“อือๆๆๆ…….” ซินเหยาพุ่งเข้าไปรั้งไว้ที่มือของจิงเฉินและพูดขึ้นว่า “ท่านประธานอย่านะคะ ที่ฉันนิ่งเงียบไปเมื่อกี้ก็แค่ดีใจจนเกินไปที่ได้เข้าใกล้ท่านประธานขนาดนี้อ่ะค่ะ”
เธอเหมือนกวีเถายวนหมิงจริงๆ ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจกิเลส (เห้ออ)
เธอมันเป็นคนที่บูชาเงิน
ถ้าเกิดว่าเธอไม่เอาเงินนี้ เธอต้องทำโอทีถึงตอนไหนล่ะถึงจะได้ขนาดนี้
“ งั้นยังไม่เริ่มอีก นิ่งอยู่ทำไม” หน้าของจิงเฉินที่เต็มไปด้วยความกวนโอ้ย
“งั้นคุณเอาเช็คให้ฉันก่อนสิคะ” ซินเหยายื่นมือออกมา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจป๊ะป๋านะ เธอแค่ไม่เชื่อใจนิสัยของป๊ะป๋าก็เท่านั้น
เขาเป็นคนหัวหมอเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ถ้าเกิดเธอโดนหลอกฟรีๆล่ะก็ เธอจะซื้อเชือกมาแขวนคอตายหน้าบ้านของเขาเลยคอยดู
คิดไม่ถึงจริงๆว่าป๊ะป๋าจะรวยถึงขั้นที่ทำถึงขนาดนี้ได้
จิงเฉินยื่นเช็คให้เธอในทันที ทำให้เธอรู้สึกถึงว่านี่มันไม่ใช่ความจริงเลย เหมือนเธอฝันไปอยู่
เธอหยิบเช็คใบนั้นมาดูอย่างหน้าระรื่น อ้อ เช็คหนึ่งล้านหยวนถ้วน
“โอเครล่ะ เช็คก็ให้คุณแล้ว ทำตามสัญญาที่บอกเร็วเถอะ”
แม่เจ้า เธอซวยแล้วห
ป๊ะป๋าถึงแม้จะเอาแต่ใจไปหน่อย แต่ก็มีความแบดอยู่นิดๆ
ป๊ะป๋าหล่อถึงขนาดความแบดหายไป รวยถึงขนาดที่ไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว
คนอย่างป๊ะป๋าแบบนี้นำหน้าพวกดาราดังเหล่านั้นยี่สิบศัตวรรษแล้ว
คิดไปคิดมา ยังไงเธอก็ได้เปรียบอยู่ดี
ซินเหยาเลือกเหล้าที่ค่อนข้างที่จะแรง จากนั้นนำมาอมไว้ในปากของเธอ เหล้านี้แรงมาก เธอรู้สึกถึงความเผ็ดแสบไปทั้งภายใน
ยื่นมือไปคว้าคอของจิงเฉิน นำพาริมฝีปากของตัวเธอเองให้ไปบรรจบกับของเขา และส่งน้ำรักอันเร้าร้อนนี้ให้กับเขา
เธอสูดดมลมหายใจเข้า ได้เพียงแต่กลิ่นเย็นสดชื่นที่ส่งผ่านมาจากตัวของจิงเฉิน
กลิ่นนี้มันผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ตลบอบอวลไปหมด มันทำให้ลิ้นของเธอมีกลิ่นหอมอ่อนๆหลงเหลือติดมาด้วย
หรอว่าจะเป็นเพราะเหล้ามันแรงเกินไป ตอนนี้เธอรู้สึกเวียนหัวหน่อยๆ เธอเบิกตาของตัวเองให้ใหญ่ขึ้น มองไปที่หน้าอันใกล้ของจิงเฉิน กลับเห็นแต่ความมัวหม่น ตอนนี้เธออาจจะเมาไปแล้วสินะ
