้มันเหมือนกับกำลังบอกให้เธอมาขย่ำเขาเข้าปากยังไงยังงั้น
ซินเหยากลืนน้ำลายลง มองดูอย่างไม่กระพริบตา
เธอเป็นคนที่ควบคุมสีหน้าของตัวเองอยู่ ถ้าท่านประธานฟางเล่นกับเธออีกสักนิดล่ะก็ ไม่แน่ว่ามันอาจจะได้ผลมากกว่าคำพูดหวานๆพวกนั้นก็ได้นะ
เธอได้สติกลับมา ป๊ะป๋านิสัยแย่ขนาดนี้ ถึงจะหล่อขนาดไหนก็ลบล้างนิสัยแย่ๆแบบนั้นออกไปไม่ได้หรอก (ไม่ใช่จ้า ต้องบอกว่าความหล่อสามารถลบล้างนิสัยแย่ๆนั้นได้ต่างหาก)
เธอถอดรองเท้าป๊ะป๋าออก และห่มผ้าผืนบางๆให้เขา
และพุ่งตรงไปที่ครัวทำน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง มันช่วยส่างเมาได้
ป๊ะป๋ารวยขนาดนี้ ทำไมไม่จ้างคนรับใช้มาคอยรับใช้เหมือนในละครล่ะ? ถ้าเป็นอย่างงั้นครั้งหน้าถ้าเธอมาเธอคงไม่ต้องทำเรื่องพวกนี้ไปแล้ว
"ท่านประธานคะ ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งนี้หน่อยค่ะ" เธอเรียกจิงเฉินให้ตื่นขึ้นและพูดต่อว่า "ดื่มเถอะค่ะ พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้ไม่ปวดหัว"
จิงเฉินที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็อ้าปากออก และดื่มลงไป
หลังจากดื่มก็ได้สติกลับมา
หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นมาและเอนตัวไปที่หัวเตียง
"เมื่อกี้คือน้ำอะไร?" เขาขมวดคิ้วและถาม
"น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งค่ะ มันช่วยส่างเมาได้ ตื่นมาก็จะไม่ปวดหัว" พูดจบเธอก็วางแก้วไปที่บนหัวเตียง
จิงเฉินยิ้มมุมปากและหัวเราะเบาๆออกมา
หลังจากได้เห็นรอยยิ้มของเขา เธอก็ไปไม่ถูก
ว้าว…..เมื่อกี้เธอเห็นป๊ะป๋าหัวเราะหรอ?
ยิ้มแล้ว มันเป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์มาก มันไม่ใช่รอยยิ้มที่เยาะเย้ยหรือว่ารอยยิ้มที่เย็นชา
หรือว่าอาจจะเป็นเพราะว่าป๊ะป๋าไม่ค่อยยิ้มเพราะงั้นพอยิ้มออกมาถึงได้ดูมีเสน่ห์ขนาดนี้มันมีความรู้สึกเหมือนว่าหิมะละลาย มันเปรียบดั่งในคืนที่มืดมิดมีแสงสว่างเป็นดาวที่กำลังส่องแสงประกายบนท้องฟ้า มันไม่ได้แสบตาเลย แต่มันกลับทำให้คนไม่สามารถละสายตาได้ต่างหาก
ที่แท้ป๊ะป๋ายิ้มออกมามันก็ดูหล่อซะขนาดนี้เป็นรอยยิ้มที่สามารถล่มชาติล่มเมืองได้จริงๆ
เธอโดนรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของป๊าป๋าสะกดจิตแล้ว
"นี่เธอดูข้อความจากQQเยอะเกินไปแล้วหรือเปล่า? ข้อความพวกนั้นเธอก็เชื่องั้นหรอ? จิงเฉินเพียงแค่หัวเราะเธอออกมาอย่างบริสุทธิ์
แม่เจ้า คนอย่างป๊ะป๋านี่นะที่จะรู้จักQQ
"คุณอย่าดูถูกQQนะ มันมีบทความอีกหลายบทความมากที่เป็นประโยชน์"