อยากจะเอาเหล้าอึกสุดท้ายใส่เข้าไปในปากของจิงเฉิน เเละเอาตัวเองออกมาจากจุดนั้น แต่มันคงจะช้าไปเสียแล้ว……
จิงเฉินยื่นมือไปรั้งไว้ที่คอของเธอ สอดใส่ลิ้นของตัวเองเข้าไปบรรเลงในช่องปากของเธอทุกซอกทุกมุมอย่างเร้าร้อนเผ็ดเดือด ลิ้นของจิงเฉินค่อยๆบรรเลงจากเยื่อบุข้างแก้มซ้ายไปถึงลิ้นและไปทางขวา ตอนนี้ลิ้นของทั้งสองสอดใส่ประสานกันปานเป็นอันหนึ่งอันเดียว ลิ้นของจิงเฉินได้ละเลงไปทั่วปากของซินเหยา ลมหายใจของทั้งสองสอดประสานกัน ทั้งสองตอนนี้เหมือนจะกลืนกินกันเป็นคนเดียวกันยังไงยังงั้น
ปากของจิงเฉินที่มีกลิ่มเหล้าผสมอยู่กับกลิ่นของนิโคติน แต่ลิ้นทั้งสองก็สามารสอดประสานกันได้อย่างลงตัว และนี่มันเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของจิงเฉิน
“อ๊ะ…..” มือทั้งสองข้างของซินเหยาที่กำลังวางอยู่บนหน้าอกอันแน่นของจิงเฉิน เสียงอุดอู้ที่ออกมาจากปากของเธอที่กำลังยู้ยี้อยู่นั้นก็ได้ดังขึ้น “พอ……พอได้แล้วค่ะ”
หรือว่าป๊ะป๋าจะเมาจริง? คาดไม่ถึงว่าเธอพูดขอร้องออกมาแล้วป๊ะป๋าจะทำตามคำขอร้อง
สิ่งที่ป๊ะป๋าทำเมื่อกี้เธอรู้สึกถึงลมที่พัดโบกมาจากทิศทางที่แสนไกล ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจมากที่ป๊ะป๋ายอมปล่อยเธอ ป๊ะป๋าเปลี่ยนหมอแล้วหรอ? เธอรู้สึกยังมีทางที่จะรักษาโรคร้ายนี้ของป๊ะป๋าได้อยู่
เพราะงั้นสู้ๆนะคะ อย่าหยุดรักษาเป็นอันขาดเลยนะคะ ฮ่าๆ
หลังจากที่ซินเหยาโดนจิงเฉินยำไปขนาดนี้แล้ว ตอนนี้จิงเฉินก็มองไปที่ผลงานของตัวเอง ริมฝีปากที่แดงช้ำ สายตาที่มีความมัวหม่น ปากที่มีน้ำแบบฉ่ำๆ สภาพที่ดูน่าสังเวชจากการถูกรังแกเช่นนี้มันทำให้จิงเฉินมีความสุขขึ้นมาทันที
จิงเฉินหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา และเอนนอนลงบนโซฟา
มันดูเย้ายวนเซ็กซี่มากท่านี้
โลกนี้มันเป็นโลกแห่งความจอมปลอม
เธอรู้สึกถึงความรักอันโหดร้ายที่แผ่ขยายออกมจากป่าอันมืดมิด เธอตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้ของเธอจะไม่รักใครอีก
“เอาล่ะ ไม่แกล้งคุณแล้ว” เสียงของจิงเฉินที่ดูอบอุ่นขึ้นหลายเท่า
เห็นชัดๆว่าแกล้งกันอยู่
เช็คใบนี้ไม่ใช่ของปลอมนะ ป๊ะป๋าคงไม่ทำเรื่องอะไรแบบนี้น่ะ
“เดี๋ยวขับรถส่งผมกลับไปนะ” จิงเฉินพูด
แล้วที่บอกว่ามีคนขับรถล่ะไปไหนแล้ว?
เธอไม่ได้เรียนหนังสือเยอะเท่าป๊ะป๋า ป๋ะป๋าก็อย่าหลอกเธอเลย
ซินเหยาเบิกตาออกให้กว้างที่สุดและมองไปที่จิงเฉิน สายตานี้เหมือนกำลังจะฆ่าเขาให้ได้ยังไงยังงั้น
ในตลาดธุรกิจนี้จิงเฉินก็เป็นหมาป่าที่เจ้าเล่ห์มากตัวหนึ่ง คู่แข่งที่ยากจะเอาชนะได้เขาก็ล้มมาหมดแล้ว กับอีแค่สายตาของซินเหยาที่แสดงออกมาจะไม่รู้หรอว่าเธอคิดอะไรอยู่ (ที่แท้เธอก็อยากให้เขารู้แหละ ไม่นับว่าเขาฉลาด)
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นแล้ว เช็คใบนี้มันคือของจริง”
แล้วทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้ เมื่อกี้คุณเกือบจะทำร้ายใจดวงเล็กๆนี้ที่บริสุทธิ์ไปแล้วนะ
“จะว่าไปเช็คใบนี้ไอ่หมอนั่นเป็นคนให้เองแหละ ถือเป็นการขอโทษคุณอย่างหนึ่ง” เสียงพูดหยุดไปสักพัก และดังขึ้นอีกครั้งว่า “คุณสามารถถือซะว่านี่มันเป็นค่าทำขวัญให้คุณ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบลงแต่เพียงเท่านี้ อีกหน่อยก็คิดซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”
ที่เขากำลังพูดคือเรื่องคราวก่อนที่จิงซิงทำเธอไว้หรอ ที่เธอใช้แผนการของตัวเองในการที่จะกำจัดจิงซิง สุดท้ายก็โดนจิงเฉินเอากลับไป
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่พอใจเอามาก
คุณเยี่ย อย่าคิดว่าคุณหล่อก็สามารถทำทุกอย่างตามใจคุณได้นะคะ คุณเป็นคนแบบนี้พนักงานคุณรู้หรือป่าว?
อีกอย่างนะ บ้านคุณรวยขนาดนั้น
เงินแค่ล้านเดียว คิดหรอว่าจะปิดปากเธอได้
เงินล้านหนึ่งนี้สำหรับพวกเขาแล้วถ้าตกพื้นก็คงจะขี้เกียจเก็บขึ้นมากระมัง
ก็เหมือนกับเธอที่เห็นเงินหนึ่งสตางค์ตกที่พื้น จะเอื้อมมือลงไปเก็บไหม?
เธอไม่ได้สนใจว่าเงินจะมากจะน้อย แต่เธอแค่สนใจว่าพวกเขามีความ……มากเพียงใด
เธอแค่รู้สึกว่าเงินล้านหนึ่งมันน้อยไปหน่อยเท่านั้น
เมื่อกี้เหมือนเธอทำอะไรโง่ๆลงไปอีกแล้ว เหมือนเมื่อกี้จะโดนจิงเฉินแหย่ไปหนึ่งดอกแล้ว
แค่ตอนนี้ไม่ได้สนใจรายละเอียดพวกนั้น
“แต่รอบแล้วไอ่แก่…..ไม่ใช่ๆ……ท่านประธานใหญ่” เธอเปลี่ยนคำสรรพนามอย่างทันทีและพูดขึ้นว่า “ท่านประธานใหญ่บอกว่าถ้าสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง จะตอบแทนฉันด้วยรางวัลที่ฉันพอใจไม่ใช่หรอ”
แม่เจ้า เกือบหลุดปากเรียกไอ่แก่แล้วนะ
“คิดไม่ถึงว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้นะ” แล้วถามขึ้นว่า “แล้วเธออยากได้อะไรล่ะ?”
"อย่างน้อยก็ควรให้คุณชายน้อยนั่นมาพูดขอโทษฉันมั้งคะ" และพูดเสริมอีกว่า "เงินหนึ่งล้านนี้ก็ห้ามริบคืนด้วย เพราะนี่มันเป็นค่าทำขวัญให้กับฉัน"
หลังจากที่เขาได้ฟังจบ ก็ยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างเยาะเย้ย
นี่ป๊ะป๋า! คุณกำลังทำสีหน้าเยาะเย้ยเธออยู่งั้นหรอ?
"เขาไม่มีวันให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาต้องมารับเรื่องแบบนี้หรอก ให้จิงซิงมาขอโทษคุณ ก็ฝันไปเถอะ" และพูดขึ้นต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า "ครั้งแล้วถ้าไม่ถือว่าเป็นการให้เกียรติตระกูลฟาง แค่เธอออกมาอย่างปลอดภัยก็ยากเต็มทีแล้ว และเงินหนึ่งล้านนี้ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะได้เลย เพราะงั้นจงพอใจซะเถอะ"
อ๋อ……ที่แท้คนที่ป๊ะป๋าเยาะเย้ยไม่ใช่เธอ
MANGA DISCUSSION