ในฐานะที่เธอเป็นสมาชิกเก่าแก่ของQQมานาน เธอรู้สึกว่าจะต้องปกป้องQQสักหน่อย
"ใช่หรอ?"จิงเฉินลูบไปที่หน้าผากของตัวเองตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ
"ปวดหัวหรอ? ให้ฉันนวดให้ไหม?" ซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
หลังจากถามเสร็จเธอก็รู้สึกเสียใจทันที เธอโดนรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของป๊ะป๋ายั่วยวนเข้าให้แล้วสินะ
ปฏิเสธเถอะ ปฏิเสธเร็วเข้า
"ได้สิ" หลังจากพูดจบ จิงเฉินก็นอนลงอย่างเชื่องๆ
ซินเหยานวดเป็นด้วยหรอ? เธอเพียงแต่ใช้มืออันบางเบาของเธอกดลงไปที่หัวของจิงเฉิน ไม่นานลมหายใจของจิงเฉินก็ได้ช้าและเบาลงเหมือนกับว่าเขานอนหลับไปแล้ว ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว เธอก็ขี้เกียจกลับไปด้วย เธอจึงไปล้างหน้าแล้วก็นอนลงข้างๆจิงเฉิน
……
เช้าวันต่อมาตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก ซินเหยาก็ตื่นขึ้นและเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งกลับบ้าน เธอเสียเงินไปหลายร้อย หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบไปบริษัท
ถึงบริษัทอย่างตรงเวลา เพิ่งนั่งลงแป๊บๆยังไม่ทันได้หายใจ หลี่เวยก็พุ่งตรงเข้ามาหาเธอ"เหยาๆที่น่ารัก แสนดี สะสวย บริสุทธิ์ เธอมาลองชิมเชอรี่ที่ฉันซื้อมาเมื่อวานหน่อยสิ
เธอหยิบเชอรี่ออกมาหนึ่งพวง มันแดงสดเหมือนกับสีของเพชรทับทิม ถึงแม้ว่าหากรสชาติจะไม่อร่อย แต่รูปลักษณ์ภายนอกนี้มันก็ชวนให้คนซื้อจริงๆ เชอรี่นี้ล้างมาแล้ว ข้างบนยังมีน้ำเกาะอยู่
"เธอถูกหวยหรอ?" ซินเหยากินไปหนึ่งลูกรสชาติหวานฉ่ำน้ำมาก ตอนนี้ทั้งปากของเธอมีแต่กลิ่นหอมหวานเต็มไปหมด
เธอเคยเห็นที่ตลาดครั้งหนึ่ง เชอรี่นี้โลนึงราคาตั้ง 500 กว่า แต่ยังไม่สดเท่าของหลี่เวยแบบนี้เลย
เพราะงั้นผลไม้นี้คงเป็นของพวกคนรวยกินกันสินะ
"ไม่ใช่ แต่ว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน เมื่อฉันมีของอร่อยแบบนี้ฉันก็ต้องนึกถึงเธอสิ" หลี่เวยยิ้มออกมาอย่างหวานๆ
"โลนึงเท่าไหร่นะ กลับไปฉันก็จะไปซื้อบ้าง" เธอตัดสินใจที่จะซื้อให้ลูกทั้งสองของเธอได้กิน
"นี่มันแพงมาก" ฉันซื้อมาจากต่างประเทศโดยขนส่งทางอากาศ โลนึงก็ต้องอย่างน้อย พันสอง(หยวน) ถ้าเธออยากกินแล้วหล่ะก็ ตรงนั้นฉันยังมีอีก เดี๋ยวให้เธอหมดเลย เธอเอากลับไปได้หมดเลยนะ" หลี่เวยพูดอย่างใจกว้าง
ซินเหยารู้สึกว่าเธอไม่ควรกินเชอรี่นี้อีก เธอรู้สึกว่าวันนี้หลี่เวยไม่ค่อยปกติดี
เธอโดนมนุษย์ต่างดาวสิงร่างไปแล้วหรือไง?